www.narongthai.com  

www.narongthai.com เป็นเว็บไซต์เชิงวิชาการ ที่สามารถนำอ้างอิงได้ตามหลักวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                           
 

 ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
https://www.facebook.com/profile.php?id=100010475651732
สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 สถิติวันนี้ 4 คน
 สถิติเมื่อวาน 45 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
2530 คน
52317 คน
1744761 คน
เริ่มเมื่อ 2010-01-13

วิเคราะห์เหตุรุนแรงการสังหารโหดในมัสยิดไอปาแย
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
ผู้อำนวยการส่วนข่าวและรายการ
สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 สงขลา
21 มิถุนายน 2552
ยิงผู้บริสุทธิ์ตายในมัสยิดบ้านไอปาแย
ค่ำวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2552 คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืน M16 อาร์ก้า และลูกซอง ยิงถล่มชาวบ้านที่มาร่วมพิธีละหมาด ในมัสยิดอัลกุรกอน ม.8 บ้านไอปาแย ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง         จ.นราธิวาส เสียชีวิต จำนวน 10 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 12 ราย คำถามขอผู้คนในพื้นที่ ตั้งคำถามว่าใครทำ คำตอบที่แกนนำต้องการคือ ทางการเป็นผู้ลงมือ แต่ทางการก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือทำ และไม่ต้องการที่จะทำเพราะมันไม่ใช่การแก้ไขปัญหา อย่างสันติวิธี แล้วใครต้องการให้เกิดปัญหานี้ ติดตามผมมาครับ  
 
ลำดับเหตุการณ์ก่อนยิงผู้บริสุทธิ์ในมัสยิด  
มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 7 ครั้ง
1.)วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม 2552 คนร้ายยิง นายณัฐพล จะแน อายุ 42 ปี ครูโรงเรียนนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิต
 
2.)เวลา 17.45 น. วันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2552 คนร้ายแต่งกายคล้ายทหาร ยิงนางอัจฉราภรณ์ เทพษร ตั้งครรภ์ 8 เดือน และเป็นครูโรงเรียนบ้านดุซงญอ เสียชีวิต พร้อมกับนางวารุณี นวกะ             ครูโรงเรียนริแง ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ส่วนครูอีก 4 คน ที่มาด้วยกันปลอดภัย
 
3.)เวลา 21.30 น.วันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2552 คนร้ายไม่ทราบจำนวนนั่งรถปิคอัพ ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่ร้านน้ำชา ไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ตรงข้ามมัสยิดบ้านบาโงสะตา ม.1 ต.บาโงสะโต         อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 5 ราย
 
4.) เวลา 19.00 น.วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2552 เกิดเหตุคนร้ายใช้รถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามอาก้ากราดยิงเข้าไปในร้านน้ำชา ที่บริเวณสามแยก หมู่ 2 ต.ปะเสยาวอ อ.สายบุรี                จ.ปัตตานี  ทำให้มีชาวบ้านซึ่งนั่งดื่มน้ำชาอยู่ภายในร้านได้รับบาดเจ็บ 3 คน คือ นายเซาฟูวัน  อูมา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 325 หมู่ 2 ต.ปะเสยาวอ  นายพาริส สาแม อายุ  32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 หมู่ 2 ต.ปะเสยาวอ และ นายมะรูดิง หะมะ  อายุ  28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179 หมู่ 2 ต.ปะเสยาวอ
 
5.) เวลา 21.25 น.วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน 2552 คนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ลอบยิง นายมะตอเฮ ยามา อายุ 52 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปละหมาดที่มัสยิดใกล้บ้าน เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านปะลุกาแปเลาะ หมู่ 7       ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นับเป็นครูรายที่ 4 ที่ถูกลอบสังหารในรอบ 20 วัน
 
6.)เวลา 07.00 น.วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2552 คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ตามประกบยิง นายเอกยุทธ์ แซ่ด่าน อายุ 35 ปี อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ประจำเทศบาลตำบล    กายูบอกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายยะลา-รามัน 
 
7.)เวลา 11.40น. วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2552 คนร้ายใช้อาวุธยิง อาสาสมัคร ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ อส.มะดารี มูหิ และ อส.มะกือตา ตะโล๊ะเด็ง ในขณะเดียวกันก็ได้เกิดระเบิดคาร์บอมส์    ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่หน้าร้านขายยา ในเขตเทศบาลตำบลยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ทำให้ นายศราวุธ นิบือซา อายุ 47 ปี   เจ้าของร้านจำหน่ายสินค้ามือสอง เสียชีวิต
 
ลำดับเหตุการณ์หลังยิงผู้บริสุทธิ์ในมัสยิด  
การเกิดเหตุการณ์ ลอบยิงผู้บริสุทธิ์ ในมัสยิด ไอปาแย เสียชีวิตไป 10 ราย ส่งผลให้มีการลอบทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่เป็นครู และพระสงฆ์ เสียชีวิต อีกหลายราย ตามลำดับเหตุการณ์ดังนี้
 
1.)เวลา 13.30 น. วันพฤหัสที่ 11 มิถุนายน 2552 คนร้ายลอบยิงรถขายอาหารเร่บนถนนสายจะแนะ-สุคิริน ท้องที่บ้านกูมุง หมู่ 2 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ทำให้นายยงยุทธ อัมรินทร์ อายุ 35 ปี เสียชีวิตพร้อมกับ นางดวงกมล อัมรินทร์ อายุ 30 ปี ภรรยาของนายยุงยุทธ พบว่ากำลังตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน ส่วนนางยินดี พลภักดี อายุ 60 ปี แม่ยายได้รับบาดเจ็บ
 
2.)เวลา 14.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2552 ในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มีคนร้าย ใช้รถกระบะเป็นพาหนะ ขับตามประกบและใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงใส่ นายมูฮำหมัดอายาริส สาแม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 8 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนอยู่บนถนนสายลาโล๊ะ-มะรือโบตก ทำให้นายมูฮำหมัดอายาริส   เสียชีวิต
 
3.)เวลา 06.20 น.วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2552 คนร้ายลอบยิงพระสงฆ์ ชื่อพระสมบัติ ศรีสุวรรณวิเชียร อายุ 60 ปี มรณภาพ และพระครูธวัชชัย ไชยหมาน อายุ 24 ปี ถูกยิงเข้าที่สีข้างซ้าย อาการบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ถนนสายท่าสาป-ดอนยาง หมู่ 5 บ้านคลองทรายใน ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา
4.)เวลา 08.00 น.วันอังคารที่ 16 มิถุนายน 2552 คนร้ายลอบยิงน.ส.เลขา อิสระ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ซอยเสนารักษ์ เขตเทศบาลตำบลกายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา  ผู้ตายเป็นข้าราชการครู ตำแหน่ง คส.2 ร.ร.บ้านพอแม็ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่จักรยานยนต์เดินทางออกจากบ้านพักไปโรงเรียน
ทำไมต้องมีเหตุการณ์รุนแรงช่วงนี้                                                                                                        การข่าวของทางการมีการเตือนกันล่วงหน้าว่า จะมีเหตุการณ์รุนแรงในระหว่างวันที่ 18-23 พฤษภาคม 2552  เพราะมีการคาดกันว่า ในระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2552 องค์การประชุมอิสลาม (OIC : Organization of the Islamic Conference) จะเปิดการประชุมที่กรุงดามัสกัส   ประเทศซีเรีย ซึ่งจะเป็นการยกระดับของปัญหาขึ้นสู่ระดับนานาชาติ โดยเฉพาะ เวทีของโลกมุสลิม 
และถึงแม้นว่า ขบวนการแบ่งแยกดินแดนพูโล จะไม่ได้เข้าร่วมประชุม แต่นาย Kasturi Mahkota  หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศพูโลก็ได้มีโอกาสได้พบกับ Professor Ekmeleddin Ihsanoglu เลขาธิการOIC  และได้เสนอข้อร้องเรียน 3 ข้อ ให้ OIC ได้รับทราบ คือ
 
1.) ขอให้มีวาระและการถกในที่ประชุมในประเด็นปัญหาของชาวมลายูมุสลิมปาตานี
2.)ขอให้OICได้ออกแถลงการณ์เพื่อกดดันรัฐบาลไทยเพื่อแสวงหาแนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยใช้การเมืองและผ่านคนกลางที่เป็นยอมรับของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
 
3.)เรียกร้องให้ OIC อำนวยความสะดวกและช่วยเหลือในการอนุญาตให้ตัวแทนของขบวนการต่อสู้เพื่อปาตานีได้ติดตามและเข้าร่วมในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศOICและพิจารณาสถานการณ์เป็นสมาชิกด้วย         
 
การพบกันในครั้งนี้ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็ตามตัวแทนพูโลได้รายงานถึงวัตถุประสงค์ในการต่อสู้ของประชาชาติปาตานีต่อเลขาธิการOIC และเลขาฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบุคคลทั้งสอง และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในการแก้ปัญหาอย่างถาวร
 
ในโอกาสนี้ตัวแทนของพูโลได้เดินทางเข้าพบ ‘ดร.อาลี ดียับ’ หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศพรรคบะตีซีเรีย หรือ พรรคบาธ (Baathi Syria) ณ สำนักงานในกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เป็นเวลา 45 นาที ในการพบกันของตัวแทนพูโลในครั้งนี้เชื่อว่าเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างขบวนการพูโลกับพรรคบะตีซีเรียซึ่งเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลซีเรีย ในขณะนี้
 
สำนักงาน พูโล อยู่ในประเทศซีเรีย
นายดำรง พุฒตาล ได้ให้สัมภาษณ์ในนิตยสารคู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 641 ประจำวันที่10-20 มิถุนายน 2552 ว่า สำนักงานขบวนการแบ่งแยกดินแดนอยู่ในประเทศซีเรีย คนไทยจากปัตตานีที่จะเป็นประธานาธิบดี รัฐปัตตานี ถ้าแยกได้สำเร็จก็อยู่ที่นี่ ครับ ท่านผู้นี้ออกจากไทยไปนานแล้วคงไม่รู้จักผม ความจริงผมอยากพบท่านเหมือนกัน อยากเล่าให้ท่านฟังว่า ผมเป็นมุสลิมที่เป็นเจ้าของนิตยสารที่พิมพ์จำหน่ายมียอดสูงที่สุดมา 30 ปี และทำรายการทีวีมา 42 ปี ยังไม่เคยมีใครมากดขี่ข่มเหง แถมสื่อของผมยังวิพากษ์วิจารณ์ข้าราชการ นักการเมืองไทยอย่างตรงไปตรงมาด้วย แต่โชคไม่ดี ผมมาช้าไป 2-3 ปีท่านเสียชีวิตไปแล้วครับ
 
คนไทยใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้รู้จักท่านผู้นั้นในนามของ “นายบีลอ” หรือ ตวนกูบีลอ ท่านมีเชื้อสายเจ้าปัตตานีหรือสายบุรี เคยเรียนหนังสือที่โรงเรียนอิสลามศรีอยุธยาแล้วไปเรียนต่อที่อินเดีย พอตำรวจไทยไล่ตามจับ ท่านก็หลบหนีไปประเทศสวีเดน และท่านก็อาจไป ๆ มา ๆ สวีเดน-มาเลเซีย
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไม ตวนกูบีลอ ประธานพูโลจึงเลือกไปซีเรีย นายดำรง ตอบว่า ที่ซีเรียเขามีพรรคบาธ (Baath Party) ซึ่งมี นโยบายที่เข้มแข็ง เรื่องช่วยเหลือมุสลิมที่ถูก กดขี่ข่มเหง จึงให้ที่พักพิงและให้สัญชาติซีเรีย กับ ตวนกูบีลอ และท่านก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น เช็คอับดุลเราะมาน อัลคาซีร์ และมีภรรยาเป็นชาวซีเรีย ท่านเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้ ศพของท่านก็ฝังอยู่บนเขาชานกรุงดามัสกัส 
 
นายดำรง พุฒตาล เป็นผู้แทนคนหนึ่งที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ประชุม OIC
นายดำรง พุฒตาล บอกอีกว่า เมื่อวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2552 ได้เข้าประชุมในฐานะประเทศผู้สังเกตการณ์ (Observers) ซึ่งเพียง 5 ประเทศคือ ไทย บอสเนียเฮอร์เซโกวีนา แอฟริกากลาง รัสเซีย และเตอร์กิส (Turkish Cypriot State ) นายดำรง พูดตอนหนึ่งว่า ถ้าเป็นเรื่องทางการเมือง เช่นจะแยกดินแดนกัน เขาก็ถือว่าเป็นเรื่องภายในประเทศนั้น องค์กร OIC จะไม่ยุ่ง เพราะเป็นเรื่องภายในประเทศ หรือถ้าดันทุรังหรือถูกหลอกแล้วจะเข้าไปยุ่งบรรดาประเทศสมาชิกก็จะคัดค้านทันที ซึ่ง จริง ๆ แล้วก็มีกลุ่มคนบางคน บางกลุ่มที่อาจเป็นคนไทยเรานี่แหล่ะ หรือไม่ก็บางกลุ่มที่เป็นคนชาติอื่น ๆ ใกล้ ๆ เราเหมือนกัน   ละก็อาจมีพวกแขกอาหรับหรือไม่อาหรับ ผมขอพูดมั่ว ๆ ไว้ก่อน แต่มันเป็นจริงนะ 
 
คำให้สัมภาษณ์ของนายดำรง ดูเหมือนว่า เขาจะรู้อยู่เหมือนกันว่ามีการเคลื่อนไหว ของขบวนการ เพียงแต่พูดออกมาตรง ๆ ไม่ได้ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็มีการสอดรับกับการเข้าพบเลขาธิการ OIC ของนายกัสตูรี มะฮฺโกตา ในช่วงก่อนการประชุม OIC 
 
ผบ.ทบ.ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากขบวนการแบ่งแยกดินแดน
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2552 พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พูดในที่ประชุมนักธุรกิจ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศอ.บต. ไว้อย่างชัดเจนว่า  ไม่อยากจะใช้คำว่าแก้ตัวอย่างน้อยจะได้ลดความอึดอัด ต้องยอมรับตรง ๆว่าเป็นการแบ่งแยกดินแดน การเกิดเหตุการณ์ไม่ได้เกิดจาก เชื้อชาติ ศาสนา แต่เขาเอาเรื่องนี้เป็นเงื่อนไข   ประเด็นคือ ไม่ยกกองทัพมาแล้วยึดเขาบูโด ถ้ามีกองกำลังก็ยกไปได้ เขาใช้ยุทธศาสตร์กดดันคนพุทธ ออกนอกพื้นที่ ยกระดับขึ้นสู่ระดับนานาชาติ หากเมื่อไหร่ องค์การสหประชาชาติ หรือ UN และ องค์การประชุมมุสลิม หรือ OIC เข้ามาแก้ไขการกดขี่ กองกำลังเข้ามาแน่ กองกำลังทหารของเราก็ต้องออกจากพื้นที่ แล้วให้ลงประชามติ เราต้องเสียดินแดน คนมุสลิมเกิน 90 % เขาตกอยู่ในสภาวะศาสนาเดียวกัน เขาอยู่ในภาวะจำยอมน่าเห็นใจ กลุ่มที่เคลื่อนไหวมี 5-7 พันคน ที่พิสูจน์ทราบ ที่ทำให้เกิดการก่อการร้าย จะทำอย่างไร 
 
1.เปลี่ยนจิตใจ สร้างความเข้าใจกับ OIC ให้ยอมรับ ไม่มีทางเกิดปัญหาที่ UN  จะเข้ามาเป็นการทำยากไม่เหมือน ปิดเปิดไฟ
 
2.มาตรการทางกฎหมายเท่านั้น ที่จะแก้ปัญหา การใช้มาตรการอื่นแก้ไม่ได้ 
 
3.มาตรการทางทหาร การปะทะกันไม่ค่อยดีนัก เมื่อมีการปิดล้อมคนบริสุทธิ์ต้องตาย มีการเรียกร้องเดินขบวนว่าโดนเด็ก 
 
การแก้ไขปัญหา 3 ประเด็นไม่ใช่เรื่องง่าย ทหารลงพื้นที่ 2 หมื่นคน รวมแล้วประมาณ 5 หมื่นคน 
 
บทสรุป
จากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ชี้ให้เห็นว่า โจรก่อการร้าย ต้องการให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง โดยใช้ศาสนา เป็นเครื่องมือ เพราะชาวมุสลิม เป็นผู้ที่ยึดมั่นในหลักศาสนาอย่างเคร่งครัด เมื่อใครมาทำร้ายก็จะมองว่าคนกลุ่มนั้นเป็นศัตรู ต่อศาสนา และผู้นั้นสามารถลุกขึ้นมาปกป้อง ผู้ที่ร่วมศาสนาเดียวกันได้ ที่เรียกว่า ญีฮาด  ซึ่งเป็นเป้าประสงค์ ของโจรก่อการร้าย ที่จะยกระดับความขัดแย้งสู่นานาชาติ   เมื่อถึงจุดนั้น หาก องค์การสหประชาชาติ (UN) หรือ องค์การประชุมมุสลิม (OIC) จะส่งกองกำลังเข้ามาในพื้นที่ แล้วให้มีการลงประชามติของประชาชนในพื้นที่ เมื่อนั้น ไทยก็จะสูญเสียดินแดน
 
ในการดำเนินการเพื่อให้เกิดความแตกแยกทุกอย่าง   มีขบวนการแบ่งแยกดินแดน ที่มีอยู่อย่างชัดเจน ทั้งกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนพูโล ที่เร่งดำเนินการด้านการเมือง และการประชาสัมพันธ์ เพื่อยกระดับปัญหาเข้าสู่วาระการประชุมของ OIC แต่ก็ใกล้จะประสบความสำเร็จ เพราะอย่างน้อย OIC ก็รู้ว่า มีขบวนการเรียกร้องเพื่อแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้น รัฐบาลไทยต่างรู้ดี ถึงสาเหตุของความรุนแรงที่เกิดขึ้น ส่วนการแก้ไขปัญหา ที่จะใช้การเมืองนำการทหาร ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการจัดตั้ง ศบ.ชต. หรือศูนย์บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่รัฐบาลจะเป็นฝ่ายเสนอจะสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องติดตามต่อไป เพราะฝ่ายทหารที่เป็นฝ่ายนำขณะนี้ จะสูญเสียการนำหรือไม่ 
 
แนวทางการทำประชาสัมพันธ์
1.สื่อวัฒนธรรมเพื่อสันติภาพ โดยการประชาสัมพันธ์ ด้านวัฒนธรรมที่มีในท้องถิ่น ให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ วัฒนธรรมที่มีในท้องถิ่น ประกอบด้วย การขับร้องอานาชิส การละเล่นดีเกฮูลู การกวนอาซูลอ การร้องเพลงโฟร์คซองภาษามลายู การจัดงานฮารีรายอ
2.สื่อกีฬาเพื่อสันติภาพ    การกีฬา เป็นสิ่งหนึ่งที่จะนำมาใช้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ โดยนำนักกีฬา มาเป็นคนพูดสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นที่ และเป็นตัวแทนของประชากรในพื้นที่ เพื่อนำเสนอของดีประเทศไทย 
 
3.สื่อบุคคลเพื่อสันติภาพ เป็นนำเอาNGO ที่มีแนวคิดด้านสันติภาพ เป็นผู้บอกเล่า ความจริง และนำเสนอความต้องการของรัฐไปบอกประชาชนในพื้นที่ เพราะ บุคคลกลุ่มนี้จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าราชการ พูด
 
4.สื่อการ์ตูนเพื่อสันติภาพ เป็นการจัดทำการ์ตูน เพื่อเผยแพร่คุณความดี ออกมาเป็นรูปแบบของการ์ตูน นำเสนอทั้งภาษาไทยและภาษามลายู 
* * * * * * * * * * * *
 
ที่มาของข้อมูล
เว็บไซต์ OIC
เว็บไซต์ พูโล
หนังสือคู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 641
ข่าวออนไลน์ นสพ.ไทยรัฐ ,ข่าวสด , ศูนย์ข่าวอามาน , ศูนย์ข่าวอิศรา
 
1.ข้อมูลอ้างอิง.. จาก เว็บไซต์พูโล
Perwakilan Pertubuhan PULO berjumpa Prof.Ekmelledin IhsanOglu

Satu deligasi yang diketuai oleh Saudara Kasturi Mahkota Ketua jabatan Luar Pertubuhan PULO telah mengadakan pertmuan dengan Prof.Ekmelleddin IhsanOglu, Setiausaha agong Persidangan Dunia Islam OIC dan beberapa orang pegawai kanan OIC termasuk Kasim Almasri Timbalan Setiausaha agong di Damascus, Syria bersempena dengan Persidangan Menteri-Mentri Luar Negara Islam yang ke 36 yang berlangsung diantara 23-25 May 2009.


Dalam pertemuan ringkas ini Prof.Ekmelleddin dan pegawai lainnya telah memberi jaminan akan mengambil perhatian yang serius dalam masaalah yang dihadapi oleh masyarakat islam di Patani.

Dalam kesempatan ini perwakilan PULO telah menyerahkan dokumen kepada pihak OIC.

Ternyata Thailand telah gagal dalam usahanya untuk menutup segala perbuatan kejam dan penindasan yang tidak ada hujungnya keatas masyarakat Islam Patani.

Thailand sebagai sebuah negara statusnya sebagai pemerhati di Pertubuhan Islam itu (OIC) telah menghantar satu deligasi yang besar kepersidangan Damascus,

tujuanya untuk menyekat suara Masyarakat Islam Patani samapai kepada OIC khasnya suara Pertubuhan PULO.

Nampaknya usaha itu tidak tercapai apabila Prof.Ekmelleddin sendiri dengan secara serius menyatakan kepada pihak Pertubuhan PULO bahawa pihaknya memandang berat isu penderitaan yang dihadapi oleh masyrakat islam Patani.

Dibawah adalah resolusi yang dibuat oleh Persidangan..

OIC/CFM-36/2009/MM/DR/RES/FINAL RESOLUTION No. 1/36-MM> ONSAFEGUARDING THE RIGHTS OF MUSLIM COMMUNITIES AND MINORITIES IN NON-OIC MEMBER STATES

16. Decides to defer consideration of Draft Resolution No. OIC/CFM- 36/2009/MM/DR/RES.5/REV.> 1 regarding the situation of the Muslim Community in Southern Thailand until the next 37th Session of the Council of Foreign Ministers to allow ample time for contacts between the Secretary General and the Government of the Kingdom of Thailand with a view to expedite the implementation of the Government’s plan to address the root causes of the problem as contained in the Joint Statement issued at the end of the visit of the Secretary General to Thailand on 1st July 2007, and calls upon the Member States enjoying close relations with Thailand to support the efforts of the Secretary General in this regard.

Info PULO
 
2.ข้อมูลอ้างอิง.. จาก เว็บไซต์พูโล
 
The Al Furqan Mosque Tragedy.

As the Thais are now desperately unsuccessfully quelling the insurgence and the casualties on security forces increase on daily basis, they have now changed to meddle with the Patani Malay Institutions such mosques and religious schools and thought to be the seeds the insurgent activities.


Tens of Imams and hundreds of worshippers have so far been victimised since Kersik (Krue se) massacre in 2004 till the latest on the al-Furqan mosque in Choh-i-ron, Narathiwat that left the Imam and his 11 followers died on the spot and 13 others serious wounded while performing Ishak praying. Another one died at the hospital and today two more died from the serious injuries.

The 8th June incident hapened was obviuosly in retaliation of two seperate incidents early on the same day, a roadside bomb that caused one dead and nine injuried on the security forces in the nearby Rue so district and another the Yingo city centre bomb, one civil volunteer dead and another injured plus scores passers-by injuries. This run amok and brutal acts by Rangers and Thai enclave volunteers are daily happening as they are unable to find the attacking insurgents. Their soft targets are moques and cafe are inhumanely operaetd by the said volunteers and their protectors, the rangers which mostly reported as unknown driven-by shootings in daily newspapers.

Most cases happened nearby Thai enclaves or Army/police camps or bases. All crimes committed by Thai apparatus were done in a swift way and without leaving any evidences then they rushed back to bases, as their superirors are waiting for sheltering. Similarly as happened to Imam Ja'far last year in Rue So district, with forensic report that was brutalised and killed by a Rangers camp on a Temple compound but this was flatly denied by Gen. Anupong, The Army Chief.
Why are they targeting Mosques and religious schools?
As both instititutions are the last reamaining social management units and still functioning nowadays in Patani region that is admnistering by the Thais, Patani Malay Muslim people are still stick to their traditional way of life. This is why, destroying the people and its social institution, is one of the main tasks for every Thai police station and district office in the region.

The majority of the victims in the al-Furqan mosque were Tabligh missionary group people who have nothing to do with the present situation. That made the local people surely believe and blame the Thai apparatus to have responsibility of the massacre. Above all, two assailants who guarded at the mosque gate were talking fluent Thai with accent and at one of the three shooting potitions, a 'Singa beer' cap was found, proving prior to the attack they must have had a drink party, similarly, smell of drunk was every where when the Rangers conducted a wild search at a religious scool in Yala province 2 years ago.

Therefore, the Thai empty-minded and violent people and their forces in Patani region will be terrorising the locals for more time to come, as irresponsible occupation forces towards the oppressed people of Patani who yearn for peace and prosperity the same as other volks of the globe.


infoPULO
 
3.ข้อมูลอ้างอิง จากเว็บไซต์ OIC
OIC Secretary General condemns killing of Muslim worshippers at Mosque in southern Thailand

Date: 09/06/2009 - View in: Arabic | French - 
The Secretary General of the Organization of the Islamic Conference (OIC), Professor Ekmeleddin Ihsanoglu, condemned the armed assault waged on Monday 8th June 2009 against Muslim worshippers at Al-Furqan Mosque in Narathiwat province in southern Thailand. He expressed his heartfelt regret over the killing of the mosque's Imam [prayer leader] along with ten worshippers and the severe wounding of ten other people.

This tragic incident falls within a string of aggressions conducted by armed and organized elements that have targeted worshippers and worship venues in southern Thailand in a bid to terrorize Muslims and restrain them from demanding their legitimate rights. These armed groups enjoy the support of influential parties.

While Ihsanoglu emphasizes his firm denunciation of terrorist acts affecting innocent civilians, he calls upon the Thai government to undertake a probe into this tragic incident, apprehend its perpetrators in order to refer them to justice, and deploy the necessary efforts to protect the lives and property of Muslims in southern Thailand
 
* * * * * * * * * * * * * *

คลิ๊กนี้มีความหมาย

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 : Webmaster by Narong Cheunniran : อีเมล์ :narongthai53@gmail.com