www.narongthai.com  

www.narongthai.com เป็นเว็บไซต์เชิงวิชาการ ที่สามารถนำอ้างอิงได้ตามหลักวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                           
 

 ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
https://www.facebook.com/profile.php?id=100010475651732
สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 สถิติวันนี้ 6 คน
 สถิติเมื่อวาน 28 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
3384 คน
49198 คน
1741642 คน
เริ่มเมื่อ 2010-01-13

 

ดูงานลาว…เพลงชาติลาว และการชักธงชาติลาว
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
4 ธ.ค.52 
 
ฟังดูน่าตกใจ ถ้ามีการจ้างคนขับรถเงิน 2 ล้าน แต่เมื่อตรวจสอบให้ดี เป็นการจ้างคนขับรถที่ประเทศลาวครับ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 12,000 บาท แต่ก็ยังนับว่าสูงอยู่ดี เมื่อเทียบกับคนขับรถในเมืองไทย 
 
ก่อนอื่น ผมต้องบอกท่านว่า ภาษาลาวมีคำพูดที่มีสำเนียงเหมือนกับภาษาไทยอีสาน แต่ตัวอักษรแตกต่างจากภาษาไทย บ้างไม่มากนัก คำบางคำผมก็อ่านออก เพราะเขียนคล้าย ๆ กัน กับภาษาไทย ดังนั้นการที่เราจะสื่อสารกับคนลาวจึงไม่เป็นเรื่องยากครับ   คุณสามารถพูดไทยได้ ในขณะที่ คนลาวก็พูดลาว คุณก็สามารถสื่อสาร และเข้าใจกันได้ 
 
ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับ ท้าวบี้ จอมแสงมณี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 นครเวียงจันทร์ ประเทศลาว  ซึ่งเป็นพนักงานขับรถยนต์ของเขื่อนน้ำเทิน 2 แขวงคำม่วน  เล่าให้ผมฟัง เป็นภาษาลาว ว่า คำนำหน้าชื่อผู้ชายในเมืองไทย เรียกว่า นาย ที่เมืองลาว เรียกว่าท้าว แต่ถ้ามียศถาบันดาศักดิ์ จะเรียกคำนำหน้าชื่อว่า ท่าน ส่วนคำนำหน้าผู้หญิง มีคำเดียว คือ นาง ไม่ว่าจะแต่งงานแล้วหรือเป็นโสด ก็จะเรียกว่านาง เพียงอย่างเดียว ถ้าอยากจะรู้ใครมีผัว หรือไม่มีผัว ก็ถามไถ่เอาเอง นะครับ 
 
ท้าวบี้ บอกว่า น้ำมันที่ใช้เติมรถในเมืองลาว จะส่งมาจาก เมืองไทย ถ้าน้ำมันไทยแพง เมืองลาวก็แพง ตาม ตอนนี้ราคาน้ำมันเบนซิน ลิตรละ 8,600  กีบ (K ) หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 40 บาท ต่อไปนี้ ผมจะแทนคำว่า กีบ เป็นคำว่า K เพื่อให้เป็นหลักสากลในการเรียกสกุลเงินลาว สำหรับราคาน้ำมันโซล่า หรือ ดีเซล ลิตรละ 6,600 K  คิดเป็นเงินไทยประมาณ 30 กว่าบาท ท้าวบี้ บอกวิธีเทียบเงินบาทกับเงินลาววิธีง่าย ๆ ดังนี้ ครับ 
 
1 บาท เท่ากับ 250 K
10 บาท เท่ากับ 2,500 K
100 บาท เท่ากับ 25,000
1,000 บาท เท่ากับ 250,000 K  
10,000 บาท เท่ากับ 2,500,000 K
 
การเรียกขานเงินลาว ถ้า 25 K  อ่านว่า ซาวห้ากีบ ซึ่งคนอีสานดั้งเดิมก็จะเรียกขานแบบนี้ครับ ถ้า 2,500 K จะอ่านว่า สองพันห้าร้อยกีบ ถ้า 25,000 K  จะอ่านว่า ซาวห้าพันกีบ จะไม่อ่าน สองหมื่นห้าพันกีบ ในสำเนียงภาษาไทยนะครับ ถ้า 2 แสนK หรือ 2 ล้านK ก็จะออกเสียงเหมือนภาษาไทย ครับ  เห็นไหมครับ ไม่ค่อยต่างกับภาษาไทยใช่ไหมครับ ผมว่าลาวน่าไปท่องเที่ยวนะครับ ถ้ามีเวลาผมจะไปอีก 
 
ก่อนที่ผมจะพูดคุยกับท้าวบี้ เวลาประมาณ 11.00 น. ผมเห็นนักเรียน  กำลังจะออกจากโรงเรียน เพื่อเดินกลับบ้าน จึงมีความสงสัยขึ้นมาว่า เอ... คนเมืองลาวเขาเรียนครึ่งวัน หรืออย่างไร ที่เหลือเขาไปทำอะไร ไปนอนเวน หมายถึงนอนกลางวัน ตามที่เขาว่ามาจริงหรือไม่ คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวสมองผมตลอดเวลา แถมยังมีคนพูดเข้าหูว่า คนลาวขี้เกียจ เพราะฝรั่งสอนให้คนลาวนอนกลางวัน ดังนั้นจึงเรียนครึ่งวันก็พอ คนลาวจะได้ไม่เก่ง และจะได้ปกครองง่าย ผมจึงนำคำถามนี้ไปถามกับ ท้าวบี้ ว่าคนลาวเรียนหนังสือ ครึ่งวัน ใช่ไหม 
 
ท้าวบี้ เล่าให้ฟังเป็นภาษาลาว ว่า “ที่เห็นนักเฮียนลาว เมื่อบ้านตอนกางเวน บ่แมนเขาป่อยเมื่อบ้าน ดอก แต่เขาป่อยให้นักเฮียน เมื่อบ้านไปกินเข่าเทียง ”  แปลเป็นไทยได้ว่า ที่เห็นนักเรียนลาว กลับบ้านตอนกลางวัน ไม่ใช่เขาปล่อยกลับบ้าน หรอก แต่เขาปล่อยให้นักเรียน กลับบ้านไปกินข้าวเที่ยง
 
 ท้าวบี้เล่าให้ฟังอีกว่า “ประมาณ บ่ายโมง นักเฮียน กะซิกับมาเฮียนหนังสือต่อ แล่วซิเลิกเฮียอีกประมาน บ่าย 4 โมงแลง ” ซึ่งหมายความว่า ประมาณบ่ายโมงนักเรียน ก็จะกลับมาเรียนหนังสืออีก แล้วก็จะเลิกเรียนเวลาประมาณ บ่าย 4 โมงเย็น ผมจึงรู้แจ้งแดงชัดว่า คนลาวไม่ได้เป็น คน        ขี้เกียจเหมือนที่ใครบางคนเข้าใจ แต่ที่เมืองลาวปล่อยเด็กนักเรียนกลับบ้านก็เพราะว่า ที่โรงเรียนยังไม่มีโครงการอาหารกลางวัน เหมือนเมืองไทย และยังไม่มีแม่ค้า ไปขายอาหารในโรงเรียน ที่ตั้งอยู่ในชนบท โรงเรียนจึงต้องปล่อยเด็กกลับไปกินข้าวที่บ้าน ที่มีบ้านเรือนอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่บางคนก็มีการห่อข้าวไปกินที่โรงเรียน ซึ่งก็มีเหมือนกัน แต่ก็ไม่มากนัก เมื่อพูดถึงเรื่องเรียน ผมถามท้าวบี้ว่า คำว่าหนังสือ ในภาษาลาวเขาเรียกว่าอะไร “ท้าวบี้บอกว่า เขาเอิ้นว่า ปื้ม ส่วนปากกาเขาเอิ้นว่า บิ๊ค” เอ้า...รู้แล้วใช่ไหมครับว่า หนังสือภาษาลาวเรียกว่า ปื้ม ปากกา เรียกว่า บิ๊ค อาจจะมาจากคำว่าปากกายี่ห้อบิ๊ค นะครับ  ซึ่ง ท้าวบี้ รู้สึกจะยอมรับ แต่ก็มีความรู้สึกไม่แน่ใจในตัว เพราะท้าวบี้ก็เป็นเพียงคนขับรถคนหนึ่งไม่ได้เป็นนักภาษาศาสตร์ ก็ฟังไว้นะครับ 
 
เมื่อพูดถึงเรื่องการศึกษา ผมจึงถามท้าวบี้ว่า “ที่เมืองลาว เขามีการร้องเพลงชาติ และชักธงลงวันละกี่ครั้ง เพราะตอนนี้ที่เมืองไทย ก็มีการรวมตัวกันร้องเพลงชาติ หมุนเวียนไปตามจังหวัดต่าง ๆ ตอน 8 โมงเช้า ที่เมืองไทยชักธงขึ้นเสา และเวลา 6 โมงเย็น ที่เมืองไทยก็จะชักธงลง เป็นอย่างนี้วันละ 2 ครั้ง แล้วที่เมืองลาว มีการชักธงชาติวันละกี่รอบ ”  ท้าวบี้ ตอบผมว่า “ ที่เมืองลาว สับปะดา หนึ่ง เฮ็ดสองเทือ คือ วันจัน ซักธงขึ้น วันสุก ซักธงลง ตอนที่ซักธงเขากะซิฮ้องเพงซาด ” ผมตลึงครับ เพราะในสัปดาห์หนึ่งที่เมืองลาว เขาจะชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ในเช้าวันจันทร์ และชักธงลง เย็นวันศุกร์ ส่วนเวลาไม่แน่นอน ว่าจะเป็น 8 โมง หรือจะเป็น 6 โมงเย็น ขอให้พร้อมกันก็ใช้ได้ การร้องเพลงชาติลาว ก็จะเกิดขึ้นตอน ชักธงชาติทั้งขึ้นและลง ครับ ด้วยความสนใจ ผมจึงให้ท้าวบี้ร้องเพลงชาติลาวให้ฟัง ซึ่ง ท้าวบี้ ก็เต็มใจที่จะร้อง ซึ่งท้าวบี้บอกว่า “มันยาว กัว เพลงซาดไทย เด้อ” ซึ่งผมก็บอกว่า “ร้องช้า ๆ นะ เดี๋ยวผมจะจด เนื้อเพลง ”  
 
ท้าวบี้ เริ่มร้อง เป็นภาษาลาว ซึ่งเป็นท่อนแรก ดังนี้ครับ “ชาวลาวตั้งแต่ใดมา เราทุกถ้วนหน้าเชิดชูจิตใจ ฮ่วมแฮงฮ่วมจิตฮ่วมใจ สามัคคีกันเป็นกำลังเด็ดเดี่ยวพร้อมกันก้าว บูชาชูเกียรติของเรา....” 
 
นี่เป็นเพียงท่อนหนึ่งของเพลงชาติลาวนะครับ จริง ๆ ผมจะขอจดเนื้อเพลงให้หมด แต่ต้องใช้เวลานาน จึงต้องขอร้องท้าวบี้ให้ร้องเพียงเท่านี้พอเป็นตัวอย่าง เพราะยาวกว่าเพลงชาติไทย ถ้าขืนร้องหมด เราคงไม่ได้เดินทางต่อไปเขื่อนน้ำเทิน 2 เป็นแน่ 
 
* * * * * * * * * * * * *


คลิ๊กนี้มีความหมาย

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 : Webmaster by Narong Cheunniran : อีเมล์ :narongthai53@gmail.com