www.narongthai.com  

www.narongthai.com เป็นเว็บไซต์เชิงวิชาการ ที่สามารถนำอ้างอิงได้ตามหลักวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                           
 

 ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
https://www.facebook.com/profile.php?id=100010475651732
สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 สถิติวันนี้ 48 คน
 สถิติเมื่อวาน 33 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
2705 คน
11735 คน
1704179 คน
เริ่มเมื่อ 2010-01-13

 
เครื่องบินตก 3 ครั้งที่ภูเก็ต เพราะฝีมือมนุษย์
โดย...ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
17 กันยายน 2550
 
อุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ภูเก็ต ในรอบ 23 ปี เกิดขึ้น 3 ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้น เมื่อเดือนมีนาคม 2527 เป็นเครื่องบินของ บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด (บดท.) เส้นทางบินสนามบินดอนเมือง-สนามบินภูเก็ต  ชนภูเขาตกที่ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา สาเหตุที่ตกมาจากทัศนวิสัยเลวร้าย ทำให้ ผู้โดยสาร กัปตัน พร้อมลูกเรือ เสียชีวิตทั้งหมด 
 
3 ปี ต่อมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2530 เวลา ประมาณ 15.30 น. เครื่องบิน ของ บดท. มีเส้นทางการบินระหว่าง สนามบินหาดใหญ่-สนามบินภูเก็ต   เกิดอุบัติเหตุตกที่   บริเวณอ่าวปอ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตกก่อนที่จะถึงสนามบินภูเก็ต ประมาณ 7 กิโลเมตร มีผู้โดยสารพร้อมกัปตัน และลูกเรือ เสียชีวิต ทั้งหมด 83 ราย    
 
ผลการสอบสวนปรากฏว่า เครื่องบินของ บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด (บดท.) บินอยู่ใกล้สนามบินภูเก็ต และพร้อมที่จะลง ขณะเดียวกัน เครื่องบินของสายการบิน ดาร์กอนแอร์ มุ่งหน้าออกจากประเทศฮ่องกง ในสมัยนั้น บินอยู่ห่างสนามบินภูเก็ต ประมาณ 15 ไมล์ และก็พร้อมที่จะลงจอดที่สนามบินภูเก็ต เช่นกัน แต่เครื่องบินของ บดท ได้รับการแจ้งจาก หอวิทยุควบคุมการบิน ให้ลงจอดเป็นลำที่สอง   ส่งผลให้นักบิน ต้องเร่งเครื่องเพื่อที่จะบินวน และรอที่จะลงจอดต่อจาก เครื่องบินสายการบินดาร์กอนแอร์ ของฮ่องกง
 
ขณะที่นักบินเร่งเครื่องเพื่อที่จะนำเครื่องบินวนอีก 1 รอบ ปรากฏว่า  เครื่องบินไม่สามารถที่จะเชิดหัวเพื่อบินวนได้ อาจจะเป็นเพราะว่า เครื่องบินได้มีการลดระดับเพื่อเตรียมพร้อมที่จะลงแล้ว และเครื่องบินก็มีน้ำหนักมาก ทำให้ไม่สามารถบินวนต่อไปได้ เครื่องบินจึงดิ่งลงสู่ก้นทะเล อ่าวปอ กระแทกน้ำทะเล อย่างแรง ส่งผลให้เครื่องบินระเบิดจากแรงอัดของน้ำทะเล จนเครื่องบินขนาดใหญ่ เหลือเพียงเศษซากชิ้นเล็กชิ้นน้อย ศพของผู้โดยสาร ต่างลอยฟ่องอยู่ในทะเล ล่องลอยเกาะกลุ่มไปตามกระแสน้ำ   
 
ก่อนเครื่องตกประมาณ 3 ชั่วโมง ผมมีโอกาสได้สอบถาม เจ้าหน้าที่การบิน ว่า ถ้าหากเครื่องตกบนบก กับตกในทะเล ความสูญเสีย อันไหนจะเกิดมากกว่ากัน ก็ได้รับคำตอบว่า ถ้าเครื่องตกในทะเลจะเกิดความสูญเสียมากว่าบนบก เพราะเครื่องบินจะเข้าทดแทนน้ำทะเล เมื่อน้ำแหวกออก ก็จะเกิดแรงต้านมหาศาลกระทบที่เครื่องบิน ถึงขั้นที่บดเครื่องบินให้แตกละเอียดได้   ส่วนการตกบนบก จะเกิดเพียงการกระแทกกับพื้นดิน และจะทำให้เครื่องบินไถลออกไปตามทิศทางที่เครื่องบินบินไป หากเครื่องบินไม่ชนกับอะไร เครื่องก็จะไม่ได้รับความสูญเสียมากนัก เหมือนดังกรณีที่เครื่องบิน ONE TO GO ตกที่ภูเก็ตเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน 2550 ที่ยังมีผู้รอดชีวิต ยกเว้นเครื่องบินพุ่งชนภูเขาอย่างจัง กรณีนี้ก็จะได้รับความสูญเสียจำนวนมาก เหมือนกับกรณีที่เครื่องบินตกที่กัมพูชา เมื่อเดือนก่อน 
 
จากการเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกทุกครั้ง    จะเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ ทั้งนั้น อย่างกรณีที่เกิดเครื่องบินตกที่ภูเก็ตเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ก็เกิดจากฝีมือมนุษย์ ถ้าหากนักบินไม่นำเครื่องลงจอด เครื่องก็คงจะไม่ตก เพราะสภาพความเป็นจริง ที่บริเวณสนามบินมีสภาพฝนตกหนัก และทัศนวิสัยต่ำ     กรณีเครื่องบินของการบินไทยตกที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2541    ก็เพราะนักบินพยายามที่จะนำเครื่องลง     ทั้ง ๆ ที่บริเวณสนามบินก็มีฝนตกหนัก หากนักบินนำเครื่องบินกลับไปดอนเมืองหรือไปลงที่อื่น ก็จะมีความปลอดภัยมากกว่านี้ 
 
* * * * * * * * * * * * *


คลิ๊กนี้มีความหมาย

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 : Webmaster by Narong Cheunniran : อีเมล์ :narongthai53@gmail.com