สถิติวันนี้ |
2 คน |
สถิติเมื่อวาน |
45 คน |
สถิติเดือนนี้ สถิติปีนี้ สถิติทั้งหมด |
2528 คน 52315 คน 1744759 คน |
เริ่มเมื่อ 2010-01-13 | |
| | #จุดจบโรงงานถลุงแร่แทนทาลัมEP2 โดย ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
ปัจจัยแรกที่ผมได้พูดถึง..ในตอนที่แล้วคือ..ปัจจัยกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม..ที่ทำให้คนภูเก็ตตื่นตัว..
ปัจจัยที่สองที่ผม..จะพูดถึงคือการเมือง..ที่เกาะกระแสอนุรักษ์..เพราะมีแนวคิดเดียวกัน..และไม่ต้องการให้เปิด..โรงงานแทนทาลัม..
วันที่ 1 พฤษภาคม 2529 พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี..ตราพระราชกฤษฎีกายุบสภา..เนื่องจากรัฐบาลมีความขัดแย้งกับ..สภาผู้แทนราษฎร..เกี่ยวกับการตราพระราชกำหนด..แก้ไขเพิ่มเติม..พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พุทธศักราช 2522
จึงกำหนดให้..วันที่ 27 กรกฎาคม 2529..เป็นวันเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป..ทั้งประเทศ..
เวลานั้น..นายจรูญ เสรีถวัลย์..ส.ส.ภูเก็ต 2 สมัย..สังกัดพรรคประชาธิปัตย์..ที่ชาวภูเก็ตรู้จักกันดี..ในนามว่า..โก้โฉ่ง..ซึ่งเป็น ส.ส.เพียงคนเดียวของภูเก็ต..อยู่ในช่วงหัวเลี้ยว..หัวต่อ..ของภูเก็ต..ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจาก..การทำเหมืองแร่ดีบุก..สู่..การท่องเที่ยว..
นายจรูญ เสรีถวัลย์ หรือโก้โฉ่ง..เป็นชาวภูเก็ตโดยกำเนิด..บิดาชื่อ..แป๊ะสุข เสรีถวัลย์..มีร้านขายข้าวหมูแดงหมูกรอบ..ที่ถนนเยาวราช..ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามโรงหนังเฉลิมตัน..(ทั้งร้านขายข้าวฯ.และโรงหนังเลิกกิจการไปนานแล้ว..)ด้านการศึกษาโก้โฉ่ง..จบนิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง..สถานภาพโสด..และเขา..ได้เสียชีวิต..เมื่อ 10 ปีที่แล้ว..ด้วยโรคเบาหวาน
บทบาทของ..โก้โฉ่ง..ในสายตาของ.คนภูเก็ต..ในระยะหลัง..ไม่ค่อยต้องตา..ต้องใจ..คนภูเก็ตเท่าไหร่นัก..อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่มาแล้ว 2 สมัยก็เป็นได้..และบางคนอาจจะมองเลยเถิด..ไปว่า..ทำไม..ก่อนหน้านั้นโก้โฉ่ง..ถึงไม่คัดค้าน..การก่อสร้าง..โรงงานถลุงแร่แทนทาลัม..ทั้ง ๆ..ที่ความจริง..ก็ไม่ใช่ความผิดของ..โก้โฉ่ง..เลยแม้นแต่น้อย..
เมื่อมีการเลือกตั้ง.ส.ส.จึงมี..ผู้สมัครหน้าใหม่..ลงสมัครรับเลือกตั้ง..หลายคน..มีทั้งคนที่มีชื่อเสียง..และไม่มีชื่อเสียง..
ในจำนวนนี้..มีนายบันลือ ตันติวิท..สังกัดพรรคราษฎร..อดีตประธานสภาจังหวัดภูเก็ต..และเป็นเจ้าของ..ธุรกิจหลายอย่าง..ทั้งเหมืองแร่ดีบุก..โรงแรม..ที่ดิน..และอสังหาริมทรัพย์..ทั่วทั้งเกาะภูเก็ต
นายบันลือ..เป็นที่รักของชาวบ้าน..เขาเป็นผู้หนึ่ง..ที่ให้การสนับสนุน..กิจการศาลเจ้ากินเจกะทู้..และเป็นกำลังสำคัญ..ในการก่อสร้าง..ศาลเจ้ากินเจท่าเรือหลังใหม่..ที่สวยสง่างาม..เป็นที่เชิดชูของชาวภูเก็ต..แทนศาลเจ้าหลังเก่า..ที่มุงสังกะสี..
นายบันลือ..ยังให้การสนับสนุนเงินทุนสร้างโรงเรียนหลายแห่งในภูเก็ต..เพราะนายบันลือ..เป็นคนภูเก็ตดั้งเดิม..เขาเรียนจบ..ชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านกะทู้..
จากการ..ที่ครอบครัวนายบันลือ..ค่อนข้างมีฐานะจึงได้ส่ง..นายบันลือ..ไปเรียนที่โรงเรียนจงเหล็งไฮ สกูล ปีนัง มาเลเซีย..จากนั้นจึงย้าย..ไปเรียนต่อที่..มหาวิทยาลัยจอร์เจีย อินสตีติวส์ออฟ เทคโนโลยี่..สหรัฐอเมริกา..จนจบปริญญาตรี..สาขาวิศวกรรมเครื่องกล..เขาจึงกลับมาภูเก็ต..เพื่อช่วยงานในกิจการของครอบครัว..
นายบันลือ..เป็นที่รักของชาวบ้าน..และมักจะเรียกชื่อ..นายบันลือว่า..จู้หุ้ย..(แปลว่า..แสงสว่าง)..ซึ่งเป็นชื่อเล่น..ที่คนสนิทชอบเรียกกัน..แต่บางครั้งก็เรียกว่า..นายหัว..เพราะนายบันลือ..มีฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐี..(เกิด 15 พฤษภาคม 2474 เสียชีวิต วันที่ 30ตุลาคม 2544..ด้วยวัย..70ปี)..
คุณสมบัติของ..นายบันลือ..ครบถ้วนสมบูรณ์..เหมาะสมทุกอย่าง..แต่นายบันลือ..ก็ไม่ได้เป็น..ผู้แทนราษฎรของชาวภูเก็ต..เพราะอะไร..ตามผมมาครับ
ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต..อีกคนที่จะต้องพูดถึง..และต่อมา..เขา..คือ..ส.ส.ภูเก็ต..3.สมัย..ที่หลายคนยังจดจำ..ในความโดดเด่น..บนเส้นทางสู่การเมือง..ของเขา..ที่คนทั่วไปแทบไม่รู้จัก..แต่เขาก็ได้เป็น.ส.ส.จากเหตุการณ์แทนทาลัม..ในชั่วพริบตา..
เขาคนนั้นคือ นายเรวุฒิ จินดาพล..ส.ส.ภูเก็ต..3 สมัย..ที่มีเส้นทางการเป็น ส.ส.ที่ไม่ธรรมดา..
นายเรวุฒิ จินดาพล เกิดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2501..เขาเสียชีวิตก่อนเกิดสึนามิเพียง 1 วัน คือ วันที่ 25 ธันวาคม 2547..ด้วยวัย 46 ปี..สาเหตุจากหัวใจล้มเหลว..ถ้าหาก..นายเรวุฒิ..ไม่เสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร..ผมว่า..ในยุคโควิด-19 ที่กำลังระบาด..อยู่ในขณะนี้..(ปี 2563)..คงได้สนุกอย่างแน่นอน..
เส้นทาง..ของนายเรวุฒิ..ก่อนเป็น..ส.ส..เขาเป็นบุตรคนที่ 5 ของ นายอรัญ จินดาพล..กับ..นางเบญญา จินดาพล (สกุลเดิม อุปัติศฤงค์)..จบการศึกษา..ชั้น.ปวช.จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต..ต่อมาในระหว่างเป็น ส.ส.เขาได้เข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรี..ในมหาวิทยาลัย..หลายแห่ง
ฐานะทางบ้านของนายเรวุฒิ..ไม่ธรรมดา..คุณพ่ออรัญ..มีที่ดินปลูกยางพารา..ในพื้นที่..จังหวัดพังงา..และจังหวัดภูเก็ต..หลายพันไร่..และคุณพ่อ..ยังเป็น.สมาชิกสภาจังหวัดภูเก็ต..หลายสมัย..
ในขณะที่..คุณแม่..ของนายเรวุฒิ..ก็เป็น..ลูกสาวนายหัว..ในตระกูลอุปัติศฤงค์..เจ้าของเหมืองแร่ดีบุก..และสวนยางพารา..หลายแห่งในภูเก็ต..
ภาพลักษณ์ของ..นายเรวุฒิ..ในสมัยเป็นวัยรุ่น..จึงถูกมองว่า..เป็นลูกนายหัวภูเก็ต..ไม่สนใจการเรียน..ชอบเที่ยวตามประสาวัยรุ่น..เข้าลักษณะ..เป็นคนใจถึง..พึงพาได้..ใครมีเรื่องที่ไหน..นายเรวุฒิ..มักจะปรากฏตัวที่นั่นเสมอ..เขาจึงเป็นที่รัก..ของเพื่อนฝูง..และมีเพื่อนเที่ยว..เป็นจำนวนมาก..
งานที่เขาทำ..ส่วนใหญ่..จึงช่วยคุณพ่อทำสวนยาง..ที่มีอยู่หลายพันไร่..แน่นอน..เขาจึงเป็นคนคุมคนงานกรีดยาง..ที่มารับจ้างกรีดยาง..จากทุกภาคของประเทศไทย..หลายร้อยคน..ความเด็ดเดี่ยวของนายเรวุฒิ..จึงมีบุคลิก..ที่ควบคุมคนงานในสวนยางได้..เป็นอย่างดี..
พลัน..เมื่อมี..เสียงปี่..เสียงกลอง..การเมือง..รัว..เร็ว..แรง..เลือดของนักสู้..ได้ฉีดพุ่งไปทั่วร่าง..ของนายเรวุฒิ..ในบัดดล..
นายเรวุฒิ..ตัดสินใจลงสมัคร..ส.ส.ภูเก็ต..ในนามพรรคพลังใหม่..ที่มี..นายแพทย์กระแส..ชนะวงศ์..เป็นหัวหน้าพรรค..ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่..และขนาดเล็ก..
ทันที..ที่..นายเรวุฒิ..จินดาพล..ประกาศลงสมัคร ส.ส...ในตอนแรก ๆ คุณพ่อ..คือนายอรัญ..ประกาศทันที..เหมือนกันว่า..จะไม่ให้การสนับสนุน..ลูกชาย..
อาจจะเป็นเพราะว่า..นายเรวุฒิ..ยังไม่เคย..ลงการเมืองมาก่อน..สังคมภูเก็ตในเวลานั้น..รู้จักนายเรวุฒิ..ในทางที่มีเพื่อนกิน..เพื่อนเที่ยว..หากลงสมัคร.ส.ส.แล้วใครจะมาเลือก
แต่นายเรวุฒิ..ไม่เป็นตามที่..คุณพ่ออรัญ..คาดหมาย..เอาไว้..แม้นว่าทางบ้านไม่สนับสนุน..เขาก็จะหาเสียง..ชนิดที่ว่า..ลูกผู้ชาย..คำไหน..คำนั้น
ผมจำได้ว่า..ป้ายหาเสียงแผ่นแรกของนายเรวุฒิ..เป็นป้าย..สีดำ..เขียนด้วยช๊อคสีขาว..ขนาดประมาณ 1×1เมตร..ติดตั้งบนเสาไม้ต้นยูคาเล็กๆ..บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีท้าวศรีสุนทร..ด้านฝั่งป้อมตำรวจ..ขาเข้าเมืองภูเก็ต..
ป้ายที่ใช้หาเสียงตอนนั้น..ต้นทุนต่ำมาก..เพราะทางบ้านยังไม่ให้การ..สนับสนุนอย่างเต็มที่
ข้อความบนป้าย..เขียนคัดค้านการเปิด..โรงงานถลุงแร่แทนทาลัม..พร้อมชื่อ..นายเรวุฒิ..และ..หมายเลข..ผู้สมัคร..ซึ่งเป็นป้ายหาเสียง..โดดเด่น..ไม่เหมือนใคร..
นายเรวุฒิ..เริ่มหาเสียง..ลงพื้นที่กับนายรณชัย ที่เป็นทั้งน้องชาย..และเป็นเพื่อน..ร่วมทุกข์..ร่วมสุข..ร่วมเสพ..ร่วมกิน..ร่วมเที่ยว..กันมาโดยตลอด..
เวลานั้น..คะแนนเสียง..ของนายเรวุฒิ..แทบจะเป็นศูนย์..ทั้งนักข่าว..และชาวบ้าน..ก็ไม่รู้จัก..หรือจะให้ความสนใจ..ไปสัมภาษณ์..เพื่อลงข่าวแม้นแต่น้อย..ผิดกับ..โก้โฉ่ง..และ..จู้หุ้ย..เพราะทั้งสอง..เป็นที่รู้จักของ..คนภูเก็ต..และนักข่าว..อยู่แล้ว
ส่วนนายเรวุฒิ จินดาพล..เวลานั้น..ต้องเรียกว่า..โนเนม..ไร้คนรู้จัก..ก็ว่าได้..ยกเว้นขาประจำ..
การเมือง..นับว่า..เป็นปัจจัย..และตัวแปลสำคัญ..ที่ทำให้โรงงานถลุงแร่แทนทาลัม..ต้องพบกับจุดจบ..
การหาเสียงเริ่มร้อนแรง..ต่างฝ่ายต่างชูประเด็น..การปิดโรงงานถลุงแร่แทนทาลัม..ตอนที่ 3..ที่ผมจะเล่า..มาดูว่า..ผู้สมัคร ส.ส.แต่ละคน..จะมีวิธีการ..หาเสียง..แตกต่างกันอย่างไร..โปรดติดตาม..ในตอนที่ 3 ครับ
Reference | |