ชีวิตนักข่าว...สายตรงจากตะกั่วป่า
เสือภูเขา ปลายวา แหลมปะการัง
11 มีนาคม 2542
ต้องบอกท่านว่า คนไทยที่ทำมาหากินใน เมืองลอสแองเจอร์ลิส (L.A.) มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีมากพอ ๆ กับ พลเมืองของไทยเท่ากับจังหวัดใหญ่ ๆ ของไทย มีหลายคนได้ไปทำมาหากินที่นั่น ซึ่งรวมทั้งอดีตนักร้องคนดังในอดีต คือ คุณสัญชัย อโกรานนท์ หรือ โกรานนท์ นักร้องลูกกรุง แนวเสียง เดียวกับ คุณอานัติ พุทธมาศ ได้ไปตั้งรกรากที่ อยู่ที่นั่นและได้หันไปประกอบอาชีพ นักข่าว โดยเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ ไทยไทมส์ Thai Times เป็นหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กที่เรียกว่า แท็ปลอยด์ โดยมีรายได้มาจากการโฆษณา ที่ผมดูแล้วก็สามารถที่จะอยู่ได้ และผมก็ได้เริ่มติดต่อกับคุณสัญชัย ถึงขนาดให้คุณสัญชัย โฟนอิน เข้ามาในรายการ ที่ผมจัดอยู่ที่ สถานีกระจายเสียงวิทยุประเทศไทยตะกั่วป่า และผมเองก็ได้เขียนบทความ ลงในหนังสือพิมพ์ ของคุณสัญชัย ด้วยเช่นกัน ดั่งข้อความต่อไปนี้
ชมรมวิ่งจักรยานเมืองตะกั่วป่า จัดท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ เสือภูเขา ปลายวา แหลมปะการัง
การจัดการท่องเที่ยวด้วยจักรยานเสือภูเขา ปลายวา แหลมปะการัง ประสบความสำเร็จ มีนักปั่นจักรยานรอบโลกร่วมกิจกรรมด้วย และมีนักปั่นร่วมกิจกรรมจำนวน 50 คัน โดยมาจาก จังหวัดกระบี่ ภูเก็ต และตะกั่วป่า
นายอาริยะ ทองลิ่ม รองประธานชมรามวิ่งจักรยานตะกั่วป่า บอกว่า ทางชมรมได้จัดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เมื่อวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2542 ที่ผ่านมา โดยเส้นทางการท่องเที่ยว จะขี่ผ่านย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า จุดแรกที่ผ่านคือองค์เทวรูปพระนารายณ์ จำลอง ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองตะกั่วป่า ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่สุดที่แสดงคงวามรุ่งเรืองในอดีตของเมืองตะกั่วป่า ที่เคยติดต่อค้าขายกับชมพูทวีป หรือ อินเดีย เพราะเทวรูปพระนารายณ์ เป็นที่เคารพนับถือของผู้นับถือศาสนาฮินดู และถือว่าเป็นเทพที่คุ้มครองโลก เมื่อชาวอินเดียเดินทางไปค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะนำเทวรูปไปด้วย ซึ่งเทวรูปพระนารายณ์เมืองตะกั่วป่าจำลองสูงประมาณ 2 เมตร เท่าองค์จริง
ก่อนที่จะออกเดินทางเราได้พานักปั่นทุกคนไปสักการะองค์เทวรูปพระนารายณ์ เพื่อขอพร และเพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้นรถจักรยานยนต์ของตำรวจทางหลวงได้นำขบวนผ่านเมืองตะกั่วป่า ที่เคยมีความเจริญรุ่งเรือง ในอดีต บ้านเรือทรงชิโนโปรตุกิส ซึ่งเป็นแบบผสมผสานระหว่างจีนกับโปรตุเกส บ้านเรือแถวจะมีช่องทางเดินถึงกัน เวลาชาวบ้านเดินซื้อของก็จะไม่ร้อนและไม่เปียกฝน ทำให้สะดวกต่อการค้าขาย และทุกวันนี้อาคารเหล่านี้ยังคงมีอยู่ แต่การค้าขายไม่ค่อยจะคึกคักเหมือนเมื่อมีความรุ่งเรืองของการค้าขายแร่ดีบุก ซากความเก่าแก่ของเมืองตะกั่วป่ายังคงมีอยู่นั่นคือ ยังคงมีกำแพงเมืองเก่า ซึ่งในอดีตเคยเป็นจวนของเจ้าเมืองตะกั่วป่า พระยาเสนานุชรังสรรค์ ต้นตระกูล ณ นคร
พระยาเสนานุชรังสรรค์ เดิมเป็นชาวนครศรีธรรมราช ได้ทำความดีความชอบ เนื่องจกได้ไปรบกับเมืองไทรบุรี เมื่อชนะกลับมาจึงได้มาครองเมืองตะกั่วป่า และเป็นต้นตระกูล ณ นคร
เมื่อผ่านเมืองตะกั่วป่า ขบวนจักรยานเสือภูเขาได้เดินทางต่อไปยังบ้านปลายว่าซึ่งอยู่ในตำบลเหมาะ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา โดยใช้ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ก็มาถึงปลายวา จากนั้นคณะทั้ง 50 คัน ได้เดินทางขึ้นไปยังภูเขาปลายวา ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ เราขี่ผ่านสายธารน้ำไหลและน้ำตก เกือบ 10 แห่ง ที่เป็นธรรมชาติเพราะป่าส่วนใหญ่ยังไม่ถูกทำลาย เราหยุดพักเที่ยงทานข้าห่อ ประกอบด้วย ไก่ผัดขิง ไข่ดาว และน้ำพริกจ่าพัน อาหารมื้อเที่ยงเป็นมื้อที่อร่อยที่สุด เพราะนั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และริมลำธารน้ำไหล แสงแดดแทบจะไม่ส่องถึงพื้นดิน ทำให้บรรยากาศเย็นและร่มรื่น หลังจากนั้น เมื่อพวกเราได้ทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้วก็เดินทางต่อโดยเส้นทาง 4 กิโลเมตรแรก พวกเราต้องจูงเสือภูเขา เพราะเส้นทางเป็นป่าทึบ อุดมสมบูรณ์ เส้นทางจึงเป็นเส้นทางเดินเท้าของนายพรานป่า เมื่อพวกเรามาถึงกลางภูเขาก็ได้พบกับ นายเพ้ง น้ำปั่น ซึ่งเป็นชาวไทยใหม่ ที่มาทำไร่อยู่กลางป่า โดยนายเพ้งได้นำมะพร้าวมาให้พวกเราได้ดื่ม กันอย่างทั่วถึง ซึ่งนายเพ้ง บอกว่า ดีใจมากที่ได้ต้อนรับคณะจักรยานเสือภูเขา ตั้งแต่มาอยู่กลางป่าไม่มีใครมาเยี่ยมแบบนี้เลย ที่บ้านก็ไม่มีไฟฟ้าใช้ความเป็นอยู่ก็อยู่อย่างง่าย ๆ
หลังจากที่พักหายเหนื่อยและดื่มน้ำมะพร้าวเสร็จแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางต่อ คราวนี้จักรยานเสือภูเขาทั้งหมดสามารถที่จะปั่นได้แล้ว เพราะเส้นทางแม้นว่าจะเป็นเส้นทางเดินเท้า ก็อยู่ในสภาพที่ดีกว่าช่วงแรก ๆ จักรยานทุกคันขี่ลัดเลาะตามไหล่เขา และตลอดเส้นทางจะผ่านลำธารประมาณ 5 แห่ง ที่มีน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวป่า พอเกือบจะถึงถนนใหญ่ อาจารย์โอฬาร ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนอนุบาลนิลุบล ตะกั่วป่า ได้มาคอยต้อนรับพวกเราและคอยแจกน้ำมะขาม ทำให้ทุกคนหายเหนื่อย จากนั้นนักปั่นเสือภูเขา ได้ปั่นต่อไปยังน้ำตกวังเคียงคู่ เมื่อถึงจุดนี้ก็มีน้ำเฉาก๊วยของเมืองตะกั่วป่าเฉาก๊วย มาคอยแจกจ่ายแก่นักปั่นทุกคน ซึ่งอิ่มกันถ้วนหน้า
เมื่อพักเอาแรงพอประมาณ ทุกคนได้ปั่นต่อไปตามถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นช่วงที่เลียบฝั่งทะเลอันดามันและเป็นถนนที่ดีมาก ธรรมชาติยังมีความอุดมสมบูรณ์ และมีฝรั่งนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะเมืองตะกั่วป่า ช่วงนี้จะมีชายหาดที่ยาวมากถึง 30 กิโลเมตร และยังมีความบริสุทธิ์ รีสอร์ทลายแห่งกำลังก่อสร้าง ในที่สุดคณะก็ได้เดินทางมาถึงแหลมปะการังช่วงเย็นก็มีการจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ มีทั้งการร้องเพลงคาราโอเกะ การเล่นรอบกองไฟ และมีการตั้งเต้นนอนกันริมชายหาด ทุกคนมีความสุขและสนุกสนานมาก
การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีนักปั่นจักรยานรอบโลกมาร่วมกิจกรรมด้วยคือ นายเคน ชาง (Kan Chang ) ชาว แคนนาดา อายุ 40 ปี และนายเคน ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เริ่มต้นปั่นจักรยานคู่ชีพ ที่ประเทศแกมเบียในทวีปแอฟริกา และได้ปั่นจักรยานไปทั่วทั้งทวีปเมื่อสิ้นสุดก็ได้ย้อนกลับไปที่อเมริกาเหนือ ปั่นลงสู่ทวีปอเมริกาใต้ จากนั้นก็ได้เดินทาง โดยเครื่องบินไปยังประเทศนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทย นายเคนมีความประทับใจในธรรมชาติของเมืองไทยมาก และความมีน้ำใจ ความเป็นเพื่อนของคนไทย เมื่อเขาขี่จักรยานผ่านไปในชนบท ก็จะมีเสียงทักทายจากชาวบ้าน แต่เมื่อผ่านประเทศ อื่น ๆ จะไม่มีใครทักทายเขาแม้นแต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเช่น มาเลเซีย และเขาดีใจมากที่คนไทยได้จัดงานวันเกิดให้เขา เพราะคาดไม่ถึงว่าจะมีงานนี้ คิดว่าจะกลับมาเมืองไทยอีก และจะนำเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไปเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังและจะเขียนหนังสืออีกด้วย
99999999999999999