|
วิเคราะห์สถานการณ์ความรุนแรง
เดือนกุมภาพันธ์ 2553
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
กุมภาพันธ์ 2553
บทนำ
เดือนกุมภาพันธ์ 2553 สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทวีความรุนแรงมากขึ้น โจรก่อการร้าย มุ่งทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และยัง ดำเนินการต่อสู้ทางยุทธวิธี กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร อย่างต่อเนื่อง สร้างความสูญเสียต่อทั้งสองฝ่าย และเป็นที่กังวลต่อหน่วยความมั่นคง ที่รุกหนักทางด้านการทหาร และอาวุธโธปกรณ์ ลงไปยังพื้นที่เป็นจำนวนมาก แต่ความรุนแรงก็มิได้ลดลง สถานการณ์กลับหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น
ผบ.พตท.ระบุ ทหารเจ็บกว่าพันนาย
พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการพลเรือนตำรวจทหาร ระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึง ปี 2553 เจ้าหน้าที่ทหาร และทหารพราน ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1,473 นาย และต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ จำนวน 157 นาย
สถิติ ความรุนแรง กุมภาพันธ์ 2553
เหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดจากการลอบยิง ซึ่งเกิดขึ้น ประมาณ 35 ครั้ง ในการลอบยิงพบว่า มีการลอบยิงผู้หญิงสูงอายุ 87 ปี ได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่โจรก่อการร้ายลอบยิง เด็กและสตรีเสียชีวิต 4 ราย และยังยิงผู้บริสุทธิ์ที่เป็นชาวบ้าน นอกจากนั้นโจรก่อการร้ายยัง ลอบวางระเบิดโดยมีการเปลี่ยนวิธีการโดยใช้ระเบิดหล่อเข้ากับหลักทางโค้ง ริมถนนสายหลัก เมื่อทหารเดินลาดตระเวนผ่าน ก็กดระเบิด สร้างความสูญเสียให้กับทหาร โจรก่อการร้ายยังพุ่งเป้าสังหารบัณฑิตอาสา ที่ทำงานให้กับหน่วยราชการในพื้นที่ เสียชีวิต 2 เจ็บอีก 1 และยังลอบยิงกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
เดือนนี้มีการลอบสังหารครูอย่างโหดเหี้ยม โดยเมื่อยิงแล้ว คนร้ายยังใช้น้ำมันลาดแล้วจุดไฟเผา นอกจากนี้โจรก่อการร้าย ยังพุ่งเป้าไปลอบยิงและวางระเบิด ตำรวจ และทหาร แต่ทางการก็สามารถตอบโต้และสังหาร RKK เสียชีวิต ถึง 11 ศพ และสามารถจับได้อีก 1 คน
ปัจจัยของความรุนแรง
พบว่า โจรก่อการร้าย ได้มีการฝึกเยาวชนขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนผู้ที่ตายไป ให้มาทำหน้าที่แทน โดยยังคงยึดหลักความคิดความเชื่อ ในเรื่องของอัตลักษณ์ ศาสนาที่นำไปบิดเบือน ให้หลงเชื่อ และเพื่อเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่ ที่กวาดล้าง อย่างหนัก จนทำให้สมาชิก RKK ต้องเสียชีวิตภายในเดือนกุมภาพันธ์ถึง 11 ศพ และทางการยังจับได้ อีก 1 คน และอีกจำนวน 8 คน ได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ เพราะทนความกดดันของฝ่ายความมั่นคงไม่ได้ และอีกประเด็นหนึ่งคือ โจรก่อการร้าย มีความเชื่อว่า เครื่องจีที 200 ใช้งานตรวจวัตถุระเบิด ใช้ไม่ได้ผล ทำให้โจรก่อการร้ายได้ใจที่จะปฏิบัติการโดยไม่มีความเกรงกลัวอีกต่อไป
และในวันที่ 13 มีนาคม จะเป็น วันสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็น BRN ซึ่งเป็นขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่มีอิทธิพลในพื้นที่ ภาคใต้อยู่ในขณะนี้ แต่ไม่พบความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดสงขลา
ยุทธวิธีในการตอบโต้ของโจรก่อการร้าย
พบว่า โจรก่อการร้าย ใช้วิธีการแบบเดิม ๆ คือ การลอบยิงโดยใช้อาวุธปืนสงคราม โดยยิงเป้าหมายที่อ่อนไหว อาทิ สตรี และหญิงชรา และมีการลอบวางระเบิด แบบแสวงเครื่อง ที่ใช้โทรศัพท์เป็นตัวกดระเบิด และเพิ่มการอำพรางระเบิด โดยฝังระเบิดหล่อไว้ในเสาปูน ตั้งไว้ที่ทางโค้ง ริมถนน สายหลัก
สรุปเหตุการณ์เดือนกุมภาพันธ์ 2553
1.ลอบยิง 35 ครั้ง
2.ระเบิด 12 ครั้ง
3.ชาย 97 คน
4.หญิง 7 คน
5.บาดเจ็บ 59 คน
6.ตาย 27 คน
7.เกิดเหตุในจังหวัดปัตตานี 19 ครั้ง
8.เกิดเหตุในจังหวัดยะลา 18 ครั้ง
9.เกิดเหตุในจังหวัดนราธิวาส 11 ครั้ง
10. ส่วนจังหวัดสงขลา ไม่เกิดเหตุความรุนแรง
แนวโน้มของสถานการณ์ความรุนแรง
ปี 2553 มีแนวโน้มว่า สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อตรวจสอบสถิติ ที่เกิดเหตุ แม้นว่า ฝ่ายความมั่นคงจะเพิ่มกำลังและงบประมาณ ลงพื้นที่ นับหมื่นล้านบาท และเชื่อว่า เหตุการณ์ในเดือนมีนาคม 2553 จะยังคงมีความรุนแรงอีกต่อไป
บทสรุป
ไม่ปรากฏความรุนแรงในจังหวัดสงขลา แต่พบความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดปัตตานีมาที่สุด และใกล้เคียงกับ ยะลา นราธิวาส โดยมีคนหนุ่มหน้าใหม่ เป็นผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งมีการพุ่งเป้าสังหารหญิงชรา และเด็ก มากขึ้น ซึ่งผู้ก่อเหตุจะใช้วิธีลอบยิงเหยื่อ ส่วนตำรวจจะใช้วิธีการลอบวางระเบิด ขณะเดียวกันฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็สามารถสังหาร แนวร่วม RKK ได้หลายราย | 
หน้าแรก
สถิติวันนี้ 
สถิติเดือนนี้ 
สถิติปีนี้