มีการปราบปรามประชาชนครั้งล่าสุดที่เมืองพะโค ซึ่งอยู่ไกลจากนครย่างกุ้งทางตะวันออกเฉียงเหนือหลายสิบกิโลเมตร เพิ่งเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่10 เม.ย.64 ทางสำนักข่าวเอเอฟพีได้รับคำบอกเล่าจากชาวบ้านหลายคนด้วยว่ากองทัพยังใช้ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องซึ่งบังคับให้พวกเขาต้องหนีไปอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ
รอยเตอร์อ้างผู้เห็นเหตุการณ์และสื่อเมียนมา หลายแห่งว่า กองกำลังความมั่นคงยิงระเบิดปืนไรเฟิลใส่ผู้ประท้วงที่เมืองพะโค แต่ไม่สามารถสรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างชัดเจนได้ เพราะกองกำลังความมั่นคงนำศพมากองรวมกันที่เจดีย์เซยามุนีแล้วปิดล้อมพื้นที่
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) และสื่อออนไลน์ เมียนมานาว ยืนยันเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 10 เม.ย.2564 ว่า กองกำลังความมั่นคงฆ่าผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหาร 82 คนในเมืองพะโคเมื่อวันศุกร์ที่ 9 เม.ย.64 เมียนมานาว รายงาน ว่า การยิงเริ่มก่อนรุ่งเช้าวันศุกร์ที่ 9 เม.ย.64 และยืดเยื้อ ถึงช่วงบ่าย ผู้จัดการชุมนุมชื่อ เย ทุ ว่าเหมือนกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พวกนั้นยิงใส่เงาทุกเงา
มีวิดีโอที่เอเอฟพี พิสูจน์แล้วว่าเป็นของจริง ถ่ายไว้เมื่อเช้าตรู่วันศุกร์ที่ 9 เม.ย.64 เผยภาพที่ผู้ประท้วงหลายคนหลบอยู่หลังแนวกระสอบทรายพร้อมอาวุธปืนไรเฟิลประดิษฐ์เอง มีเสียงระเบิดดังหลายครั้ง
รายงานของหนังสือพิมพ์นิวไลต์ออฟเมียนมา ซึ่งเป็นสื่อทางการของเมียนมา รายงานเมื่อวันเสาร์ที่10เม.ย.64 ว่า เจ้าหน้าที่ปราบปราม "พวกก่อจลาจล" มีคนตายแค่ 1 คน
สำนักงานองค์การสหประชาชาติในเมียนมา ทวีตเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10เม.ย.64 ว่า กำลังติดตามเหตุการณ์นองเลือดที่พะโค ที่ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกปฏิเสธการรักษา "เราเรียกร้องให้กองกำลังความมั่นคงอนุญาตให้ทีมแพทย์เข้าไปรักษาผู้บาดเจ็บ"
ก่อนหน้าการนองเลือดที่พะโค เอเอพีพีระบุในวันศุกร์ที่ 9 เม.ย.64 ว่า มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 618 คนนับแต่รัฐประหาร 1 กุมภาพันธ์ 2564 แต่คำแถลงของโฆษกรัฐบาลทหารเมื่อวันศุกร์ที่ 9 เม.ย.64 อ้างว่ามีคนเสียชีวิตเพียง 248 คนเท่านั้น
มีรายงานเหตุการณ์ไม่สงบที่เมืองทาทูในภาคตะวันตกเฉียงเหนือใกล้ชายแดนอินเดียเมื่อวันเสาร์ที่ 10 เม.ย.64 เมื่อผู้ประท้วงต่อสู้กลับ ภายหลังทหารพยายามทำลายแนวกั้นเพื่อปกป้องชุมชน ชาวบ้านกล่าวว่า มีพลเรือนตาย 2 คนเมื่อทหารยิงสุ่มไม่เลือก ผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยการปาระเบิด ทำให้รถบรรทุกทหารคันหนึ่งพลิกคว่ำ มีทหารเสียชีวิตมากกว่า 12 นาย
การนองเลือดเพิ่มมากขึ้นทำให้กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์หลายกลุ่มจับมือกันต่อต้านกองทัพเมียนมา ที่รัฐชานทางเหนือเมื่อวันเสาร์ที่ 10 เม.ย.64 เกิดเหตุไม่สงบขึ้นอีก เมื่อกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (ทีเอ็นแอลเอ) โจมตีโรงพักช่วงเช้ามืด สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีตำรวจโดนฆ่าตายมากกว่า 12 นาย ทีเอ็นแอลเอกล่าวว่า กองทัพเอาคืนด้วยการโจมตีทางอากาศ มีทหารกบฏตาย 1
โทรทัศน์ของทางการเมียนมา รายงานข่าวนี้ช่วงค่ำว่า "กลุ่มติดอาวุธก่อการร้าย" โจมตีสถานีตำรวจด้วยอาวุธหนักแล้วจุดไฟเผา
วันเดียวกันนั้น กองทัพอาระกัน (เอเอ) พันธมิตรของทีเอ็นแอลดี ในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตก ออกแถลงการณ์ย้ำว่าเอเอสนับสนุนขบวนการต่อต้านรัฐประหาร
กองกำลังชาติพันธุ์อีก 2 กลุ่มได้แก่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) และกองทัพอิสรภาพกะฉิ่น (เคไอเอ) ก็โจมตีทหารและตำรวจเมียนมาเพิ่มขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ และโดนกองทัพตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศดินแดนของเคเอ็นยูในรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเคเอ็นยูกล่าวว่าทำให้ชาวบ้านไร้ที่อยู่แล้วมากกว่า 24,000 คนถึงวันเสาร์
เมื่อวันศุกร์ที่9 เม.ย.64 จอ โม ทุน เอกอัครราชทูตผู้แทนเมียนมาประจำยูเอ็น กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นว่า จำเป็นต้องมีการดำเนินการอย่างเข้มแข็งร่วมกันโดยทันที เขาเสนอให้กำหนดเขตห้ามบิน, ปิดกั้นการค้าอาวุธ และคว่ำบาตรอย่างเจาะจงเป้าหมายกับสมาชิกในครอบครัวของพวกทหาร
ริชาร์ด ฮอร์ซีย์ นักวิเคราะห์อิสระจากอินเตอร์เนชันแนลไครซิสกรุ๊ป กล่าวต่อคณะมนตรีฯ ด้วยว่า เมียนมากำลังจวนเจียนจะเป็นรัฐล้มเหลว "การดำเนินการ (ของรัฐบาลทหาร) อาจสร้างสถานการณ์ที่ประเทศนี้ไม่สามารถปกครองได้"
Referencs
รอยเตอร์
เอเอฟฟี