|
ชีวิตนักข่าว...คัดผู้ประกาศ PRDTV NEWS
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
29 กันยายน 2553
สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม PRDTV NEWS เป็นช่องข่าวที่เริ่มต้นออกอากาศเที่ยงวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ก็ต้องบอกว่า เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกของ กรมประชาสัมพันธ์ที่จะแพร่ภาพออกอากาศ ในระบบโทรทัศน์ดาวเทียมเต็มรูปแบบ ทั้งในเรื่องของเนื้อหาด้านรายการที่จะต้องใหม่ โทนสีหน้าจอ โลโก้ ฉากอ่านข่าว และที่สำคัญคือ ผู้ประกาศ ที่จะเป็นผู้นำเสนอข่าว PRDTV NEWS มีวิธีคัดอย่างไร ตามผมมาครับ
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ช่องข่าวที่จะมีการนำเสนอ แบ่งเป็น 3 ช่วง คือช่วงเช้าเวลา 06.00 09.00 น. ช่วงเที่ยง เวลา 12.00-13.00 น. และเวลา 18.00-20.00 น. ที่เห็นคือความแตกต่างของเวลา สิ่งที่ตามมาคือ กลุ่มผู้ชมเป้าหมาย ที่แตกต่างกัน
กลุ่มผู้ฟังตอนเช้า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนสูงอายุ หรือคนที่อยู่ในวัยทำงาน ทั้งชาวบ้านที่อยู่ตามท้องไร่ท้องนา หรือคนเมืองที่จะออกไปทำงาน ซึ่งคนกลุ่มนี้ จะตื่นแต่เช้า ผู้ประกาศข่าวที่จะนำเสนอรายการ จะต้องเป็นมีประสบการณ์ และควรเป็นคนที่อยู่ในวัยกลางคน ผมจึงมองว่าผู้ที่เหมาะสมที่มาอ่านข่าว อันดับแรกจะต้องเคยผ่านงานการจัดรายการวิทยุมาก่อน จึงจะทำงานได้ดี เพราะการนำเสนอรายการทางวิทยุ จะเน้นไปที่การจัดรายการในเชิงการอ่านแบบพูด พูดแบบคุย ดังนั้นเมื่อเราจับเอานักจัดรายการวิทยุมาอ่านข่าวเราจะได้การอ่านข่าวแบบกันเอง สบาย ๆ ไม่เคร่งเครียด พอสายมาหน่อย ก็ให้ผู้ประกาศที่อยู่ในวัยทำงาน ออกในแนวคล่องแคล่ว พูดง่าย ๆให้เข้าใจคือ เป็นคนหนุ่มสาว มีมาดแห่งความเชื่อถือ ส่วนผู้อ่านข่าวเที่ยง ก็จะมีบุคลิกที่สดชื่น มั่นใจ ในการนำเสนอข่าว ส่วนข่าวเย็น ผู้ประกาศข่าว จะต้องอยู่ในวัยใส ๆ มาดมั่น เพราะผมมีความเชื่อว่า ผู้ชมส่วนใหญ่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานแล้ว กลับมาบ้านก็อยากจะเห็นผู้ประกาศข่าวที่อยู่ในวัยสดใส ดูแล้วสดชื่น ไม่ห่อเหี่ยว เพราะข่าวที่นำเสนอส่วนใหญ่ก็จะ เคร่งเครียด เมื่อมาดูผู้ประกาศที่ไม่สดใสแถมอ่านข่าวแบบอ่านหนังสือให้ยายฟัง แบบนี้ผู้ชมคงหมุนคลื่นหนี ดังนั้นการคัดเลือกผู้ประกาศจึงมีความจำเป็น อย่างมาก ที่จะทำให้ผู้ชมติดตามเรา สถานีเรา
เมื่อเราได้ผู้ประกาศอ่าวข่าวเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การอ่านข่าว หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ลีลาการนำเสนอ แล้วตรงนี้ผมจะทำอย่างไร ต้องบอกว่าไม่ยากครับ อันดับแรก ผมกำหนดว่า การอ่านข่าวไม่ใช่อ่านแบบเอาเป็นเอาตาย ความหมายของคำนี้คือ เอาข่าวมาอ่าน ตามตัวอักษรที่ปรากฏบนตัวหนังสือ การอ่านชนิดที่คร่ำเคร่ง ขาดลีลาการอ่าน ลักษณะการอ่านแบบนี้ จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกอึดอัด ฟังแล้วรู้สึกเครียด แต่ถ้าเราอ่านแบบที่ชาวบ้านเรียกว่า กระแดะ หรือทางภาคใต้เรียกว่า อ้อล้อ แต่ทำพอประมาณมิใช่อ่านแบบเล่นละครแบบนี้ ก็จะทำให้ดูน่าฟัง มีลีลา ถ้าให้ผู้ประกาศอ่านสองคน จะทำอย่างไร ผมจะผู้ประกาศ 2 คน อ่านข่าวเดียวกัน โดยแบ่งให้อ่านคนละย่อหน้า หรือตามที่ ผู้ประกาศทั้งสองจะตกลงกัน ทำไมผมจึงทำแบบนี้ สิ่งที่ได้คือ ความหลากหลายของเสียงอ่านข่าว จะทำให้คนฟังไม่เบื่อ อันที่สองคือ ผู้อ่านข่าวไม่เหนื่อย เพราะอย่างน้อยจะต้องอ่านข่าวถึง 2 ชั่วโมง ทำให้ผู้ประกาศมีเวลาพักได้นานกว่า นอกจากนี้ยังมีเวลาดูข่าวในมอนิเตอร์ ว่ามีภาพอย่างไรปรากฏอยู่บนจอมอนิเตอร์ เพราะเนื้อหาข่าวบางที่ไม่ตรงกับภาพ ผู้ประกาศสามารถพูดเสริมในเนื้อหาได้ อาทิ ผู้ประกาศคนที่หนึ่งอ่านข่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงาน แต่ภาพในช่วงที่อ่าน ไม่ตรงกับภาพที่ปรากฏ เมื่อถึงผู้ประกาศคนที่สองอ่านข่าว ในย่อหน้าที่สอง ก็สามารถพูดเสริมในข่าวได้ว่า ภาพที่ปรากฏคือผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นี่คือข้อดี ของการอ่านข่าวในลักษณะการเล่าข่าว ที่ยังอยู่ในเนื้อหาของข่าว หรือตามสคลิปข่าว
ทีนี้ก็มาถึง ฉากอ่านข่าว ก็จะต้องให้เป็นโทนสีที่กำหนด ตามช่องที่เรากำหนด ในที่นี้ ช่อง PRDTV NEWS มีโทนสีเขียวมะนาวตามที่กำหนด ฉากอ่านข่าวก็ต้องเป็นสีเขียวมะนาวเช่นกัน
ส่วนหน้าจอที่เป็น ชื่อผู้ประกาศข่าว ก็จะเป็นโทนสีเขียวมะนาวเช่นกัน
888888888888888888888888 | 
หน้าแรก
สถิติวันนี้ 
สถิติเดือนนี้ 
สถิติปีนี้ 
