|
ส้วม ปั้ม ขับรถ เติมน้ำมัน
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
12 มี.ค.52
ก่อนอื่นต้องบอกท่านผู้อ่านว่าเรื่องที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ และเป็นมุมมอง ในทัศนะส่วนตัว ที่ผมเป็นคนข่าว คนหนึ่งที่ร่วมอบรมหลักสูตร "นักบริหารงานประชาสัมพันธ์รุ่นที่ 49" ที่เห็นสภาพของความเป็นจริง ไม่เป็นเรื่องวิชาการ หรืองานที่ได้รับมอบหมาย เป็นความน่าสนใจที่บ้านเมืองเราไม่มี คือ เรื่อง "ส้วม ปั๊ม ขับรถ เติมน้ำมัน " จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผมจะนำมาเล่า ให้ฟังครับ
ประเทศเยอรมัน เช็ค และออสเตรีย เป็นประเทศที่มีพรมแดนติดกัน แต่ละเมืองมีที่ตั้งไม่ห่างไกลเท่าไรนัก ประมาณ 150-200 กิโลเมตร การเข้าออกที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ถูกยกเลิกหมดเพราะเป็นประเทศในกลุ่มอียู ที่ใช้วีซ่าประเภทเชงเกน ดังนั้นเราจึงมีความสะดวกสบายในการเข้าประเทศโดยไม่ต้องใช้ พาสสปอต สกุลเงินที่ใช้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสกุลเงินยูโร มีแต่ ประเทศเช็ค จะใช้เงินสกุล เช็ค คราว (มีอักษรย่อ คือ CZ) การเดินทางโดยรถยนต์ จึงเป็นทางที่สะดวก เพราะถนนที่เชื่อมระหว่างเมืองสำคัญ เป็นแบบมอเตอร์เวย์ 4 เลน เหมือนบ้านเรา ผิดแต่ว่ารถยนต์จะขับพวงมาลัยขวา รถยนต์ที่แล่นบนถนนเป็นรถยนต์ที่ค่อนข้างใหม่ รถยนต์ส่วนใหญ่ก็จะมียี่ห้อ สโกดา เป็นรถยนต์ที่ผลิตในประเทศเช็ค ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1894 ออดี้(audi) (สัญลักษณ์ 4 ห่วง) เซียท (seat) รถยนต์สัญชาติสเปนซึ่งเป็นบริษัทลูกของโฟล์คสวาเก้น (volkswagen) เบนซ์ เชฟโรเลท ส่วนรถยนต์ที่ผลิตในญี่ปุ่น ยี่ห้อ โตโยต้า มาสด้า และนิสสัน มีวิ่งค่อนข้างน้อย แต่รถยนต์ตระกูลเกาหลี ยี่ห้อฮุนได มาลงทุนตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ที่ประเทศออสเตรีย เป็นฐานการผลิต เพื่อส่งออกในกลุ่มประเทศยุโรป การทำตลาดเท่าที่เห็น จะมีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ริมถนนหลายแห่ง แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมของตลาดมากนัก สังเกตจากบนท้องถนนยังไม่มีรถยนต์ฮุนได วิ่งเท่าไหร่นัก สู้รถยนต์ยี่ห้อเซียท ที่เป็นของประเทศสเปน และมีฐานการผลิตที่นี่ด้วย เซียทผลิตรถยนต์สนองความต้องการระดับล่าง จึงเน้นการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ที่สำคัญมีการจัดการแข่งขันความเร็ว ในสนามแข่งรถ ของประเทศในแถบยุโรป ส่วนรถยนต์ขนาดเล็กมาก ที่นั่งได้เพียงสองคนเท่านั้น คือยี่ห้อ สมาร์ท เดิม บริษัท เดมเลอร์ เยอรมัน เป็นผู้ผลิต ในนามยี่ห้อเบนซ์ ที่เห็นบ้านเราก็มีขับอยู่ ไม่กี่คัน คนมีสตางค์ ซื้อมาขับได้ สนนราคาคันหนึ่ง ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ครับ
รถยนต์โดยสารในประเทศกลุ่มยุโรป จะเป็นรถยนต์บัสชั้นเดียว ชนิดที่เป็นรถยนต์ 2 ชั้นแบบบ้านเราไม่มีให้เห็นนะครับ เพราะวิศวกรเชื่อว่า รถยนต์ชั้นเดียว จะปลอดภัยกว่า รถยนต์โดยสารที่พาพวกเราไปศึกษาดูงาน จึงเป็นรถยนต์ชั้นเดียว และมีคนขับเพียงคนเดียว ไม่มีเด็กท้ายรถ ที่จะมาคอยยกกระเป๋า หรือช่วยคนขับ Mr.Jerry จึงเป็นคนขับเพียงคนเดียวที่พาเราไปทั้ง 3 ประเทศ และต้องทำหน้าที่ ยกกระเป๋า ที่หนักอึ้ง ทึ่ง เสียว (เพราะในกระเป๋าแต่ละใบ อุดมไปด้วยของฝาก ) กระเป๋าไม่ใช่ใบเล็ก ๆ นะครับ แต่ละคนหนักไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัม กระเป๋ามีขนาดตั้งแต่ 24-28นิ้ว ครับ แต่ความปลอดภัยในการขับรถต้องมาก่อนครับ เห็นขับรถเพียงคนเดียว อย่างนี้ ประเทศในแถบยุโรป เขามีกฎ และข้อห้ามที่เข้มงวด ครับ เพราะในรถยนต์แต่ละคัน จะมีบันทึกการเดินทางเหมือนกล่องดำ ในเครื่องบิน ที่ใช้บันทึกความเร็วของรถยนต์ บันทึกชั่วโมงการทำงานของคนขับรถ เมื่อตำรวจเรียกก็จะต้องให้ตำรวจตรวจ ซิมการ์ด หรือกล่องดำ ที่ว่า จะเป็นอุปกรณ์ที่จะเป็นหลักฐานอย่างดี คนขับจะผ่าฝืนไม่ได้ ตามกฎ คนขับ จะต้องมีเวลาพักผ่อนไม่น้อยกว่า 11 ชั่วโมง ห้ามขับรถยนต์ติดต่อกัน 4 ชั่วโมง และจะต้องมีเวลาพัก ไม่น้อยกว่า 45 นาที Mr.Jerry นอกจากจะขับรถคนเดียว ยกกระเป๋าคนเดียว แล้ว Mr.Jerry ยังต้องเติมน้ำมัน และคิดเงินเองด้วย เพราะปั้มน้ำมันในต่างประเทศ ไม่มีเด็กปั้ม ที่จะมาเติมน้ำมันให้เรา หรอกครับ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะว่า พลเมืองของประเทศเหล่านี้มีน้อย และอากาศมันหนาวมาก ๆ ไม่มีใครมายืนให้บริการ และที่สำคัญคนแถบนี้น่าจะเป็นคนซื่อสัตย์ เติมแล้วไม่มีชักดาบ
Mr.Jerry เป็นชาวเช็ค ที่รู้เส้นทางในยุโรปเป็นอย่างดี เมื่อถึงเวลาพัก Mr.Jerry ก็จะจอดให้พวกเราเข้าห้องน้ำ ที่บ้านเรียกว่า ส้วม นั่นแหล่ะ ต้องบอกว่า ส้วม ในทุกประเทศที่ผ่าน สะอาดมาก ๆ ชนิดที่นอนได้ กลิ่นเหม็นก็ไม่มี ส้วมชักโครกบางแห่ง มีถึงขนาดล้างฝารองนั่งได้เอง พอเวลาเรากดน้ำชักโครก ฝารองนั่งก็จะหมุนรอบตัวเองผ่าน ที่เช็ด ที่ยื่นออกมา ดังนั้นชายใดก็ตาม ที่ยืนปัสสาวะลงชักโครก เกิดไปสะบัดเจ้าหนู จนทำให้ปัสสาวะ กระเด็นถูกฝารองนั่ง เมื่อเรากดน้ำชักโครก ฝารองนั่งก็จะล้างอัตโนมัติ ครับ สุดยอด (ดูรูปประกอบ) การเข้าไปใช้ห้องน้ำในประเทศเหล่านี้ บางแห่งมีที่เก็บเงินอัตโนมัติ เวลาจะเข้าก็จะต้องหยอดเหรียญครั้งละ 20 เซ็นต์ ก็ประมาณ 15 บาท (1 ยูโร ประมาณ 47 บาท) หากเราหยอดเหรียญ 1 ยูโร เครื่องจะถอนเงินให้ทันที จากนั้นเราจึงจะเดินผ่านสามเหลี่ยมที่ใช้กั้นทางเข้าห้องน้ำได้ พวกเราบางคน ก็เที่ยวยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ เพราะไม่แน่ใจว่าจะเข้าไปยังไง บางคนเข้าไปแล้วออกมาไม่ได้ ก็ได้แต่ยืนดูคนอื่นออกมาจากห้องน้ำ
ห้องส้วม ที่ออสเตรีย บริเวณชั้นใต้ดิน ที่เป็นที่จอดพักของรถไฟฟ้าใต้ดิน สะอาดมากครับ ตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็นร้านอาหาร แต่ดูดีคือห้องส้วม ดี ๆ นี่แหล่ะ ครับ ห้องน้ำห้องนี้ชื่อ Opera Toilet ใกล้กับย่านช้อปปิ้ง ถนนคาร์นทเน่อร์ (Karntner Strasse) ผมต้องเข้าไปดูให้ได้ เหลียวซ้ายแลขวา ไม่เห็นมีใคร ผมจึงหยิบเหรียญ ขนาด 20 เซ็นต์ หยอดที่เครื่อง เพื่อผ่านเหล็กกั้นสามเหลี่ยม เข้าไปดูว่าข้างในเป็นอย่างไรกันแน่ ต้องบอกว่า โอ้ โฮ .....สวยงามจริง ๆ ห้องปัสสาวะ มีเปียโน วางอยู่ ผมไม่ได้กดฟังเสีย เพราะกลัวว่าคนเฝ้าห้องน้ำ จะมาและจะห้ามไม่ให้ผมกับคุณสนธยา ถ่ายภาพ จากนั้นผมก็เก็บภาพไปเรื่อย ๆ ห้องแต่ละห้องตกแต่งสวยงาม เหมือนเรานั่งอยู่ในห้องรับแขก นี่ห้องส้วมนะครับ ที่ผมต้องเน้นคำว่าห้องส้วมก็เพราะ จะมีที่สำหรับถ่ายปัสสาวะ และอุจจาระ เท่านั้น ไม่มีห้องอาบน้ำ แต่ผมก็ได้ทดลองเยี่ยว ใส่โถปัสสาวะ แต่เสียดาย ไม่ได้เข้าไปดูในห้องถ่ายทุกข์ เพราะกลัวคนอื่นจะมาเห็นพวกเราแอบถ่ายภาพ เดี๋ยวอดได้ภาพสวย ๆ ที่ประเทศออสเตรีย อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมดูแล้วต้องบอกว่า นี่ใช่เลย ห้องส้วมผมถือว่า เป็นเรื่องใหญ่ ในสมัยที่ผมเป็นเด็ก ตอนเข้าค่ายลูกเสือ มีไม่ส้วมซึม ต้องขับถ่ายลงตรงๆ โอ้ โฮ แมลงวัน บินสวนทางขึ้นมา ทำให้ผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไปหลายวัน และติดตาตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้
เรื่องส้วม แบบชักโครก ของประเทศออสเตรีย มีมานาน หลายร้อยปี (ระหว่าง ค.ศ.1382-1867 หรือ พ.ศ.1925-2410) เพราะผมไปชมมาแล้วเมื่อวันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ "พระราชวังหลวงฮับบวร์ก(Hofburg) " และได้ฟังเรื่องราวของจักรพรรดินีอลิซาเบธ (Keiserin Elisabeth)หรือ "ซีซี่" จักรพรรดินีผู้เลิศโฉม แต่เสียดายที่เขาห้ามถ่ายภาพ ผมขออธิบายให้ฟังก็แล้วกันนะครับ ห้องส้วม หรือคำราชาศัพท์ หมายถึง ห้องพระบังคน ซึ่งห้องพระบังคนของพระนางซีซี่ มีลักษณะเหมือนกับชักโครก ในปัจจุบันนี่แหล่ะครับ แต่ฝารองนั่งเป็นไม้ เพราะสมัยก่อนไม่มีพลาสติค ถังใส่น้ำก็เหมือนปัจจุบัน แต่จะอยู่สูงขึ้นไปประมาณ 1 เมตร และมีสายดึงเพื่อให้น้ำไหลชำระล้าง สิ่งปฏิกูล ห้องพระบังคน จะเป็นของส่วนพระองค์ ห้องพระบังคนมีขนาดไม่ใหญ่มากนักเท่าที่ดูด้วยสายตาแบบคราว ๆ กว้างยาวไม่เกิน 2 เมตร และพระองค์ก็ทรงเป็นผู้ออกแบบส้วมแบบชักโครก หรือพระบังคนชักโครก เพราะเดิมการที่ราชวงศ์จะถ่ายทุกข์ จะต้องใช้กระโถนรอง มีลักษณะแบน ๆเหมือนที่ใช้ในโรงพยาบาลในปัจจุบัน เมื่อเสร็จภารกิจนางกำนัล จะมาเอากระโถนไปเททิ้ง แต่เมื่อพระนาง มีพระบังคนส่วนพระองค์ การใช้กระโถน ก็หมดไป นี่ขนาดเรื่องส้วมผมก็นำข้อมูลมาเล่าให้ท่านฟังเยอะแยะ ส่วนเรื่องพระนางซีซี่ ผู้เลอโฉม ผมจะนำมาเล่าให้ท่านฟังอีกครั้งหนึ่ง ชนิดที่ท่านต้องเห็นใจพระนาง อย่างแน่นอน และนี่คือเรื่องราวของ ส้วม ปั้ม ขับรถ เติมน้ำมัน ในดินแดน ศิวิไลซ์
* * * * * * * * * * * * * *
| 
หน้าแรก
สถิติวันนี้ 
สถิติเดือนนี้ 
สถิติปีนี้ 
