ชีวิตนักข่าว...ตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
21 สิงหาคม 2553
ต้องบอกว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ร่วมก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ที่ชื่อว่า PRDTV NEWS ก่อนที่จะมาใช้ชื่อนี้ ก็มีการคิดอีกหลายชื่อ อาทิ NBT , PRD , บางสัญลักษณ์ก็จะมีรูปจานดาวเทียมประกอบด้วย เพื่อให้รู้ว่าเป็นช่องทีวีดาวเทียม ในที่สุดก็มาจบที่ PRDTV NEWS โดยมีเครื่องหมายอินฟินิตี้ อยู่ข้างบนหมายถึง การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนในสังคมไทย และสังคมในทุกภูมิภาค รวมทั้งการพัฒนากรอบความคิด เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ไม่สิ้นสุด และภายในเครื่องหมายยังมีเครื่องหมายจุดเล็ก ๆ วิ่งอยู่ภายใน จุดนี้เรียกว่า อะตอม ซึ่งหมายถึง แหล่งพลังงานที่มีอานุภาพอันเกิดจากพลังแห่งความร่วมมือของสังคมทุกภาคส่วน
เดิมคณะก่อการตั้งสถานีคิดเพียง ชื่อ PRD NEWS แต่ผมเห็นว่าเมื่อเป็นโทรทัศน์ดาวเทียมแล้ว ชื่อควรต่อด้วยคำว่า TV ห้อยท้ายน่าจะดี ซึ่งทุกคนเห็นด้วย จึงเป็นชื่อ PRDTV NEWS และยังคิดต่อไปว่า หากเป็นโทรทัศน์ในเครือข่าย กรมประชาสัมพันธ์ ถ้าเป็นช่องท่องเที่ยวก็สามารถเอาคำนี้ต่อท้ายได้เลย อาทิ PRDTV TOURIS ซึ่งก็หมายถึงช่องท่องเที่ยว
ทีนี้มาดูเรื่องแบบตัวอักษร (Font) เป็นการใช้แบบเฮริติก้า หมายถึง อัตลักษณ์ที่บ่งบอกการเป็นตัวตนที่แท้จริงขององค์กร นำมาสู่ศักดิ์ศรีของ PRDTV NEWS ถ้าอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเมื่อใครเห็นตัวอักษรชนิดนี้บอกได้เลยว่า นั่นคือสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม เช่นเดียวกับ เมื่อเราเห็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เราก็จะเห็นตัวอักษรที่บ่งบอกถึงความเป็นหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และตัวอักษรของ PRDTV NEWS ก็เช่นกัน
เมื่อเราได้ชื่อสถานีแล้ว ก็มาถึงสีตัวอักษร เราเลือกที่จะใช้สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีที่ให้ความหมายว่า ความหนักแน่นเที่ยงตรง ขององค์กรที่มีต่อสังคมอย่างเสมอภาคในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และมีความหมายที่จะใช้เป็นช่องข่าวสาร ที่ต้องเผยแพร่ข่าวอย่างสมดุล เป็นไปตามข้อเท็จจริง
เมื่อได้สีตัวอักษรและความหมายแล้ว ก็มาถึงโทนสีหน้าจอ ที่จะออกอากาศ คณะทำงานเลือก สีเขียวมะนาว มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ว่า Lamon Green หมายถึง เป็นแหล่งรวมทรัพยากรธรรมชาติของภูมิภาค ซึ่งเป็นการเริ่มต้นใหม่อย่างมีความหวัง ที่นี้ถ้าเราไปดูความหมายตามคำจำกัดความทางศาสตร์ความเชื่อ หมายถึง สุขภาพ ธรรมชาติ ความยินดี การมีโชคดี การเริ่มต้นใหม่ ความปลอดภัย การรักษาความอบอุ่น ความแข็งแรง ความหวัง ความอุดมสมบูรณ์ ความกระฉับกระเฉง ความเป็นอมตะ และความภักดี เห็นไหมครับ แม้นแต่การเลือกใช้โทนสี ก็ต้องใช้กระบวนการคิด ชนิดที่เรียกว่าไม่ธรรมดา และไม่ใช่เรื่องง่าย ความพิถีพิถัน จึงมีความจำเป็น ที่จะต้องดำเนินการ เพราะนั่นหมายถึงการเริ่มต้นที่ดี ต่อการดำเนินกิจการโทรทัศน์ดาวเทียม
เป็นธรรมดาของสังคมไทย เมื่อมีการตั้งชื่อก็ต้องให้ตรงกับหลักฮวงจุ้ย หรือตามหลักโหราศาสตร์ เมื่อเรานับตัวอักษรของ PRDTV NEWS ก็จะได้อักษร 9 ตัวพอดี และหากเพ่งดูเครื่องหมายอินฟินิตี้ ก็จะเห็นเป็นเลข 8 ซึ่งตัวเลขทั้งสองก็ล้วนแต่เป็นเลขมหามงคล อย่างน้อยคนทำงานก็มีขวัญและกำลังใจที่ดีที่จะทำงานต่อไป
ต้องตอบให้ได้ว่า เราตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมขึ้นมาเป็นสถานีใหม่ มีวัตถุประสงค์อะไร อันนี้ต้องตอบให้ได้ อันดับแรกคือ ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ผู้ชมกลุ่มเป้าหมายในประเทศและต่างประเทศที่เรียกว่า ประชาคมโลก ได้เกิดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหายุทธศาสตร์ชาติ อันที่สองคือ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสาร เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการประชาสัมพันธ์ และสื่อสารมวลชนตาม ผมขออธิบายเพิ่มเติมว่า สินค้า ที่อยู่ในท้องถิ่น หรือแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม วิถีชีวิต ถ้ามีการประชาสัมพันธ์ ก็จะอยู่ในท้องถิ่น แต่ถ้าเป็นการประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อโทรทัศน์ดาวเทียม ก็จะทำให้ประชาคมโลกได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ของชุมชนไทยมาขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ประชาคมโลกรู้จักไทยมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ ต่อสังคมไทยโดยส่วนรวม แล้วโทรทัศน์ที่เรียกว่า ช่อง 11 ไม่ดีหรืออย่างไร ก็ต้องบอกว่าดี แต่บางครั้งเนื้อหาจะไม่ครอบคลุม โดยเฉพาะประเด็นในท้องถิ่น ที่ไม่มีสื่อติดตามมาเผยแพร่ สู่สาธารณะ มากเท่าที่ควร
การตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นมาใหม่ ความจริงแล้วในอันดับแรก จะต้องคิดเรื่องของวิสัยทัศน์ก่อน ซึ่งผมต้องขออภัยนะครับที่นำเรื่องนี้มาเขียนในตอนท้าย ทีนี้เรามาดูวิสัยทัศน์ของ สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS มีอะไรบ้าง เพราะวิสัยทัศน์ จะเป็นกรอบใหญ่ในการทำงาน ที่จะเป็นเป้าหมายสำคัญต่อการปฏิบัติงานให้บรรลุวัตถุประสงค์ วิสัยทัศน์ที่เราคิดจากการระดมสมอง สรุปได้ดังนี้ ภายในปี 2556 สำนักประชาสัมพันธ์เขต 8 จะเป็นผู้นำด้านนวตกรรมสื่อสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มช่องทางเลือกในการผลิตและเผยแพร่ข้องมูลข่าวสารในท้องถิ่น ของประเทศสู่ประชาคมโลก กรอบของวิสัยทัศน์ จึงเป็นตัวบีบให้ผู้ปฏิบัติทำงาน ทำการผลิตข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น เผยแพร่ผ่านสื่อดาวเทียม เพื่อให้ชาวโลก ได้เห็น ได้รู้จักชุมชนคนท้องถิ่นของไทยได้อย่างชัดเจนรวมทั้งเข้าใจวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมไทยได้มากขึ้น
หลังจากที่เราได้ วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ ของการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมแล้ว ปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้การทำงานเดินหน้าก็นำลงสู่การปฏิบัติ คือ โดยมีแนวคิดที่จะเป็นกรอบ ตามที่วิสัยทัศน์ได้วางไว้ ที่คิดไว้ก็คือ การนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เพื่อเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การผลิตข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างความเข้าใจอันดี ระหว่างประชาชนกับภาครัฐ เป็นแหล่งให้และรวบรวมข้อมูลข่าวสารสู่สาธารณะ เป็นช่องทางในการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์สินค้าของชุมชน OTOP สู่สากล และเป็นการสนองงานด้านการประชาสัมพันธ์ และข้อมูลข่าวสารต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
โดยมีผลผลิต คือ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารท้องถิ่นในทุกภูมิภาค ลักษณะสื่อ 2 ทาง เพื่อให้ประชาชนในประเทศและประชาคมโลก รับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง โดยมีตัวชี้วัดที่เป็นกรอบ คือ จำนวนข้อมูลข่าวสารที่ PRDTV NEWS เผยแพร่ตลอด 24 ชม. เมื่อมีผลผลิตก็ต้องมีผลลัพธ์ คือ กลุ่มเป้าหมายผู้รับชม PRDTV NEWS ทั้งในประเทศและประชาคมโลก รับรู้ข้อมูลข่าวสาร เกิดความเข้าใจ และมีทัศนคติที่ดีต่อภาพลักษณ์ เกียรติภูมิของประเทศ ตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายสมานฉันท์ เพื่อให้เกิดเสถียรภาพอย่างมั่นคงต่อสังคมไทย ซึ่งต้องมีตัวชี้วัด คือ กลุ่มเป้าหมายผู้รับชม PRDTV NEWS จำนวนร้อยละ 80 มีทัศนคติที่ดีต่อประเทศ ที่มีการกำหนดให้เป็นร้อยละ 80 ก็เพราะว่า การกระจายภาพคงจะไม่ครอบคลุมได้ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์
นอกจากมีกรอบการทำงานที่ชัดเจนแล้ว และยังมีประเด็นที่เป็นกรอบที่แคบเข้ามาคือ ประเด็นข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นประจำวัน ประเด็นที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ของส่วนกลาง ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาล ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่สำคัญทางภูมิศาสตร์ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสนใจต่อประชาคมโลก ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญตามประวัติศาสตร์ทางการเมือง ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของชาติ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของสังคมไทยที่มีต่อประชาคมโลก ฯลฯ ซึ่งประเด็นเหล่านี้จะทำให้เกิดความชัดเจน ต่อการทำงาน
นี่เป็นแนวคิดที่ จะต้องเดินตามนี้ และนอกจากนี้ยังมีประเด็นเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ที่จะทำให้ผู้ปฏิบัติทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะมีกรอบการทำงานที่ชัดเจน ปัจจัยทั้งหมด คือ วิสัยทัศน์ แนวคิด วัตถุประสงค์ ผลผลิต จะนำไปสู่ ยุทธศาสตร์ ซึ่งหมายถึง การพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน
เมื่อยุทธศาสตร์ ถูกกำหนด ก็จะเป็นแนวทางที่จะนำไปสู่การปฏิบัติ สิ่งนี้คือ ความคิดรวบยอด (Concept ) หรือ สโลแกน เมื่อทุกคนที่ได้อ่านแล้วเกิดความเข้าใจ ไม่ต้องอธิบายมาก แล้วลงมือทำงานได้ทันที โดยคำ ๆ นี้ จะเป็นการนำเอาความหมาย วิธีการทำงาน ยุทธศาสตร์ วิสัยทัศน์ ผลผลิต ผลลัพธ์ ตัวชี้วัด ประเด็น แนวคิด มารวมไว้ในคำนี้ โดยได้ข้อสรุป ที่จะทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามที่ไดวางไว้
นั่นเป็นวิธีหนึ่งของการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ ที่มีกระบวนการคิด กระบวนการทำงานที่เป็นทีม ทุกคนมีส่วนร่วมในการคิดและเสนอแนะ ต่อการพัฒนา ทำให้การทำงานไม่เหนื่อยเพราะต่างคนต่างช่วยกัน ชนิดที่เรียกว่าช่วยกันคนละไม้คนละมือ ในการคิด และปฏิบัติ มีอยู่หลายคน ถ้าจะบอกชื่อก็เกรงว่าจะบอกไม่หมด หากมีรายชื่อคนใดคนหนึ่งตกหล่นก็จะเกิดความเสียหายต่อการทำงานเป็นทีมได้ ผมจึงขอบอกท่านที่เข้ามาอ่านว่า ทุกคนที่ทำงานใน สำนักประชาสัมพันธ์เขต 8 กาญจนบุรี มีส่วนร่วมทำงานทุกคนครับ ผมยืนยันได้ เพราะผมคือ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดกาญจนบุรี ที่จะกลายเป็น สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม นำร่องของกรมประชาสัมพันธ์ 1 ใน 3 แห่ง
หมายเหตุ
ชื่อบุคคลที่ปรากฏในรูป
1.คุณเจริญชัย เปี่ยมเพิ่มพูน ผอ.สปข.8
2.คุณณรงค์ ชื่นนิรันดร์ ผ.สทท.กาญจนบุรี
3.คุณพินิจ โตนดแก้ว นายช่างไฟฟ้าอาวุโส
4.คุณอเนก อิสระทะ นายช่างไฟฟ้า
5.คุณเฉลียว แก้วอาษา หัวหน้าฝ่ายรายการและข่าว
6.คุณมัทนียา มากสมบูรณ์
7.คุณสุภาวฎี เนียมทอง
8.คุณต่าย (ขออภัย ผมจำชื่อจริงไม่ได้ คราวหน้าจะไปถามมาให้ )หัวหน้าฝ่ายเทคนิค สปข.8
888888888888888
ชีวิตนักข่าว...การนำเสนอผลงานโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
26 สิงหาคม 2553
ผมต้องบอกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ว่า ขณะที่ผมเขียน โลกยุคดาวเทียม โดยเฉพาะทีวีดาวเทียมของเมืองไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และหน่วยงานที่ผมทำงานอยู่ ก็กำลังปรับตัว ให้เป็นโทรทัศน์ดาวเทียมอย่างเต็มรูปแบบ จริง ๆแล้วโดยสถานะของสถานีโทรทัศน์ตามเขตต่าง ๆ ที่สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งกระจายอยู่ในภูมิภาค อาทิ ช่อง 11 ขอนแก่น อุบลราชธานี , เชียงใหม่ , พิษณุโลก , สุราษฎร์ธานี , ภูเก็ต , นครศรีธรรมราช,สงขลา , จันทบุรี , และ ช่อง 11 กาญจนบุรี ถือว่าเป็นสถานีที่สามารถผลิตรายการเองได้ และเมื่อไหร่สามารถแยกตัวออกมาส่งสัญญาณเอง ก็จะทำให้ประเทศไทย มีโทรทัศน์เพิ่มขึ้นอีก 10 ช่อง แต่ที่ไม่สามารถส่งสัญญาณครอบคลุมทั้งประเทศได้เพราะ การส่งสัญญาณโทรทัศน์ จะต้องผ่านสถานีเครือข่าย ที่ตั้งอยู่ภาคพื้นดิน ที่เราเรียกว่า รีพีทเตอร์ (REPEATER ) การรับชมจะต้องใช้เสารับสัญญาณ หรือ เสาขนาดเล็ก ที่เรียกว่า หนวดกุ้ง ถ้าเครื่องรับโทรทัศน์ตั้งอยู่ไกลสถานี การรับสัญญาณภาพก็จะไม่ชัด เป็นลูกน้ำ บางคนเมื่อเจอผม มักจะกระเซาเย้าแย่ว่า นี่คุณณรงค์ ผมยกเสาทีวีเดินรอบบ้าน หลายสิบรอบ ผมก็รับทีวีคุณไม่ได้ แหม๋ ฟังเสร็จแล้วก็น่าน้อยใจซะจริง ๆ
เห็นภาพแล้วใช่ไหมครับ แล้ววิธีการแก้ไขปัญหานี้จะทำอย่างไร คำตอบก็คือว่า เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ จะต้องส่ง โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม โดยผู้ชมทางบ้านเพียงแต่ติดตั้งจานก็สามารถชมโทรทัศน์ ได้โดยตรง ทำให้การรับชมภาพมีความคมชัด และยังสามารถรับชมได้หลายช่องทั้งช่องที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศ
ด้วยเหตุนี้เอง สถานีโทรทัศน์ สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค กำลังปรับตัวให้สามารถส่งโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เพื่อเป็นการขยายฐานผู้ชมให้มากขึ้น ดังนั้น กรมประชาสัมพันธ์จึงได้ให้ สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จำนวน 3 สถานี คือ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก จันทบุรี และกาญจนบุรี นำร่อง ส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม โดยให้เริ่มส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมในโปรแกรมใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ซึ่งเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ที่ผมจะนำพาทีมงาน ดำเนินกิจการ ให้บรรลุความสำเร็จให้ได้
แต่เรื่องที่จะเกิดก่อนในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 คือการนำเสนอผลงาน ตัวอย่าง ที่เรียกกันติดปากว่า DEMO ความหมายของคำ ๆ นี้ แท้จริงก็คือ การเสนองานตัวอย่าง ว่า โทรทัศน์ดาวเทียมที่เราจะดำเนินการมีรูปแบบเป็นอย่างไร อย่างเช่น จะทำโทรทัศน์เป็นช่องข่าวสาร ตัวอย่างการนำเสนอ DEMO ก็จะเป็น การนำเสนอข่าว ทั้งการรายงานข่าว การอ่านข่าว การนำเสนอจะต้องฉับไว กระฉับกระเฉง มีสาระ ซึ่งตัวอย่างจะต้องมีความยาวไม่เกิน 5 นาที การนำเสนอความยาวขนาดนี้ จะทำให้ผู้ชมไม่เบื่อ หากเรานำเสนอดี ผู้ชมก็จะอยากจะชมอีก นั่นหมายถึงความสำเร็จในการนำเสนอผลงาน
ทีนี้เรามาดูการนำเสนอ DEMO ของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ที่จะมีชื่อใหม่ว่า PRDTV NEWS ซึ่งได้นำเสนอในที่ประชุมผู้บริหารของกรมประชาสัมพันธ์เมื่อครั้งการประชุม ที่ 8/2553 วันที่ 26 สิงหาคม 2553 ณ โรงแรมดุสิตไอร์แลนด์ อำเภอเมืองเชียงราย
ผมได้บอกกับทีมงานว่า การนำเสนอจะต้องเป็นมืออาชีพ การที่จะเอาไมค์ไปจ่อลำโพง เพื่อเอาเสียงมาออก แบบนี้ไม่เอา เพราะเสียงการนำเสนอจะออกมาไม่ดี และการนำเสนอให้เห็นภาพจริงจะต้องมีรับการสัญญาณ โดยตรงจากดาวเทียม เพื่อให้เห็นภาพการปฏิบัติงานจริง
เพื่อให้เห็นการปฏิบัติงานจริง ผมจึงให้ทีมงานขนอุปกรณ์ประกอบด้วย เครื่องเสียง คอมพิวเตอร์ Mixer จอโปรเจ็กเตอร์ พร้อมเครื่องฉาย จานรับสัญญาณดาวเทียม ที่เราเห็นตามอาคารบ้านเรือน ที่เป็นจานดำ ซึ่งเรียกตามภาษาช่างเทคนิค คือ ซีแบนด์ นั่นเอง อุปกรณ์ทุกอย่างถูกนำขึ้นรถตู้ ออกจากกาญจนบุรีมุ่งหน้าไปเชียงราย ในตอนบ่ายของ วันที่ 24 สิงหาคม 2554 นำโดยผม พร้อมด้วยทีมงาน อีก 5 คน ประกอบด้วย โอ(นายโอภาส สระทองเพชร นักสื่อสารมวลชน) หนุ่ย (นายจุมพล นิลพันธ์ นายช่างไฟฟ้าสื่อสารชำนาญงาน ) สันต์ (นายสันติพงศ์ ท่าทราย นายช่างไฟฟ้าปฏิบัติงาน) แจ๊ค (นายวัชรากรณ์ สอนง่าย พขร.) และโก้ (นายธนเดช ภิญโญ พขร.) เราเดินทางถึงจังหวัดเชียงราย กลางดึก ของวันที่ 24 สิงหาคม 2553 ก่อนถึงที่หมาย โอ และหนุ่ย ใช้ วิทยุสื่อสารเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สอบถามไปตลอดเส้นทาง ซึ่งได้รับการตอบสนองด้วยดีจากเพื่อน ๆ นักวิทยุสมัครเล่น ที่อยู่ทางภาคเหนือ บอกเส้นทางเพื่อเข้าเมืองเชียงรายได้อย่างถูกต้อง เราขับรถวนเวียนเพื่อหาที่พัก มีน้อง ๆ ที่เดินทางไปด้วยบอกว่า เราไปนอนที่ นิ่มซี่เส็ง ดีไหม เออดูชื่อแปลกดีนะ นิ่มซี่เส็ง แล้วอยู่ไหนครับ เราขับรถวนเวียน อยู่นาน ก็หาไม่เจอ ก็เลยตัดสินใจไปนอน โรงแรมไดมอนด์ปาร์ค อินน์
รุ่งขึ้นวันที่ 25 สิงหาคม 2553 คณะของเรา เดินทางไปยังโรงแรมดุสิตไอร์แลนด์ รีสอร์ท เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ จานรับสัญญาณดาวเทียม ที่เรียกตามภาษาชาวบ้านว่า จานดำ เพื่อจะใช้ในการรับสัญญาณดาวเทียม จาก สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดกาญจนบุรี เพราะเราจะให้มีการรายงานสดเพื่อนำเสนอ Demo หรือตัวอย่างรายการที่เราจะผลิต นอกจากนั้น ยังได้ติดตั้งอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ มิกซ์เซอร์ ลำโพง อีก 2 ตัว โปรเจ็กเตอร์ และ จอ ต้องบอกว่า ครบเครื่องครับ
เมื่อติดตั้งเสร็จ ทีมงานก็เตรียมการด้านการฉาย POWER POINT เมื่อทดลอง ปรากฏว่า เมื่อฉายภาพขึ้นจอแล้ว ตัวหนังสือเล็กมาก ผู้เข้าร่วมประชุมคงมองเห็นไม่ชัดแน่ น้องสันต์ และคณะก็ร่วมกันแก้ไข ทั้งตัดข้อความให้สั้นเข้า เพื่อจะได้มีพื้นที่ ในการขยายตัวหนังสือ ให้ตัวใหญ่ขึ้น ผมและ คุณแจ๊ค ก็ช่วยกันดู ว่าอ่านออกหรือไม่ โดยสมมุติว่า เราเป็นผู้ร่วมประชุม ในที่สุดเราก็สามารถปรับตัวหนังสือให้สามารถอ่านออก ได้อย่างชัดเจน คม แต่กว่าจะเสร็จ เราได้ทดลองเปลี่ยนเครื่องฉายโปรเจ๊กเตอร์ ที่เป็นของโรงแรม เผื่อว่าจะชัดกว่าของเรา แต่ผิดคาดครับ เครื่องฉายโปรเจ็กเตอร์ที่เรานำไป ฉายภาพออกมาชัดกว่าของโรงแรม
เราเตรียมงานตรงนี้จนถึง ตี 1 ของวันใหม่ (26ส.ค.53) พวกเราจึงกลับที่พัก พูดง่าย ๆให้เข้าใจ ถ้างานไม่ผ่าน ผมและทีมงาน จะไม่ยอมกลับไปนอนเป็นอันขาดครับ เพราะ การนำเสนอครั้งนี้ มีการเดิมพัน สองประการคือ เกิดกับตาย แต่พวกเราจะไม่ยอมตายอย่างแน่นอน ครับ พวกเราทำงานจนเสร็จจึงกลับไปนอน แต่น้องสันต์ บอกผมในวันรุ่งขึ้นว่า เมื่อคืนกว่าจะหลับได้ก็ปาเข้าไปถึงตี 3 เพราะต้องไรท์แผ่น Demo ที่จะต้องแจกให้กับผู้บริหาร ระดับสูงของกรมประชาสัมพันธ์ แหม๋ต้องบอกว่า ทุ่มเทจริง ๆ
รุ่งขึ้นวันที่ 26 สิงหาคม 2553 ผมพร้อมด้วยน้อง ๆ หลังจากที่ทานอาหารเช้า เสร็จ ก็รีบมุ่งหน้าไปยังโรงแรม เพื่อสำรวจความพร้อมครั้งสุดท้าย ที่จะนำเสนอ Demo เริ่มตั้งแต่ทดลองเปิด POWER POINT ว่า มีความคมชัดเหมือนเมื่อคืนที่เราทดสอบหรือไม่ ปรากฏว่ายังใช้ได้ดี ด้านเครื่องเสียง ก็คมชัด อย่างนี้ก็ โอเค การซักซ้อม ได้มีการซ้อมถึงการใช้ปากกาเลเซอร์ เพื่อใช้ชี้ตัวอักษรบน POWER POINT ขณะเดียวกันก็ทดลองการใช้แสงไฟฉายที่อยู่ในปากกาเลเซอร์ ให้เป็นสัญลักษณ์ เพื่อส่งรหัสให้มีการเปลี่ยนหน้า POWER POINT เห็นไหมครับ เกือบทุกเรื่องเราค่อนข้างพิถีพิถันในรายละเอียด
แม้กระทั่งการเดินแจกโปร์ชัวร์ ท่านเคยคิดไหมครับว่า ทำไมเพียงแค่การแจกโปร์ชัวร์ ต้องมีพิธีการ ผมต้องบอกท่านว่า เดิมการแจกจ่ายเอกสารไม่น่าสนใจ ส่วนใหญ่จะให้พนักงานเดินถือเอกสารไปวางด้านหน้าผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งไม่น่าสนใจ แต่ของผมไม่ทำอย่างนั้นครับ แล้วผมทำอย่างไร ผมได้เตรียมการกับ พขร.ของผมทั้งสองคนว่า
เอาอย่างนี้นะ เมื่อถึงคิวที่ท่านเขตจะนำเสนอ ให้แจ๊คกับโก้ ถือเอกสารโบร์ชัวร์ที่จะแจกเดินขนาบข้างผม ซ้ายขวาโดยให้ผมยืนอยู่ตรงกลาง แล้วเดินเข้าไปตรงกลางที่ประชุม ที่จัดเป็นรูปตัวยู เมื่อเดินถึงหน้าประธานคือ อธิบดี พวกเราทั้งสามคน จะคำนับพร้อมกัน จากนั้นผมจะเป็นคนยื่นเอกสารให้ท่านอธิบดี เอง ส่วนทั้งสองก็ให้แยกย้ายซ้ายขวา แบ่งกันไปแจกเอกสาร ถ้าอยู่ซ้ายมือผม ก็ให้เดินแจกจากด้านซ้ายเริ่มที่หัวแถว เรื่อยไปจนถึงท้ายแถว ซึ่งคนที่อยู่ด้านขวามือผมก็ทำเช่นกัน
ผมบอก แจ๊ค กับโก้ พขร.คู่ใจ ดูทั้งสองตื่นเต้นไม่แพ้ผม เพราะทั้งคู่ไม่เคย ทำแบบนี้ ซึ่งผู้ที่นั่งประชุมวันนี้คือ ผู้บริหารระดับสูงของกรมประชาสัมพันธ์ โดยมีอธิบดี เป็นประธานในที่ประชุมด้วย และที่สำคัญ ความรู้สึกของพวกเราจะเหมือนกับเข้าสนามสอบแข่งขัน ก็ไม่ปาน
ทีนี้เรามาดูโปร์ชัวร์ มีพิเศษอะไร ต้องบอกว่า คณะทำงานนำโดยท่านเขต 8 ต่างทุ่มเท จัดทำโปร์ชัวร์อย่างพิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่เนื้อหา ในเรื่องมี วิสัยทัศน์ พันธกิจ ผังรายการ ผลสัมฤทธิ์ของงาน ตัวชี้วัด และที่สำคัญ ก็คือเรื่องกระดาษ สี รูปแบบของโปร์ชัวร์ ควรจะมีขนาด เท่าไหร่ กระดาษที่ใช้พิมพ์ จะใช้ขนาดกี่ แกรม แล้วเมื่อพิมพ์ออกมาแล้ว ดูดีไหม ถ้าดูไม่ดี เราจะเคลือบกระดาษดีไหม พิมพ์แล้วจะเสร็จทันงานไหม ที่สำคัญ และเป็นความสำคัญขั้นสูงสุดคือ ภาษาและหนังสือ จะต้องไม่ผิด เด็ดขาด ตัดอักษรเดียวก็ไม่ได้ เพราะหากผิดพราดขึ้นมา ความน่าเชื่อถือของข้อความ จะหมดความสำคัญลงทันที ครับ
นั่นเป็นความพิถีพิถัน ในการทำโบร์ชัวร์ ทีนี้เราพร้อมที่จะนำเสนอผลงาน เพียงแต่เรารอเวลา อย่างใจจดใจจ่อ หัวใจเต้นแรงรัวระทึก คิดตลอดเวลาว่า จานดำ ที่จะรับสัญญาณโทรทัศน์ดาวเทียมจากกาญจนบุรี จะล่มหรือไม่ เพราะอากาศที่เมืองเชียงรายวันนี้ ฝนตกตลอดทั้งวัน เมฆอาจจะบดบังสัญญาณดาวเทียมได้ หากเป็นสิ่งที่ผมคาดคิดว่าถ้ารับสัญญาณไม่ได้ ผมจะแก้ปัญหาอย่างไร แผนที่จัดเตรียมไว้คือ จะเปิด Demo ที่ห้องประชุม ซึ่งพวกเราได้เตรียมไว้แล้ว
และแล้ว การนำเสนอ Demo สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS ก็มาถึง ในเวลาประมาณ 10 โมงวันที่ 26 สิงหาคม 2553 คุณกฤษณพร เสริมพานิช อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง และผู้ติดตามส่วนหนึ่ง ก็พร้อมประชุม และที่สำคัญ เราจะเป็นหน่วยงานแรกที่จะนำเสนอ Demo
เมื่อถึงวาระการนำเสนอ คุณเจริญชัย เปี่ยมเพิ่มพูน ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 8 ก็ได้เริ่มบรรยาย ตามที่ พวกเราเตรียมมา แต่ประธานบอกว่า ขอให้เริ่มที่ Demo เลย ซึ่งผิดความคาดหมาย เพราะเราเตรียมข้อมูลนำเสนอค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ผมได้บอกน้อง ๆ ทีมงาน ก่อนหน้านี้ ว่าเราเป็นทีมแรก ที่จะนำเสนอ ซึ่งก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว น้องทุกคนมีความมั่นใจมากต่อการนำเสนองาน ถึงขนาดบางคน บอกกับผมว่า ถ้าไม่สำเร็จ ผมจะขอเดินกลับ เมืองกาญจน์ ผมถึงกับอุทานออกมาว่า โอ้โห ใจถึงจริง ๆ
คราวนี้ก็มาถึง การนำเสนอ ทุกคนเริ่มใจจดจ่อ น้อง ๆ ทีมงาน ตัดภาพการรายงานสดไปที่ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองกาญจนบุรี โดยก่อนหน้านี้ ผมได้มอบหมายให้คุณเฉลียว แก้วอาษา หัวหน้าฝ่ายข่าวและรายการ เป็นผู้รายงานสดจาก สถานี ในประเด็นการดำเนินงานของโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS ต้องบอกว่า แค่เห็นไตเติ้ล ที่วิ่งออกมาในรูปแบบ 3D หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า แบบ 3 มิติ พร้อมเสียง เพลงบรรเลงประกอบ เท่านั้นแหละครับ ผู้เข้าร่วมประชุม ที่เป็นผู้หญิง และนั่งถัดไปจากผม ถึงกับอุทานว่า ฝีมือออร์แกนไนซ์ นี่ ผมรีบตอบสวนกลับไปในทันทีว่า ไม่ใช่นะครับ ทำเองครับ ทุกอย่างผ่านกระบวนการคิด ครับ บางคนถึงกับอุทานว่า ไอ้เหลียว นี่ เออ เด็กคนนี้เก่งจริง ๆ แล้วยังหันมาถามผมอีกว่า เอ้า นั่นแดงนี่ เป็นยังไงบ้าง ผมตอบทันที แต่สายตาของผมยังลุ้นอยู่ที่หน้าจอ ว่า พี่ แดงแม้นว่า แกจะเออรี่ ยังคิดชื่อรายการข่าวช่วงเย็นให้ผม คือชื่อรายการข่าวร้อนตอนเย็น ครับ
การนำเสนอ Demo เป็นไปตามที่ผมและทีมงาน ได้เตรียมไว้ ภาพออกมาคมชัด แม้นว่าก่อนหน้านี้ผมจะกังวลอยู่บ้างต่อการรับสัญญาณดาวเทียมจาก สถานี ที่ตั้งอยู่ไกลถึงเมืองกาญจนบุรี ในขณะที่ผมนั่งอยู่เมืองเชียงราย นั่นก็หมายความว่า การส่งภาพข่าวและรายการผ่านสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม สามารถรับ และที่สำคัญยังมีข้อดีคือ รายการสามารถรับชมได้เกือบทั่วทั้งทวีปเอเชีย ไม่ได้จำกัดเฉพาะพื้นที่ ด้านตะวันตก และภาคกลางของไทยเท่านั้น ข้อดีต่อมาคือ จะมีผู้ชมรายการมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประชาสัมพันธ์ ที่จะสร้างความเข้าใจได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพียงแต่ผู้ชมมีจานรับดาวเทียม ที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า จานดำ หรือทางเทคนิค เรียกว่า จานรับดาวเทียมซีแบนด์ สนนราคา ประมาณ 2-3 พันบาท ซึ่งจานนี้ยังสามารถรับรายการและข่าวได้อีกหลายช่อง ถามว่าผู้ซื้อคุ้มไหม ผมตอบแทนได้เลยครับว่า สุดคุ้ม ภาพที่รับชมยังคมชัด ไม่มีลูกน้ำ หรือ สโนว์ มากวนสายตา
เราวกกลับมาที่ห้องประชุมผู้บริหารระดับสูงของกรมประชาสัมพันธ์ ดูเหมือนว่า ที่ประชุมพอใจในการนำเสนอ บางท่านที่ผมรู้จัก ยังยกนิ้วโป้งให้ผม ซึ่งมีนัยของความหมายว่า ยอดเยี่ยม ยิ่งดูสีหน้าของผู้ที่ยกนิ้วให้ ยิ่งรู้ว่า พอใจต่อการนำเสนอ และสิ่งที่ผมลืมไม่ได้คือ คำชมจาก อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่มีความพอใจต่อการนำเสนอ ที่ดูดีสั้นกระชับ และยังได้พิสูจน์ว่า การส่งรายการผ่านดาวเทียม จากสถานีโทรทัศน์กาญจนบุรี สามารถทำได้ ทำให้พวกเรามีกำลังใจที่จะทำงานใหญ่ อย่างทุ่มเทต่อไป ครับ
ในช่วงเย็นของวันที่ 26 สิงหาคม 2553 ผมและน้องทีมงาน ได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านตองตึง เมืองเชียงราย ที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเย็น คณะของเราก็ได้รับคำชม จากเพื่อน ๆ ที่ทำงานอยู่ สำนักนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์ อีกหลายท่าน โดยได้เดินมาแสดงความชื่นชมยินดี ถึงโต๊ะที่พวกเราทานข้าว ผมก็ต้องขอบคุณครับ และผมก็บอกไปว่า งานที่สำเร็จในครั้งนี้มิใช่ผมเพียงคนเดียว แต่เป็นของทุกคนที่อยู่ สปข.8 กาญจนบุรี ครับ ผมเป็นเฟืองตัวเล็ก ๆ เท่านั้นครับ พวกเราก็ยังคิดอยู่เสมอว่า งานที่เรานำเสนอในวันนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่งานที่ยิ่งใหญ่ ที่รออยู่ข้างหน้าคือ PRDTV NEWS จะออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป แล้วเราจะทำอย่างไรหล่ะ ที่จะทำให้สามารถออกอากาศได้ ตลอด 24 ชั่วโมง ช่างเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ ครับ ขอกำลังใจด้วยครับ
8888888888888888888
รายงานพิเศษ ที่มา สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ (ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS คนแรก)
26 กันยายน 2553
การรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ในยุคนี้ ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัด กาญจนบุรี ได้มีการปรับตัว เพื่อขยายเครือข่าย การส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ตามมติที่ประชุม กรมประชาสัมพันธ์ ครั้งที่ 7/2553 วันที่ 26 กรกฎาคม 2553 เป็นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม โดยให้เริ่มออกอากาศในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยอีก 2 แห่ง ดำเนินการจัดตั้งเป็นสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม คือ พิษณุโลก และจันทบุรี
สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ที่มีฐานการออกอากาศ ที่จังหวัดกาญจนบุรี ใช้ชื่อช่องการออกอากาศว่า PRDTV NEWS เป็นคำที่มีความหมายมาจาก Public Relations Department Television อยู่ในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นช่องทาง การนำเสนอข่าวในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ที่ผลิตโดย สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ทั้ง 10 แห่ง และ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด 75 จังหวัด ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
ซึ่งจะทำให้ ผู้ชมสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS รับชมข่าวสารที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ได้อย่างเต็มที่
สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS มีช่วงข่าว Prime Time 3 ช่วง คือ ช่วงแรก ตั้งแต่เวลา 06.00 09.00 น. ช่วงที่ 2 เวลา 12.00 -13.00 น. และช่วงที่ 3 เวลา 18.00 20.00 น. นอกจากนี้ยังมีการเสนอข่าวต้นชั่วโมง 4 ช่วง เริ่มเวลา 10.00 น. 11.00น. 14.00 น.และ 16.00 น. โดยรูปแบบข่าว จะมีทั้งการรายงานพิเศษ การรายงานข่าวย้อนกลับจากสถานีภูมิภาค และจะมีการแพร่ภาพออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง
ส่วนรายการที่จะนำเสนอนอกจากช่วงข่าวแล้ว ก็จะเป็นรายการสนทนาข่าว ที่ผลิตโดย สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยที่ ตั้งอยู่ตามภูมิภาค อาทิ รายการพิราบคาบข่าว ที่ผลิตโดย สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา รายการแหล๋งข่าวเช้านี้ ที่ผลิตโดยสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัด สุราษฎร์ธานี ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีรายการเกี่ยวข้องกับภูมิภาคโดยตรง ที่มีเป้าหมาย ในการนำเสนอความเป็นไปของท้องถิ่นเพื่อให้สากลรับรู้ ข้อมูลข่าวสาร ได้อย่างลึกซึ้ง ตามสโลแกนที่ว่า นำท้องถิ่นสู่สากล
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ PRDTV NEWS รายงาน
8888888888888888
หน้าแรก
สถิติวันนี้ 
สถิติเดือนนี้ 
สถิติปีนี้ 
