|
เฮฮาประสานักข่าว...ปาท่องโก๋ คือ ตัวชี้วัด
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
๙ ธันวาคม ๒๕๕๕
เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น กินคำเดียวอิ่ม ก็ปาท่องโก๋ไง ชาวจีนเรียกว่า เจี๊ยะโก้ย เมื่อ สิบปีที่แล้ว ผมเคยไปเมืองปีนัง เช้า ๆ ก็ออกเดินตลาดปีนัง อยากจะเห็นวิถีชีวิต ของชาวปีนังยามเช้า ซึ่งก็ได้เห็น วิถีชีวิตก็ไม่ต่างจากคนไทยซักเท่าไหร่ ตื่นเช้าดื่มกาแฟ ดื่มน้ำเต้าหู้ ทานปาท่องโก๋ แล้วก็ไปทำงาน เป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่เอะใจก็คือ ปาท่องโก๋ชิ้นใหญ่มาก ทานอันเดียวก็อิ่ม
และแล้วผมก็มาอยู่ที่เมืองสงขลา เจอะเจอร้านปาท่องโก๋ ตั้งขายอยู่หน้าวัดเพชรมงคล ถนนวชิรา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เห็นแล้วผมก็ตรงรี่ เข้าไปสนทนา
คุณจำรัส ศรีม่าน พร้อมคุณพร ศรีภรรยา แหลงให้ฟังตามสำเนียงปักษ์ใต้ ว่า เมื่อก่อน ทำงานอยู่แพปลา ต่อมาปี ๒๕๓๒ เปลี่ยนอาชีพมาขาย ปาท่องโก๋ ขายตั้งแต่ถนนตรงนี้ ยังไม่ลาดยาง คนก็ไม่ค่อยมี ตอนแรกก็ขายตัวเล็ก เหมือนชาวบ้านเขา ตอนนั้นจำได้ว่าขายตัวละ สลึง ก็พออยู่ได้
จำรัส พูดไป ศรีภรรยา คนสวย ก็จับปาท่องโก๋ ขายให้กับคนที่มาซื้อ แล้วก็พูดต่อไปว่า รู้ไหม ปฏิวัติทุกที ขายปาท่องโก๋ ไม่ดีเลย ผมเริ่มหูผึ่ง นี่แค่เป็นคนขายปาท่องโก๋ เหตุไฉน ถึงเข้าใจเรื่องราวแบบนี้ เออ...เข้าท่าแฮะ ผมเริ่มซักต่อ
แล้ว ทำไมถึงรู้เรื่องนี้ คร๊าบ
ก็ผมขายปาท่องโก๋มาตั้งแต่ พลเอกชาติชาย ขายปาท่องโก๋ ดีมาก เพราะน้าชาติเปลี่ยนสนามรบไปเป็นสนามก่รค้า พอมีคนมาปฏิวัติ การค้าขายไม่ดีเลย จำรัสพูดไป นึกถึงอดีต ที่เพิ่งผ่านมาราวกับไม่นาน แล้วยังบอกอีกว่า
เศรษฐกิจยุคน้าชาติ ตอนนั้นผมว่าดีมาก การค้าขายดี คนมีกำลังซื้อ มือของจำรัส ก็สารวนกับการเก็บร้าน เพราะขายใกล้จะหมดแล้ว
ยุคต่อมา ก็...ก็ เออ...เป็นยุค บรรหาญ ก็ดีกว่ายุคปฏิวัติ การค้าขายเริ่มดีขึ้น น้ำมันปาล์มที่ใช้ทอดป่าท่องโก๋ เริ่มถูกลง จำรัสพยายามทบทวน ความทรงจำ ที่ยังเหลืออยู่
แต่ก็อยู่ไม่นาน จึงมาถึงสมัย นายชวน เป็นรัฐบาล น้ำมันเริ่มแพงอีก นี่ผมเป็นคนใต้นะ ที่พูดไม่ได้ไม่ชอบ ประชาธิปัตย์ พูดตามสิ่งที่ เห็น และก็เจอมา
จำรัส พยายามที่จะชี้แจงว่า ไม่ได้เกลียด ประชาธิปัตย์ แต่เขาพูดตามที่เขาประสบมา จึงสามารถเปรียบเทียบได้ พอยุคนายชวน ลงจากอำนาจ เพราะพิษ สปก.4-01 ก็ เป็นยุคของบิ๊กจิ๋ว
ถามผมว่า เศรษฐกิจ ดีขึ้นไหม
จำรัส บอกว่า ก็ดีขึ้น น้ำมันปาล์มที่ใช้ทอดปาท่องโก๋ ก็ถูกลง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พอ ประชาธิปัตย์ ขึ้นบริหารประเทศ ทำไมน้ำมันปาล์ม มันจึงมีราคาสูงขึ้น
จำรัส พยายามนึกหาเหตุผล แต่ก็นึกไม่ออก
นี่รู้ไหมคุณ ผมจำได้นะว่า พอสมัยบิ๊กจิ๋ว ของก็ถูกลงอีก ที่นี้พอสมัย ทักษิณเป็นรัฐบาล ทุกอย่างก็กลับมาดีอีก
จำรัส สาธยาย ได้อย่างแม่นยำ เพราะตัวเขาเอง ยืดทอดปาท่องโก๋ ที่แถววชิรา สงขลา มาตั้งแต่ปี ๒๕๓๒ ปีนี้ ก็ประมาณ ๒๓ ปี แล้ว เขาจึงเปรียบเทียบสภาวะเศรษฐกิจ ได้ราวกับนักเศรษฐศาสตร์ มือหนึ่งของเมืองไทย นี่ถ้าจบสูงกว่านี้ อาจจะได้เป็นรัฐมนตรีแล้วก็ได้
ที่นี้พอ ทักษิณ โดนปฏิวัติ เสร็จโก๋เลย ของกลับมาแพงอีก ยิ่งตอนที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เข้ามา น้ำมันปาล์ม ขวดเท่าแขน นี่ ราคา ตั้ง ๑๕๐ บาท แพงจนทอดปาท่องโก๋ไม่ได้ ขายอันสี่บาทก็ยังขาดทุน แต่ก็ต้องทำ
ผมเห็นภาพของความแพง ที่คุณจำรัสพูดถึง ว่าน้ำมันขวดเท่าแขน ไม่ใช่เท่าไข่นะ ก็ประมาณ ๑ ลิตร ราคาตั้ง ๑๕๐ บาท ก็ต้องบอกว่า แพงจริง ๆ จนมีการประท้วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งผมก็พอจะทราบอยู่ว่า นายทุนของรัฐบาล เป็นเจ้าของธุรกิจ ปาล์มน้ำมัน แถว ๆ กระบี่ และสุราษฎร์ พูดแค่นี้ ก็คงรู้นะครับว่าเป็นของใคร
จำรัส พูดต่อ ราวกับเป็นนักเศรษฐศาสตร์มหภาค ว่า
พอมาสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ น้ำมันปาล์ม ขวดเท่าแขน เหลือขวดละ ๒๕ บาท ผมว่าถูกที่สุด นะ เท่าที่เคยขายปาท่องโก๋มานาน
ต้องบอกก่อนนะ ผมพูดตามข้อมูลที่ผมเจอมา แพงก็ว่าแพง ถูกก็ว่าถูก ไม่ได้ชอบใครหรือรักรัฐบาลไหน เพราะผมเองก็เป็นคนใต้ ขอพูดโกรง ๆ (พูดตรง ๆ )
จำรัสเป็นเพียงคนทอดปาท่องโก๋ขาย แต่เขามีความคิด ที่เก็บข้อมูล มาเป็นฐานด้านเศรษฐกิจ ที่เขาขายปาท่องโก๋ และคิดตลอดเวลา เท่าที่มีลมหายใจอยู่ รัฐบาลไหนดี รัฐบาลไหนเลว แต่บทสรุปของจำรัส คือ การปฏิวัติ ไม่ได้ดีต่อการค้าขาย แม้แต่น้อย เพราะมันกระทบโดยตรง แต่ถ้าเราเป็นข้าราชการ ที่มีเงินเดือนประจำ คงไม่ สะเทือนซาง เท่าไหร่ แต่จำรัสโดนเต็ม ๆ เพราะขายปาท่องโก๋ไม่ได้ ....เออ..ถ้าอย่างนั้นก็อย่าปฏิวัติ นะ เจ้านาย...เพราะจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ จากดัชนี ปาท่องโก๋ ไม่ไช่ มูดดี้ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส นะครับ...แฮ่
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
| 
หน้าแรก
สถิติวันนี้ 
สถิติเดือนนี้ 
สถิติปีนี้ 
