www.narongthai.com  

www.narongthai.com เป็นเว็บไซต์เชิงวิชาการ ที่สามารถนำอ้างอิงได้ตามหลักวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                           
 

 ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
https://www.facebook.com/profile.php?id=100010475651732
สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 สถิติวันนี้ 34 คน
 สถิติเมื่อวาน 31 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
2290 คน
14114 คน
1706558 คน
เริ่มเมื่อ 2010-01-13

 

          


 

เกลือ เค็ม แต่ดี 

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์

27 มีนาคม 2552                               

หมายเหตุ เขาห้ามถ่ายภาพนะครับ แต่ว่าเราอ่านภาษาเยอรมันไม่ออกก็เลยได้ภาพ มาฝากครับ

เมื่อคราวที่ ผมและคณะผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตร  "นักบริหารงานการประชาสัมพันธ์" รุ่นที่ 49 และได้เดินทางไปดูงาน ที่ประเทศเยอรมัน  เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2552 และได้ดูการทำเหมืองเกลือ ที่เมือง "เบอร์ซเทสกาเด้น (Berchtesgaden)" ซึ่งเป็นเมืองที่สวยงามใกล้พรมแดนประเทศออสเตรีย ก่อนที่พวกเราจะเดินทางลงไปดูการทำเหมืองเกลือ ที่ลึกลงไปใต้ภูเขา หลายร้อยเมตร เจ้าหน้าที่ให้เราสวมชุดคนงานเหมืองเกลือ จากนั้นจึงให้เราเดินเข้าไปในอุโมงค์ถ้ำ เพื่อนั่งรถราง เข้าไปในเหมือง เหมือนกับคนงานเหมืองที่เคยมาทำงานที่นี่ ก่อนเดินทาง เจ้าหน้าที่เหมืองจะทำการถ่ายภาพพวกเราไว้ และจะมีการถ่ายภาพเป็นระยะที่มีความตื่นเต้นของพวกเรา เพราะหลังจากที่พวกเราออกมาก็จะนำภาพเหล่านั้นมาวางขายใครจะซื้อก็ได้หรือไม่ซื้อก็ได้ ในราคาใบละประมาณ 1 ยูโร แต่ส่วนใหญ่ก็ซื้อหมด หล่ะครับ เพราะดูแล้วสวยดี ผมก็ได้ภาพที่น่าตื่นเต้น เป็นภาพที่ผมกับเพื่อน ๆ กำลังสไลด์ ลงไปยังเหมืองเกลือ ซึ่งความจริงเขามีบันได ให้เดินลงไป แต่เพื่อความรวดเร็ว ของชาวเหมือง เขาได้ทำราง เหมือนกับสไลด์เดอร์ ผมจึงลงทางนี้ โอ้โห ตื่นเต้นอย่าบอกใครเชียว เพราะเป็นครั้งแรก ลงไปแล้วไม่รู้จะไปโดนอะไร แต่ก่อนที่จะลงไปคนงานเหมืองเขาได้เปิดวีดีโอ ให้ดูก็เลยลดความตื่นเต้นลงไปมาก

คำบรรยาย ของการทำเหมืองเกลือ จะมีภาษาไทยอธิบาย เป็นเทป โดยผู้อ่านคำบรรยาย เป็นผู้หญิง สำเนียงเสียงออกไปทางภาคอีสาน จากคำบรรยายทำให้ผมได้เข้าใจวิธีการทำเหมืองเกลือ ของที่นี่ ระบุว่า

หลายหมื่นปีล่วงมาแล้ว บริเวณนี้เป็นทะเล ต่อมาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก ทะเลค่อย ๆ ทรุดตัวลง แล้วเปลือกโลกที่อยู่รอบ ๆ ก็เกิดการห่อหุ้มน้ำทะเล จนเหือดแห้ง ทำให้ดินและหินมีความเค็มของเกลือปะปนอยู่เป็นจำนวนมหาศาล การทำเหมืองเกลือจึงมีการขุดลึกลงไปใต้ดินที่เป็นชั้นหินแข็ง ขั้นแรกมีการขุดดินและหิน ขนออกมาก่อน จนภายในเหมืองกลายเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่จากนั้นจึงมีการนำน้ำเติมลงไปในเหมืองเพื่อไปละลายเกลือที่อยู่ในชั้นหิน ผมลองจุ่มนิ้วลงไปในน้ำ แล้วเอาน้ำมาชิมดู ผลที่ได้คือ เค็ม ครับ เค็มจริง ๆ น้ำที่ได้ เขาจะสูบขึ้นมาข้างบน เพื่อต้มให้น้ำเกลือตกผลึก จนได้เกลือที่เป็นเม็ด และนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ถ้าเป็นเครื่องสูบน้ำที่เป็นโลหะเหล็ก ก็จะเกิดเป็นสนิมในเวลาอันสั้นครับ ชาวเหมือง จึงคิดค้นเครื่องสูบน้ำ ที่เป็นโลหะผสมคือ สำริด ซึ่งเป็นส่วนผสมของโลหะ 2 ชนิดคือ ทองแดง กับดีบุก คุณสมบัติที่ได้ จะไม่เป็นสนิม ดังนั้นเครื่องสูบน้ำเกลือ ของเหมืองจึงทำด้วยสำริด จากคำบรรยาย ทำให้ทราบว่า เครื่องสูบน้ำเครื่องนี้ มีอายุการใช้งานนับร้อยปี ซึ่งมีความทนทานมาก ครับ
ผมตั้งคำถาม ถามตัวเอง อยู่ตลอดเวลา ว่า ทำไม มนุษย์เราจึงมีความต้องการ เกลือ มากมายขนาดนี้ ถึงกับลงทุนขุดภูเขาทั้งลูก เพื่อเอาเกลือมาใช้ประโยชน์ บางครั้งก็มีการรบพุ่งกัน เพื่อแย่งชิงเกลือ บางครั้งก็ไต่เต้าและแสวงหาตำแหน่งที่มีผลประโยชน์ที่เกี่ยวกับเกลือ บางครั้งก็มีคำบอกเล่าว่า เกลือคือทองคำขาว แล้วเกลือ มีประโยชน์อะไรกันแน่ ผมเริ่มลงมือค้นคว้า เพื่อให้รู้ให้ได้ว่า เกลือมีประโยชน์อะไร

เกลือ หรือ Salt เป็นแร่ธาตุ ที่มีประโยชน์ ต่อมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน การแย่งชิงเกลือ ของไทย มีการบันทึกในพงศาวดารเมืองน่าน โดยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช ฯ เจ้าผู้ครองนครน่านได้บันทึกไว้ว่า "บ่อเกลือ เป็นสาเหตุสำคัญให้พระเจ้าติโลกราช แห่งเมืองเชียงใหม่ ยกทัพมายึดเมือง เมื่อ ปี พ.ศ. 1993 " ปัจจุบัน คือ อำเภอบ่อเกลือ ตั้งอยู่ในจังหวัดน่าน และมีการผลิตเกลือ มาจนถึงทุกวันนี้

ในสมัยกรุงธนบุรี ยังมีการพูดถึงเกลือ เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราช เห็นความสำคัญของเกลือ จึงมีการสร้างฉางเกลือ เพื่อใช้เป็นที่เก็บรักษาเกลือไว้ใช้ในกองทัพ เพราะเกลือมีประโยชน์ในการรักษาเนื้อและปลา ไม่ให้เน่า เพราะสมัยนั้นไม่มีตู้เย็นและน้ำแข็ง การใช้เกลือจึงทำให้กองทัพของพระเจ้าตากสินมีเสบียงอาหารเป็นจำนวนมาก จนสามารถกู้ชาติได้สำเร็จ และมีการสร้างศาล เจ้าพ่อฉางเกลือ ที่บริเวณท่าน้ำศิริราช แขวงพรานนก เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ปรากฏให้เห็น

ในความเป็นจริง มนุษย์รู้จักการทำ เกลือ มาตั้งแต่สมัย นีโอไลทิค (Neolithic) ซึ่งเป็นสมัยที่มนุษยชาติตั้งถิ่นฐานทำการเกษตรกรรม ประมาณ 10,000 ปี ก่อนคริสต์ศักราช แต่การใช้เกลือ จากธรรมชาติมีมาก่อนหน้านี้หลายพันปี โดยมีหลักฐานทางโบราณคดี ที่แสดงว่ามนุษย์รู้จักแหล่งเกลือสินเธาว์ สังเกตได้จากจุดดินโป่งที่สัตว์ชอบเลียเอาความเค็ม


เมื่อคราวที่ มาร์โคโปโล เดินทางไปทิเบต พบว่า ชาวทิเบตใช้เกลือก้อนเป็นเงินตรา เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า เหมือนกับในอินเดียโบราณ ที่ใช้เกลือเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชาวเมือง และในสมัยโรมัน เกลือ ใช้เป็นค่าตอบแทน ทหาร ต่อมารากศัพท์ภาษาอังกฤษ คำว่า "Salary" แปลว่า เงินเดือน ซึ่งมาจากภาษาละติน ว่า "Salarium" มีความหมายถึงการแลกเปลี่ยนโดยใช้เกลือเป็นสื่อกลาง แม้นในปัจจุบันยังมีสำนวนภาษาอังกฤษ คำว่า "Not Worth Their Salt" ซึ่งหมายถึง "คนที่ทำงานบกพร่อง จนไม่คุ้มค่าเกลือ "

ความสำคัญของเกลือแพร่ไปทั่วโลก ที่ประเทศเม็กซิโก เทิดทูนเกลือมากถึงขั้นมีการสังเวยหญิงสาวพรหมจรรย์แก่เทพแห่งเกลือทุก ๆ ปี ในจีนมีคนยอมทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อซื้อตำแหน่งที่มีอำนาจในการควบคุมการผลิตและการค้าขายเกลือ ในประเทศฝรั่งเศส การควบคุมและเพิ่มภาษีการทำเกลือ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การปฏิวัติในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และที่ประเทศอินเดีย มหาตมะคานที ใช้วิธีอารยะขัดขืน เดินทางด้วยเท้าไปยังบ่อเกลือที่ถูกควบคุมโดยชาวอังกฤษ เพื่อแสดงออกถึงการต่อสู้เรียกร้องเอกราช ในยุโรปเคยมีสงครามแย่งการครอบครองแหล่งผลิตเกลือ

การที่เกลือ มีบทบาทมากในอดีต เมืองหลาย ๆ เมืองที่ผลิตเกลือ หรือเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการค้าเกลือ จึงมักมีชื่อขึ้นต้นหรือลงท้ายด้วยคำว่า เกลือ เมืองจึงมักขึ้นต้นด้วยภาษากรีกโบราณ ที่มีความหมายว่าเกลือ คือ "Hal" หรือ "Sal" อาทิ Halle Hallein Reichenhall , Salies , La Salle, นอกจากนี้ ยังมีคำว่า Wich เป็นภาษาแองโกแซกซอน ที่มีความหมายว่า "ถิ่นที่มีเกลือ" อาทิ เมือNorwich , Middlewich , Droitwich , Greenwich , Sandwich ,

เกลือ ยังมีความผูกพัน ต่อวิถีชีวิต ความคิดความเชื่อ ของมนุษย์มาอย่างยาวนาน จนเข้าไปเกี่ยวข้องกับ ศาสนาคริสต์ เมื่อพระเยซู เปรียบสาวกของพระองค์เป็น "เกลือของโลก " หรือ "The Salt Of The Earth " อันมีนัยว่า คนเหล่านี้แม้นจะน้อย แต่จะเป็นมากต่อการประกาศศาสนา

ชาวญี่ปุ่น เชื่อว่า เกลือ (Salt) เป็นสิ่งที่สะอาด บริสุทธิ์ ชาวญี่ปุ่นจึงนำเกลือใช้ในพิธีขับไล่สิ่งอัปมงคล โดยการโรยเกลือ ซึ่งเราจะเห็นการโรยเกลือ ก่อนการแข่งขัน ซูโม่

ชาวยุโรป มีความเชื่อว่า เกลือเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพและมิตรไมตรี กระปุกเกลือเป็นของสวยงาม บนโต๊ะอาหารจะขาดไม่ได้เลย แต่ถ้าหากทำเกลือหกบนโต๊ะอาหาร ถือว่าเป็นโชคร้าย ต้องแก้เคล็ดโดยการโรยเกลือที่ไหล่ซ้ายของผู้นั้น ฝรั่งถือว่าของสำคัญอย่างเลือดและเกลือต้องอยู่ในที่ของมัน เลือดก็ต้องอยู่ในเส้นเลือด เกลือก็ต้องอยู่ในกระปุก ดังนั้นจึงถือว่าการทำเกลือหกจึงเป็นเรื่องโชคร้าย

คนไทย ก็ไม่น้อยหน้า นะครับ มีความเชื่อเกี่ยวกับเกลือมากมาย โดยมีสำนวนไทยต่างๆ เช่นคำว่า " ใกล้เกลือกินด่าง " หมายความว่า อะไรอยู่ใกล้กว่า และดีกว่าไม่ถือเอา ไปถือเอาที่เลวต่ำกว่า สำนวนที่ว่า "กัดก้อนเกลือกิน" หมายความว่า เกิดความขัดสนด้านเศรษฐกิจ จึงจำต้องกินเกลือ ที่ให้รสชาติอาหารที่อร่อยกว่า แม้นอยู่ในยามขัดสน แต่ในบางครั้ง มีการเปรียบเปรยคนที่ ตระหนี่ ขี้เหนียว ว่าเป็นคนเค็ม หมายความว่า เป็นคนขี้เหนียวไม่ค่อยใช้จ่ายตามสมควร

นอกจากนี้ ยังมีสุภาษิตของไทยมีไว้เพื่อสอน เช่น "เกลือเป็นหนอน" "เกลือจิ้มเกลือ" "อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ " "ต่อเมื่อแกงจืดจึงรู้คุณเกลือ" "จงรักษาความดี เหมือนเกลือรักษาความเค็ม"

คนไทยยังมีความเชื่อ เรื่องเกลือ ที่มีบทบาทต่อความเชื่อทางไสยศาสตร์ ของคนไทย คือ การนำพลังอำนาจบริสุทธิ์ของเกลือไปไล่สิ่งชั่วร้าย หรือ นำไปสาปแช่ง โดยการเผาพริกเผาเกลือ

เกลือ ยังมีประโยชน์ทางยา ซึ่งจะเห็น ได้จาก เกลือเป็นเภสัชวัตถุ ที่มีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ มีการบันทึกไว้ใน ตำราพระโอสถพระนารายณ์ รวมถึงพิกัดเกลือทั้ง 5 คือ เกลือสินเธาว์1 เกลือวิก1 เกลือพิท1 เกลือฝ่อ1 และเกลือสมุทะรี1

เกลือ นอกจากจะเป็นยา เกลือยังเป็นอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อมนุษย์ ด้วย เกลือ ในภาษาเคมี คือ โซเดียมคลอไรด์ (NaCl) ซึ่งเป็นองค์ประกอบของเกลือ เมื่อเรารับประทานเกลือเข้าไป ร่างกายจะแยกสาร 2 ชนิดออกจากกัน คือ โซเดียม กับ คลอไรด์ โดยโซเดียม มีบทบาทในการรักษาปริมาณของเลือดหรือของเหลวในร่างกาย และทำความดันให้เป็นปกติ ส่วนคลอไรด์ จะช่วยควบคุมความเป็นกรดเป็นด่างของเกลือ เกลือเป็นสิ่งสำคัญต่อชีวิตที่ขาดไม่ได้ เพราะเกลือจะช่วยในการรักษาความสมดุลของเหลวในร่างกาย ระบบประสาท และกล้ามเนื้อ การกินเกลือมาก อาจจะเกิดโทษต่อร่างกายได้ โดยจะมีผลทำให้เกิดความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหัวใจ ฯลฯ

เกลือ ยังมีประโยชน์ ในการทำน้ำปลา ผงชูรส สบู่ ผงซักฟอก น้ำหอม กาว แก้ว กระจก กระดาษ เซรามิค ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช ดีดีที ใช้ทำน้ำให้บริสุทธิ์ ทำฝนเทียม ใช้ในเครื่องทำความเย็น ปรับความเป็นกรดเป็นด่างในสระว่ายน้ำ เป็นส่วนประกอบในการฟอกหนัง ฟอกสีกระดาษและสิ่งทอ ทำอลูมิเนียม พีวีซี ทำน้ำยาล้างหม้อน้ำรถยนต์ น้ำมันหล่อลื่น ใช้ในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าและรถยนต์ การถลุงแร่ดีบุกและแร่แทนทาลัม การแต่งแร่ การสกัดทองคำ การขุดเจาะและกลั่นน้ำมัน อุตสาหกรรมการหมักดองอาหาร และทำวัตถุระเบิด

เห็นหรือยังครับ ว่า เกลือ หรือ SALT ในภาษาอังกฤษ มีประโยชน์มากมายมหาศาล ยากที่จะประมาณ และการที่ผมได้เดินทางไปดูเหมืองเกลือที่เยอรมันครั้งนี้ ทำให้ผมได้รับรู้เรื่องเกลือมากขึ้น และเห็นความสำคัญของเกลือ ที่มีค่ามากยิ่งกว่าทองคำ แล้วท่านหล่ะครับ เมื่ออ่านเรื่องเกลือ แล้วมีความคิดเห็นเหมือนผมหรือไม่ครับ ว่า เกลือ เค็ม แต่ดี เหมือนกับโฆษณายาสีฟันยี่ห้อ Salt ที่มีเกลือเป็นส่วนผสม ไม่ต้องใช้เกลือขัดฟัน แบบโบราณ สดวกดีครับ
* * * * * * * * * * * * * * * *

หมายเหตุ เขาห้ามถ่ายภาพนะครับ แต่ว่าเราอ่านภาษาเยอรมันไม่ออกก็เลยได้ภาพ มาฝาก ครับ                 


คลิ๊กนี้มีความหมาย

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 : Webmaster by Narong Cheunniran : อีเมล์ :narongthai53@gmail.com