สวันนะเขต
ประเทศลาว ตอนที่ 2
5 ธันวาคม 2552
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
หลังจากที่ผมเดินทางเข้า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือเรียกแบบย่อที่ถูกต้องคือ สปป.ลาว แต่ต่อไปนี้ผมจะเรียก ประเทศลาว ซึ่งจะทำให้เข้าใจง่ายและ ง่ายต่อการนำเสนอ ซึ่งผมต้องบอกนะครับว่า การเรียกประเทศลาวเฉย ๆ เป็นการเรียกที่ไม่ถูกต้องตามหลักทางภาษาของลาวนะครับ ที่ผมต้องพูดอย่างนี้ก็เพื่อ ท่านจะได้เรียกอย่างถูกต้องเท่านั้นเอง
เมื่อผมเดินทางถึง สถานีขนส่งสะหวันนะเขต และเข้าห้องน้ำที่แสนจะแพง โดยคนเฝ้าห้องน้ำคิดครั้ง 1,250 กีบ คิดเป็นเงินไทย 5 บาท ผมได้เรียกรถสามล้อ ที่ลาวจะไม่เรียกรถสกายแล็บ เหมือนบ้านเรานะครับ แต่เขาจะเรียก รถจัมโบ้ ที่จะใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็ก 2 สูบ และจะมีความแรง ไม่เหมือนสกายแล็บที่ใช้เครื่องมอเตอร์ไซด์ ในการขับเคลื่อน ใจจริงของผมคือ จะไปตลาดสิงคโปร์ เพื่อไปสำรวจตลาดและวิถีชีวิต เพราะในความจริง ตลาด และคิวรถ จะเป็นศูนย์รวมของผู้คน เราจะได้เห็นวัฒนธรรม ที่เรียกว่าเกือบจะทั้งหมดมารวมกันที่นี่ ซึ่งจะรวมถึง อาหารการกิน การแต่งกาย การค้าขาย การเดินทาง แม้กระทั่งคนขอทาน ก็จะมารวมตัวกันที่นี่ ครับ
ต้องบอกว่า ท่ารถบขส.สะหวันนะเขต กับตลาดสิงคโปร์ไม่ไกลกันนัก ท่านสามารถเดินไปได้ แต่เราไม่รู้และก็ไม่ค่อยมีเวลา ก็เลยต้องเสียค่ารถไป 40 บาท ก็ประมาณ 9,840 กีบ เมื่อลงจากรถสามล้อ ก็มีแม่ค้าเดินปรี่มาหาผม พร้อมกับเสนอขายสินค้า อย่างว่า ไวอาก้า บ่ อ้าย กินดี เด้ อ้าย เอาบ่ ผมนึกอยู่ในใจ นี่หนีจากท่าขี้เหล็ก ยังมาเจอที่ลาวอีกหรือนี่ แต่ผมก็ไม่ใช่คนพันธุ์อย่างว่า ก็บอกตรง ๆ ไปว่า ไม่เอานะคร๊าบ ผมเองก็ไม่อยากพูดมากก็เดินหนี ซึ่งเธอก็ไม่เดินตื้อ เหมือนท่าขี้เหล็ก ที่ตื้อแบบเอาเป็นเอาตาย เออ...รอดมาได้
จากนั้นผมก็ตระเวน เดินไปรอบ ๆ ท่ารถ เพื่อเก็บภาพ แห่งความทรงจำ ต้องบอกว่าเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับผม เพราะรถยนต์ที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่รถยี่ห้อ โตโยต้า ฮอนด้า หรือ มาสด้า อย่างที่มีกันมากในประเทศไทย แต่รถยนต์ที่ผมเห็น จะเป็นรถยนต์ยี่ฮุนได ผลิตในเกาหลีใต้ เกือบทั้งหมด และเป็นรถมือสอง ราคาคันหนึ่งประมาณ 1-2 แสนบาท คงจะเหมาะสมกับฐานะของคนลาวที่เศรษฐกิจยังไม่ดีก็เลยต้องใช้รถยี่ห้อนี้อยู่ รถที่นำเข้ามาจะเป็นการแยกชิ้น มานะครับ ไม่ได้มาเป็นคัน วิธีการส่งมาจากเกาหลี จะมาโดยทางเรือ มาขึ้นที่ท่าเรือคลองเตยประเทศไทย จากนั้นก็จะนำมาประกอบเป็นคันรถ แล้วจึงส่งไปขายในประเทศลาว โดยรถทุกคันที่มาขายที่นี่ จะเป็นรถพวงมาลัยซ้าย เพราะการขับรถยนต์ที่ลาวจะต่างจากเมืองไทย ที่เราขับรถพวงมาลัยขวา
เมื่อพูดถึงเรื่องรถยนต์ก็อยากจะบอกท่านว่า คนลาว แม้นว่าจะใช้รถมือสอง แต่คนลาวก็มีความเชื่อว่า รถยนต์ หรือ เรือ จะมีแม่ย่านางอยู่ประจำรถเสมอ คนขับ เมื่อจะขับรถออกไปรับผู้โดยสาร เขาจะจุดธูป บูชา เพื่อบอกกล่าวเทพารักษ์ หรือแม่ย่านาง ประจำรถ เพื่อให้เกิดความคุ้มครอง ไม่ให้รถเกิดอุบัติเหตุและให้ไปดีมาดี
ผมยังเดินวนเวียนดูรถ และเก็บภาพไปเรื่อยๆ ก็มาจ๊ะเอ๋กับ สาวลาวเชื้อสายเวียดนาม ที่กำลังกุลีกุจอ ทำความสะอาดเล็บอยู่ ข้างรถ ผมจึงหยุดยืนดู ก็ได้รู้ว่า ที่เมืองสะหวันนะเขต ประเทศลาวแห่งนี้ มีการทำเล็บ แบบถึงตัวคน ไม่ต้องไปเปิดร้าน ให้ต้องเสียค่าเช่า เจอใครที่ไหนสาวลาวเชื้อสายเวียดนามเหล่านี้ก็จะเดินตาม ถามหาลูกค้า ที่ท่ารถ ว่าสนใจที่จะทำเล็บไหม ซึ่งการทำเล็บก็เหมือนบ้านเรานี่แหล่ะครับ เท่าที่ผมเห็นแว๊บหนึ่ง ตอนแรก เขาจะตกลงราคาก่อน ค่าทำเล็บก็ประมาณ 40 บาท คิดเป็นเงินลาว ประมาณ 9,840 กีบ เริ่มตั้งแต่ การใช้แอลกอฮอล์ ทำความสะอาดเล็บ การแช่เท้าในน้ำเพื่อทำความสะอาด และการทาสีเล็บให้ใหม่ ใครจะใช้สีอะไรก็เลือกสีทาเล็บได้ตามใจชอบ เออ...ก็น่าสนใจดี นะครับ ผมว่าน้องเขารายได้ดีแน่ ๆ ครับ การให้บริการแบบนี้ก็เป็นการความสะดวกกับลูกค้าที่นาน ๆ ที่จะได้เข้ามาในเมือง ซักที น้อง ๆ เหล่านี้ ก็ชวนผมเหมือนกันนะครับ เขาเห็นผมเป็นผู้ชายก็เลยชวนผมนวด แต่ผมก็ไม่ได้ถามว่าจะนวดอย่างไร เดี๋ยวจะยาว ขืนคุยมาก ก็อาจจะได้นวดจริง แต่ผมก็ถามว่าค่านวดเท่าไหร่ ก็ได้รับคำตอบว่า 20 บาท และผมเข้าใจว่า คงจะนั่งเก้าอี้บีบนวดพอให้หายปวดเมื่อยเท่านั้นเอง ย้อนไปในอดีตสมัยที่ผมยังเป็นเด็กเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ทางภาคอีสานก็จะมี การไปตัดผมผู้ชายถึงบ้าน คิดหัวละ 5 บาท ช่างตัดผมสมัยนั้น เขาจะมี เก้าอี้นั่งที่พับได้ สามารถแบกเดินไปตามหมู่บ้าน ส่วนปัดตาเลี่ยน ก็จะเป็นปัดตาเลี่ยนที่ใช้แรงมือตัด เพราะตอนนั้นยังไม่มีไฟฟ้า และยังไม่มีปัดตาเลี่ยนที่ใช้ไฟฟ้า มาขาย และผมจำได้ว่า ผมอยู่ชั้น ป.4-5 พึ่งใช้ปัดตาเลี่ยนไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ตัดตอนนั้น แหม๋เสียวหัว อ้อ... เสียวศีรษะครับ เพราะเครื่องมันสั่น สะเทือนไปทั่ว แต่พอโตขึ้นมาก็รู้สึกชาชิน ครับ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * |