|
จับแกนนำมิถุนายน 2550
ยุทธการพิชิตบันนังสตา
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
ผู้สื่อข่าว 8 ว.
จับแนวร่วมค้ายาเป็นคน3จังหวัด
กรุงเทพ 1มิถุนายน 2550 เวลา 07.00น. พ.ต.ท.กฤษฎ์ ระบำโพธิ์ รอง ผกก.หน.สภ.ต.ทรงธรรม รายงานถึงการจับกุมคนร้ายว่า ได้นำกำลังตั้งจุดตรวจบนถนน พหลโยธิน กม.362-363 หน้าโรงพัก หมู่ 8 ต.ทรงธรรม เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดลอตใหญ่เข้ามาในพื้นที่ กระทั่งพบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทาหมายเลขทะเบียน สห 8823 กรุงเทพมหานคร ขับมาจากทาง จ.ตาก ลักษณะตรงตามที่สายรายงานมาจึงเรียกตรวจค้น พบนายอาฮามัดสัน ดอเล๊าะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/4 หมู่ 1 ต.กะลุวอ อ.เมืองนราธิวาส เป็นคนขับ และนายมะสะอูดี เจาะเฮง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 9 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นั่งคู่ด้านหน้าท่าทางมีพิรุธ ตรวจค้นในรถพบว่าบริเวณที่วางเท้าเบาะหลัง มีเฮโรอีนบรรจุถุงพลาสติกมีตราสิงโตคู่เหยียบโลก 18 ถุงวางอยู่ โดยมีผ้ายางปูพื้นวางทับด้านบนอำพรางสายตา เมื่อเปิดฝากรุประตูรถทั้ง 4 ด้านออกดู ก็พบเฮโรอีนอีก 18 ถุง และเฮโรอีนอัดแท่ง 9 แท่ง ยาบ้าบรรจุถุงพลาสติก 77 ถุง จำนวน 15,400 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายใน รวมเป็นเฮโรอีน 17.9 กิโลกรัม
สอบสวนนายมะสะอูดี เจาะเฮง ผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า ตนเองกับนายอาฮามัดสันมีอาชีพขายรถมือสองอยู่ที่กรุงเทพฯ ก่อนเกิดเหตุนายลี เพื่อนเป็นชาว จ.นราธิวาส ไปรับตนกับนายอาฮามัดสันที่บ้านบอกว่าจะจ้างให้ไปขับรถที่ จ.ลำปาง กลับมากรุงเทพฯ ให้ค่าจ้างเป็นเงินหลักแสนบาท เมื่อเดินทางไปถึงหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จ.ลำปาง มีชาย 2 คน ลักษณะคล้ายชาวเขา ขับรถคันดังกล่าวไปจอดที่ลานจอดรถ พร้อมส่งกุญแจรถให้นายลี นายลีได้ส่งกุญแจรถให้ตนขับไปจอดที่ห้างบิ๊กซี สาขารัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี โดยไม่รู้ว่าในรถมีของผิดกฎหมาย ส่วนนายลีได้ขับรถอีกคันนำหน้าจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นจับกุม จึงแจ้งวิทยุสกัดจับแต่ไม่พบวี่แวว และตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การผู้ต้องหา เพราะเชื่อว่าแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้น่าจะมีเครือข่ายใหญ่โต เพราะมีปริมาณของกลางจำนวนมาก ขยายผลแก๊งค้ายา กรุงเทพ 1มิถุนายน 2550 พล.ต.ท.รณรงค์ ยั่งยืน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาการ ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. (สป.) พล.ต.ท. สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.ปส. ประสานงานกับ ผบก.ภ. จ. กำแพงเพชร สืบสวนสอบสวนขยายผลถึงเครือข่ายแก๊งค้ายาเสพติดแก๊งนี้ เนื่องจากยาเสพติดที่จับได้มีจำนวนมากราคาราว 15 ล้านบาท หากส่งไปขายต่างประเทศจะมีราคาถึง 1,500 ล้านบาท คนร้ายแก๊งนี้น่าจะเป็นขบวนการใหญ่ มีเงินทุนมหาศาล รวมทั้งตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ด้วยหรือไม่
ตำรวจรามันตรวจค้นจับกุมแกนนำ
อ.รามันจ.ยะลา 7 มิถุนายน 2550 พ.ต.ต.สมปราช กรรณกานนท์ สว.(หน.) สภ.ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ร.ต.ต.พงษ์ศักดิ์ เอี่ยมอ่อน ร้อยเวร นำกำลังร่วมกับทหารออกติดตามกลุ่มผู้ต้องสงสัย 5 คน มีอาวุธปืนยาวครบมือ หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเดินลัดเลาะในป่าบ้านปูลามอง หมู่ 6 ต.เกะรอ แต่ไม่พบตัว ขณะเดียวกัน พบกล่องระเบิดปลอมวางอยู่ที่หัวสะพานในหมู่บ้าน จึงยิงทำลายทิ้ง พบภายในกล่องมีเพียงก้อนอิฐ
จากนั้นได้ตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในบริเวณใกล้เคียง 2 หลัง คือบ้านเลขที่ 45/2 หมู่ 6 บ้านของนายมะซอและ ซือนิ อายุ 40 ปี และบ้านเลขที่ 45/1 ของนายมะยูโซ๊ะ ไม่ทราบนามสกุล พบกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 27 นัด พร้อมแมกกาซีน 1 อัน กระสุนปืนอาก้า 19 นัด กระสุนปืนเอ็ม 79 จำนวน 1 นัด วิทยุสื่อสารเปิดความถี่ทางราชการทุกความถี่พร้อมเครื่องชาร์จ 1 เครื่อง ชุดลายพราง เปลญวน เทปกาว และเอกสารการปลุกระดมอีกหลายรายการจึงได้ยึดไว้ ส่วนเจ้าของบ้านทั้ง 2 รายหลบหนีไปก่อนแล้ว
ระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวเดินทางกลับที่ตั้ง ปรากฏว่าถูกกลุ่มแนวร่วมโจรในหมู่บ้านได้โรยตะปูเรือใบ บนถนนสายบ้านพะปูเงาะ-เกะรอ ทำให้รถยนต์ชาวบ้านเหยียบตะปูเสียหายหลายคัน นอกจากนี้ ยังพบกล่องต้องสงสัยวางไว้อีก
จับชายแต่งชุดดาวะห์เป็นทหาร
อ.เมืองยะลาวันที่ 8 มิถุนายน 2550 เวลา11.30 น. ด.ต.เกียรติพัฒนา หน.ศูนย์วิทยุ 191 สภ.อ.เมืองยะลา รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบชายฉกรรจ์ต้องสงสัย 2 คนแต่งกายชุดดาวะห์สะพายเป้เดินอยู่ในย่านการค้าเขตเทศบาลนครยะลา พบชายต้องสงสัยทั้ง 2 คน เดินป้วนเปี้ยนอยู่บนถนนสิโรรสใกล้มัสยิดกลางยะลา จึงเข้าตรวจค้นพบระเบิดเอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก แมกกาซีนบรรจุกระสุน 30 นัดใช้กับปืนกลอูซี่ จึงคุมตัวไปสอบปากคำ ทราบภายหลังว่าเป็นทหารสังกัดกองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 จ.พิษณุโลก มาช่วยราชการใน จ.ยะลา ส่วนสาเหตุที่ต้องแต่งชุดดาวะห์เพราะนับถือศาสนาอิสลามและกำลังจะไปร่วมละหมาดที่มัสยิดกลางยะลา จึงประสานต้นสังกัดมารับตัวกลับไป
ตำรวจยะลาค้นบ้านเช่าพบเอกสาร
อ.เมืองยะลา วันที่ 11 มิถุนายน 2550 เวลา 06.00 น. พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา พร้อมกำลัง เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยในเขตเทศบาลนครยะลากว่า 20 หลังแต่ไม่พบหลักฐานการกระทำความผิด ยกเว้นในบ้านเลขที่ 10 ถนนเทศบาล 9 ต.สะเตง มีนายรุสลัน สะตาปอ อายุ 25 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่งใน จ.ยะลา อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 3 ต.บานา อ.เมืองปัตตานี เป็นผู้เช่า จากการตรวจค้นพบเอกสารบางอย่างที่เกี่ยวโยงกับเหตุระเบิดที่ร้านน้ำชาอาเหลียงจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์อีก 3 เครื่อง เก็บข้อมูลจุดยุทธศาสตร์และภาพเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ จ.ยะลา เอาไว้เป็นจำนวนมาก จึงควบคุมตัวนายรุสลันกับพวกอีก 3 คนคือ นายอานันดี สะแลแม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136/1 หมู่ 5 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายดมนียา บาฮะคีรี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา และนายเจ๊ะอาเดร์นาน อามะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 10 ต.บานา
อ.เมืองปัตตานี ส่งศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา (ศปก.ตร.สน.ยะลา) สอบขยายผลต่อไป
จับแกนนำ
อ.เมืองนราธิวาส เมื่อเย็นวันที่ 14 มิ.ย.2550 กรณีนายสะตอปา สิรอมา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 4 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบนำระเบิดไปฝังหมายดักสังหารเจ้าหน้าที่แต่ระเบิดทำงานผิดพลาดถูกระเบิดเสียชีวิต และสมาชิกในกลุ่มบาดเจ็บหลายคนแต่หลบหนีไปได้ที่บ้านลูโบ๊ะบาตู หมู่ 3 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ ต่อมาตอนสายวันที่ 15 มิ.ย.2550 พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิกุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ พ.ท.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.ฉก.38 นำกำลังตำรวจ ทหาร ประมาณ 200 นาย เข้าตรวจค้นหมู่บ้านบาตูบือซา หมู่ 6 ต.บาโงสะโต จุดแรกตรวจค้นบ้านเลขที่ 34 คุมตัวนายมะตอเร๊ะ มะแซ อายุ 27 ปี และนายซูกิปลี สาฮีบาตู อายุ 23 ปี 2 ผู้ต้องสงสัยพร้อมของกลางปืน .38 1 กระบอก วิทยุสื่อสาร 3 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ไว้สอบสวน ส่วนจุดที่ 2 เข้าตรวจค้นบ้านนายมะนาวี ดอเลาะ เลขที่ 6/4 ยึดปุ๋ยยูเรีย 40 กก. และพลั่วที่ใช้ขุดหลุมวางระเบิด 1 อัน ขณะเข้าตรวจค้นไม่พบตัวนายมะนาวี ทราบว่าเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ค้นระแงะ อ.ระแงะจ.นราธิวาส วันที่ 14 มิถุนายน 2550 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิกุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกว่า 200 นาย เข้าปิดล้อมบ้านเป้าหมายรวม 4 หลัง ในพื้นที่บ้านตราแดะ หมู่ 5 ต.บาโงสะโต และหมู่ 4 ต.กาลีซา อ.ระแงะ หลังสืบทราบว่ามีความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่ทางการต้องการตัว โดยพยายามก่อเหตุวางระเบิดริมถนนบ้านลูโบ๊ะบาตู หมู่ 3 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ แต่เกิดพลาดท่าระเบิดใส่ ตัวเองจนเสียชีวิตไป 1 ศพ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 มิ.ย.2550 โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านเลขที่ 10 หมู่ 5 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ ซึ่งเป็นบ้านของนายสะตอปา อูมา อายุ 45 ปี พบว่าที่บริเวณใบหน้า หน้าอก แขนขาของนายสะตอปามีร่องรอยการถูกเศษสะเก็ดระเบิดหลายแห่ง ยึดของกลางได้จำนวนหนึ่ง ส่วนหลังที่2บ้านเลขที่115/1หมู่4ต.กาลีซาเป็นบ้านของนายฮาเล็มสาแมอายุ35ปีเจ้าของบ้านพบร่องรอยเศษสะเก็ดระเบิดตามร่างกายหลายแห่งเช่นกัน หลังที่ 3 บ้านเลขที่ 26 หมู่ 4 ต.กาลีซา เป็นบ้านของนายอับดุลรอมัน และซาเยะ อายุ 48 ปี มีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกายหลายแห่งเช่นกัน ส่วนหลังที่ 4 เป็นบ้านเลขที่ 91 หมู่ 5 ต.บาโงสะโต ของนายซูเด็ง ฮะ อายุ 39 ปี พบบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดเหมือน 3 คนแรก คุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่ สภ.อ.ระแงะ และส่งต่อไปยัง ศปก.ตร.สน.จ.ยะลา เพื่อขยายผลว่ามีส่วนร่วมในการก่อเหตุป่วนใต้หรือไม่ ส่วนของกลางที่สามารถยึดได้ในบ้านพักทั้ง 4 หลัง ประกอบด้วย เครื่องเลื่อยยนต์ 1 เครื่อง น้ำมันเบนซินบรรจุในแกลลอนน้ำมันเครื่องขนาด 5 ลิตร จำนวนหลายแกลลอน ชุดเสื้อผ้าเปื้อนเลือด เศษปุ๋ยยูเรียอีกจำนวนหนึ่งจึงยึดไว้ตรวจสอบ โดยมี พญ. คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเดินทางมาร่วมตรวจสอบหลักฐานตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ ว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับคดีต่างๆที่เกิดขึ้นหลายคดีในพื้นที่ อ.ระแงะ และขยายผลเชื่อมต่อกับผู้ต้องสงสัยในคดีอื่นๆด้วยหรือไม่
ค้นธารโต
อ.เมืองยะลา วันที่ 17 มิถุนายน 2550 เวลา 07.15 น. พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 47 ถนนรัฐคำนึง เขตเทศบาลนครยะลา หลังสืบทราบว่าแกนนำกลุ่มอาร์เคเค คือ นายอับดุลเลาะ บาเหะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 3 บ้านจาเราะแป ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีร่วมกับพวกฆ่าแล้วเผา นายจำนง ชูพัฒนพงศ์ อายุ 59 ปี ผอ.ร.ร.บ้านบาโด และนายมนูญ ศรแก้ว อายุ 53 ปี ผช.ผอ.โรงเรียนเดียวกัน และก่อคดีฆ่าแล้วเผา น.ส.พัชราภรณ์ บุญมาศ อายุ 26 ปี บัณฑิตมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มาพักอาศัยในบ้านเช่า หลังดังกล่าว เพื่อวางแผนลอบวางระเบิดร้านอาหารกลางเมืองยะลา ตรวจค้นพบนายอับดุลเลาะพร้อมเพื่อนอีก 6 คน มี นายรูสลาน ปุโรง อายุ 33 ปี นายอับดุลเล๊าะ ดือเระ อายุ 29 ปี นายมูหาหมัดยากี สาและ อายุ 26 ปี นายรุสลี แวกาจิ อายุ 25 ปี นายแวฮาซัน มูซอ อายุ 28 ปี และนายมะสุกรี กูวิง อายุ 25 ปี ยึดปืนอาก้า กระสุน 15 นัด พร้อมแมกกาซีน 1 อัน โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง รถเก๋งมิตซูบิชิ ทะเบียน กค 2897 ปัตตานี 1 คัน ป้ายทะเบียนปลอม กก 4695 ยะลา รถจักรยานยนต์ 7 คัน เอกสารปลุกระดมพร้อมของกลางอื่นๆอีกหลายรายการ สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา บอกว่า ติดตามนายอับดุลเลาะ หัวหน้าอาร์เคเค มาตลอดเวลา ล่าสุดรับแจ้งจากสายว่านายอับดุลเลาะแอบเข้ามาในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อวางแผนกับพวกก่อเหตุระเบิดร้านอาหารกลางเมือง โดยมีนายมูหาหมัดยากี ซึ่งมีหมายจับคดีเกี่ยวข้องกับความมั่นคงอยู่ด้วย จึงนำกำลังปิดล้อมจับกุม ส่วนผู้ต้องหาทั้งหมดจะส่ง
ไปสอบขยายผลที่ ศปก.ตร.สน.
RKKกลุ่มมะแออภิบาลแบถล่มทหารตาย7นาย
หน่วยข่าวด้านความมั่นคง ระบุว่า กรณีคนร้ายวางระเบิดและยิงถล่มซ้ำทหาร ร้อย ร.2514 ประจำฐาน ร.ร.บ้านวังหิน ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิต 7 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย เมื่อ วันที่ 15 มิ.ย.2550 จากการติดตามด้านการข่าวทราบว่า เป็นฝีมือของนายมะแอ อภิบาลแบ หัวหน้ากลุ่มอาร์เคเค พร้อมด้วยนายซาการียา หะยีสาเมาะ อดีตโต๊ะอิหม่าม และกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่รวมกว่า 20 คน ซึ่งกลุ่มนายมะแอ เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ให้การสนับสนุนการหลบซ่อน คนร้ายกลุ่มนี้ยังเคยก่อเหตุโจมตีอาสาสมัครทหารพรานที่ 41 เสียชีวิต 12 นาย ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2550 ที่ผ่านมาด้วย แต่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องยังไม่กล้าติดตามไปจับกุม เพราะกลุ่มคนร้ายมีฝีมือและอาวุธร้ายแรง ประกอบกับมีมวลชนเป็นแนวร่วมจำนวนมาก
กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมืองยะลา จับกุมแกนนำกลุ่มอาร์เคเค 7 คน มีนายอับดุลเลาะ บาเหะ อายุ 25 ปี นายมูหาหมัดยากี สาและ อายุ 26 ปี นายรูสลาน ปุโรง อายุ 33 ปี นายแวฮาซัน มูซอ อายุ 28ปี นายรุสลี แวกาจิ อายุ 25 ปี นายอับดุลเล๊าะ ดือเระ อายุ 29 ปี และนายมะสุกรี กูวิง อายุ 27 ปี พร้อมปืนอาก้า รถเก๋ง 2 คัน รถจักรยายนต์ 5 คัน และเอกสารปลุกระดมหลายรายการ ที่บ้านเลขที่ 47 ถนนรัฐคำนึง เขตเทศบาลนครยะลา พ.ต.ท.จิรสิทธิ์ ลอแม รอง ผกก.สส.สภ.อ.เมืองยะลา เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 50ว่า การสอบสวนผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ตรวจสอบอาวุธปืนอาก้าที่ยึดได้เป็นกระบอกที่ใช้ยิงนายสิงหา หมื่นเดช อายุ 35 ปี นายช่าง อบต. ท่าสาป อ.เมืองยะลา และยิงนายอินคำ วงศ์ปัญญา อายุ 35 ปี พ่อค้าไอศกรีม และเชื่อว่าก่อเหตุยิงนายอภิเดช ยงมะเก๊ะ หรือเซะ หมอผี ที่บ้านตลาดเก่า และยิงรถนักเรียนโรงเรียนพัฒนาวิทยาบาดเจ็บกว่า 10 คน ที่ อ.ยะหา เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.50 แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่มั่นใจมีพยานหลักฐานที่จะดำเนินคดีได้ แถลงข่าวจับแนวร่วม ค่ายสิรินธรอ.ยะรังจ.ปัตตานี 19มิ.ย.50 ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.) พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผบก.ภ.จ.ยะลา และนาย กฤษฎา บุญราช รอง ผวจ.ยะลา ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจค้นพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ว่า เจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายในพื้นที่หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง และหมู่ 8 ต.บันนังสตา หลังเกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดและซุ่มยิงซ้ำทหาร ร้อย ร.2514 ที่หมู่ 6 บ้านบือซู ต.บันนังสตา สามารถตรวจ ยึดดินระเบิดเพาเวอร์เจล 18 แท่ง ปืนกลอูซี่ 1 กระบอก พร้อมกระสุน 45 นัด กระสุน .38 เครื่องแบบทหาร คอมพิวเตอร์ ถังดับเพลิง วิทยุสื่อสาร อุปกรณ์ประกอบระเบิด เป้สนาม ปุ๋ยยูเรีย และเครื่องสนาม รวมทั้งหมด 28 รายการ พร้อมควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยไปสอบสวน 17 คน
จับมะแอ อภิบาลแบ
ยะลา - มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการจากยะลาว่าหลังจากที่มีการปิดล้อมพื้นที่บันนังสตา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว "มะแอ อภิบาลแบ" หัวหน้าหน่วย RKK ค่าหัว 1 ล้านบาท ซึ่งถูกระบุว่าอยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงหลายเหตุการณ์ได้แล้ว
จับมะแออภิบาลแบหน.RKKค่าหัว1ล้านบาท
อ.บันนังสตา จ.ยะลา วันที่ 22 มิ.ย.50 มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการจากเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นใน จ.ยะลา ว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน 2550 เพื่อทำการปิดล้อมตรวจค้นบุคคลผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดยะลาจนกระทั่งสามารถรวบตัวนายมะแออภิบาลแบไว้ได้ โดยนายมะแอ อภิบาลแบ เป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการของกลุ่มก่อความไม่สงบที่หน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุครั้งสำคัญๆ หลายครั้งด้วยกัน เช่น เหตุการณ์ลอบวางระเบิดและจ่อยิงศีรษะทหาร 7 นาย กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนำอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตไปด้วยรวม 7 กระบอก และเชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่ปฏิบัติการโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารอาสาสมัครทหารพรานที่ 41 เสียชีวิต 12 นาย ที่ อ.บันนังสตาจ.ยะลาเมื่อวันที่31พฤษภาคม2550 โดยกลุ่มของนายมะแอ อภิบาลแบ เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลอยู่ในพื้น อ.บันนังสตา นายซาการิยา หะยีสาเมาะ อดีตโต๊ะอิหม่ามและชาวบ้านในพื้นที่ให้การสนับสนุนการหลบซ่อน เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพล ซึ่งนายมะแอ อภิบาลแบ มีค่าหัวในการนำจับอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท
ยุทธการบันนังสตา
อ.บันนังสตา จ.ยะลา 22 มิถุนายน 2550 มีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การเปิดยุทธการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.2550 เป็นต้นมาโดยกำหนดใช้เวลา 3 วัน
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษก ทบ.และ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองบัญชาการพลเรือนตำรวจทหาร กอ.รมน. บอกว่า หลังจากเปิดยุทธการ เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.2550) ทางทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยและน่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุใน พื้นที่ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา จำนวน 34 คนในจำนวนนั้นเป็นคนระดับแกนนำที่เป็นระดับหัวหน้างานการปลุกระดมมวลชนหัวหน้างานกลุ่ม RKK ในจำนวนนี้มีน้องชายของนายมะแอ อภิบาลแบ ที่เป็นแกนนำคนสำคัญที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัวอยู่ในขณะนี้ด้วย
นอกจากนี้ในวันนี้ทางทหารยังได้ควบคุมตัวเพิ่มอีก 12 คน ทั้งหมดเชื่อว่าเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ก่อเหตุในพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ทั้งสิ้นและจะทำให้สถานการณ์ในพื้นที่ได้ลดความรุนแรงลงไปบ้าง ซึ่งผู้ที่ถูกจับกุมหากพบพยานหลักฐานที่ชัดเจน จะส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทันที ส่วนผู้ที่ยังไม่พบว่ามีหลักฐานที่ชัดเจนก็นำเข้าอบรมที่ศูนย์สมานฉันท์ ค่ายอิงคยุทธบริหาร และทำประวัติ พร้อมกับนำ ดีเอ็นเอ เก็บไว้ในการตรวจสอบต่อไป
จับยาเสพติดเฮโลอีน17กก.
กรุงเทพ 22มิ.ย.2550 พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส. พ.ต.อ.ชยพจน์ หาสุณหะ ผกก.2 บก.ปส.1 เข้าตรวจค้นห้องต้องสงสัย เลขที่ 4/11 ชั้น 1 แฟลต 4 การเคหะคลองจั่น แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. แต่ห้อง ถูกล็อกกุญแจ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดกุญแจเข้า ตรวจค้น พบกระสุนปืน 364 นัด 11 มม. อีก 6 นัด และ ปืนหน้าไม้ชนิดพับฐานใส่ลูกธนูเหล็ก 1 อัน ส่วนการตรวจ ครั้งนี้ สืบเนื่องจากชุดสืบสวน บช.ปส.ได้จับกุมนายอดัมส์ ดือเระ อายุ 31 ปี ได้ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ พร้อมรถแท็กซี่โตโยต้า ทะเบียน มจ 8847 กรุงเทพมหานคร ตามหมายจับของ สภ.อ.เชียงดาว ในข้อหาร่วมกันค้ายาเสพติดประเภทเฮโรอีนและฝิ่นนดิบ น้ำหนัก 17 กก. และ พ.ร.บ.อาวุธปืนของ สน.หัวหมาก นายอดัมส์เป็นหนึ่งในเครือ ข่ายนักค้ายาเสพติดในกลุ่มของนายธนากร หรือมาฮารู หรือบังดิง เจ๊ะอูมา ที่ถูก สภ.อ.เชียงดาวจับกุมได้ก่อน หน้านี้ อีกทั้งพฤติกรรมของนายอดัมส์เป็นหนึ่งในขบวน การค้ายาเสพติด ที่ลักลอบข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อติดต่อซื้อยาเสพติดส่งไปยังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย แถมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายอับดุลเลาะห์ ดือเระ 1 ใน 7 แกนนำโจรใต้ที่ถูกตำรวจ สภ.อ.เมืองยะลา จับกุม ส่วนห้องที่เข้าตรวจค้น นายอดัมส์อ้างว่าแฟนสาว เป็นผู้เช่า เพื่อให้เพื่อนชาย 2 คนพัก ส่วนกระสุนปืนนั้น เป็นของนายธนากร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตามล่าตัว 2 เพื่อนชายของนายอดัมส์มาสอบสวนต่อไป
ค้นสุไหงปาดีรวบ40แกนนำ
อ.สุไหงปาดีจังหวัดนราธิวาสเช้ามืด วันที่ 23 มิ.ย.2550 พ.อ. พีรพล วิริยากุล ผบ.ฉก.3 พ.ท.รุ่งโรจน์ อนันตโท ผบ.ฉก.31 พ.ต.ต.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง สว.กลุ่มงานสืบสวน หัวหน้า นปพ.2 บก.ภ.จ.นราธิวาส นำกำลังทหาร ตำรวจ ทหารพราน ตชด. และตำรวจ นปพ.จำนวน 400 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจค้นหมู่บ้านเป้าหมายจำนวน 30 แห่งที่ บ้านไอบาตู หมู่ 4 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่าหมู่บ้านดังกล่าวเป็นแหล่งซ่องสุมของกลุ่มผู้ก่อการร้ายและประกอบวัตถุระเบิด จับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นชายและหญิงรวม 40 คน พร้อมเลื่อยยนต์ 2 ตัว กางเกงสีเขียวลายพรางทหาร 1 ตัว และกล้องส่องทางไกลอีก 1 ตัว จึงคุมตัวส่งไปยังศูนย์วิวัฒน์สันติ จ.ปัตตานี สอบสวนขยายผลต่อไป
จับผู้ต้องสงสัย1คน
อ.เมืองยะลา 22 มิ.ย.2550 พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา รับแจ้งพบชายต้องสงสัย 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ป้วนเปี้ยนไปมาในย่านชุมชน จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ที่ถนนวิฑูรย์อุทิศ 12 ย่านตลาดเก่า ได้ผู้ต้องสงสัย 1 คน คือ นายสุชาติ เบ็ญสุหลง อายุ 38 ปี พร้อมปืน 11 มม. กระสุน 10 นัด และระเบิดสังหารเอ็ม 67 อีก 1 ลูก ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วงส่วนพวกอีก 3 คน หนีไปได้หวุดหวิด คุมตัวไว้สอบขยายผลต่อไป
ค้นศรีสาครรือเสาะ20จุดจับนักจัดรายการ
อ.ศรีสาครจ.นราธิวาส วันที่ 24 มิ.ย.2550เวลา05.00น. น.ท. บุญเกิด มูลกัน ผบ.ฉก.33 นำกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง 300 นาย จู่โจมเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 20 จุดในพื้นที่ ต.ซากอ อ.ศรีสาคร และ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 รายคือ นายสุภินันท์ เจ๊ะซิตะ อายุ 31 ปี นักจัดรายการประจำสถานีวิทยุร้อย ปจว. อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 1 บ้านซากอ ต.ซากอ ในคดียิง 2 ครูสาวโรงเรียนบ้านซากอ สอบสวนนายสุภินันท์ให้ การรับสารภาพว่าเป็นสมาชิกกลุ่มอาร์เคเคเป็นคนดูต้นทางและชี้เป้าให้คนร้ายบุกยิง 2 ครูเสียชีวิต ส่วนผู้ต้องสงสัยอีก 2 คน คือนายอับดุลอาซิก ยูโซ๊ะ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 240 หมู่ 10 บ้านบาเร๊ะ ต.รือเสาะ และนายมะสุกรี สามะยีแซ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 248/1 หมู่ 10 บ้านบาเดร๊ะ ต.รือเสาะ ทั้งคู่มีหมายจับคดีพัวพันลอบวางระเบิด คุมตัวสอบขยายผล
จับผู้ต้องสงสัยหนีไปอยู่สุราษฎร์8คน
อ.เมืองสุราษฎร์ธานี 26มิ.ย.2550 ตำรวจสุราษฎร์ธานีพร้อมด้วย นปพ. อีก 20 นายติดอาวุธครบมือ คุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุไม่สงบ ในพื้นที่ จ.นราธิวาสรวม 8 คนประกอบด้วย 1. นายมานะ บือราเฮง อายุ 39 ปี 2. นายฮัมดี บือราเฮง อายุ 19 ปี 3. นายอัมมัน มะลี อายุ 31 ปี 4. นายมุสเอมีน สามานะ อายุ 18 ปี 5. นายมะบุชี ตาเห อายุ 30 ปี 6. นายไซดี เวะโนะ อายุ 32 ปี 7. นายอานูวา มาบิมัง อายุ 23 ปี และ 8. นายวุฒิไกร แซ่ตัน อายุ 31 ปี พร้อมของกลางรถกระบะมิตซูบิชิ 2 ตอน 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน กค 1408 ปัตตานี และโทรศัพท์มือถืออีก 3 เครื่อง ส่งไปให้ทาง กอ.รมน.ภาค 4 จ.สงขลา สอบสวนขยายผล ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายฮัมดี บือราเฮง เป็นสมาชิกแนวร่วมกลุ่มอาร์เคเค โดยรถคันดังกล่าวเป็นพาหนะคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุยิงถล่มทหารเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ขับรถหลบหนีมาซ่อนตัวและซ่อมรถคันดังกล่าวใน อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี จนกระทั่งถูกจับกุม แต่ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ.
ตรวจค้นระแงะจับอีก5ราย
อ.ระแงะจ.นราธิวาสวันที่28 มิ.ย.2550 เวลา 05.00 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งนำโดย พ.ต.อ.มาโนช อนันต์ฤทธิกุล ผกก.สภ.อ.ระแงะ และ พ.ท.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.ฉก.38 ร่วมกันนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ต้องสงสัยตามกฎอัยการศึก โดยเข้าตรวจค้นจุดแรกที่บ้านลูโบ๊ะบือซา หมู่ 6 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มแนวร่วมเข้ามาเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมก่อเหตุจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการปิดล้อมตรวจค้นนานกว่า 6 ชั่วโมง และสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 5 ราย ขณะอยู่ภายในบ้านพักเลขที่ 67 หมู่ 6 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 5 รายไปบันทึกประวัติพร้อมกับตรวจ .ดี.เอ็น.เอ.ไว้เป็นหลักฐานที่หน่วย ฉก.38 และเตรียมส่งไปยังศูนย์ซักถามค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อทำการสอบสวนต่อไป ซึ่งหากไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุความไม่สงบก็จะปล่อยตัว กลับมาทันที
จับคนวางระเบิดหาดใหญ่ปี48และปี49
อ.หาดใหญ่จ.สงขลา วันที่28 มิ.ย.2550 เวลา 16.30 น.จากการสืบทราบของ พ.ต.ท.ศักดา เจริญกุล สว.สส.สภ.อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่ามีผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวตามหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ที่ ฉฉ 72/2550ลงวันที่ 1 มิ.ย.50 ที่ ศูนย์พิทักษ์สันติ ศปก.สน.เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.50 เป็นผู้ต้องหาที่มีหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาที่ 548/2550 ลงวันที่ 27 มิ.ย.50, หมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ 559/2550 ลงวันที่ 27 มิ.ย.2550 และหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ 564/2550 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2550 ในหลายข้อหาหนัก ประกอบด้วยข้อหา ร่วมกันพยายามก่อให้เกิดการระเบิด,พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและก่อการร้ายโดยการกระทำการใดให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของรัฐหรือรัฐใดหรือของบุคคลใดหรือต่อสิ่งแวดล้อมอันก่อให้เกิดหรือน่าจะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญโดยการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทยให้กระทำการใดอันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงหรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน
พ.ต.ท.ศักดา จึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนหาดใหญ่จำนวนหนึ่งเดินทางเข้าไปยัง ศปก.สน.ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมนำหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาทั้ง 3 หมาย เดินทางเข้าไปนำตัวผู้ต้องหา คือ นายอะหะหมะ ยูโซะ อายุ 34 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 35/1 หมู่ 1 บ้านกะเซะ ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ก่อนแจ้งข้อหาตามหมายจับทั้ง 3 หมายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวหานายอะหะหมะ ยูโซะ ว่า ร่วมกับพวกที่หลบหนีก่อเหตุลอบวางระเบิดในหลายจุดในเขตพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยวางระเบิดที่สนามบินหาดใหญ่, ห้างโรบินสัน และห้างคาร์ฟู เป็นต้นเมื่อประมาณปี 2548 และร่วมกับพวกลอบวางระเบิดอีก 6 จุดในเขตพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อประมาณ ปี 2549 โดยลอบวางระเบิดที่ห้างบิ๊กซี โรงแรงลีการ์เด้นพลาซ่า และที่ห้างไดอาน่า เป็นต้น หลังควบคุมตัวนายอะหะหมะ มาถึงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ก็ได้แจ้งข้อหาให้นายอะหะหมะ ทราบก่อนคุมตัวส่ง พ.ต.ท.สมพร ขัติยะ สวส.สภ.อ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีต่อไปเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
ยุทธการพิชิตบันนังสตารวบ25แกนนำ
อ.เมืองยะลา 28 มิ.ย.2550 พ.อ.ชินวัตร แม้นเดช ผบ.ฉก.1 ยะลา บอกว่า การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยระดับแกนนำกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ได้ 25 คน จากผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 130 คน ตามยุทธการกดดันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา และ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ในจำนวนแกนนำที่ควบคุมตัวได้นั้น ส่วนใหญ่เป็นแกนนำฝ่ายการเมืองระดับสูงที่มีหน้าที่สั่งการมวลชนในพื้นที่ หรือเทียบเท่าระดับนายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ตามโครงสร้างการจัดตั้งองค์กรมวลชนของขบวนการบีอาร์เอ็น-โคออร์ดิเน็ต ที่วางทับซ้อนการจัดตั้งการปกครองของรัฐไทย โดยรูปแบบการต่อสู้ของกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบ คือ การสร้าง "สงครามกองโจรในองค์กรมวลชน" ดังนั้น การควบคุมตัวแกนนำฝ่ายการเมืองได้ถึง 25 คน หรือเฉลี่ย 1 ใน 5 คนที่ควบคุมตัวได้ จะเป็นระดับหัวหน้า 1 คน ที่ควบคุมมวลชน ซึ่งเท่ากับขณะนี้รัฐสามารถทลายฐานที่มั่นและยึดครองฐานของกลุ่มติดอาวุธได้แล้ว ขณะที่หน่วยอาร์เคเค หรือกองกำลังติดอาวุธที่เป็นระดับคอมมานโด สามารถหลบหนีไปได้ แต่เจ้าหน้าที่ได้ติดตามอย่างกระชั้นชิดแล้ว รัฐเข้ายึดฐานที่มั่นของฝ่ายกองกำลังติดอาวุธได้ เท่ากับสามารถกดดันไม่ให้หน่วยอาร์เคเคเข้ามายึดชุมชนเป็นฐานหลบซ่อนตัวได้ ดังนั้น โอกาสที่จะก่อเหตุในลักษณะลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ หรือลอบยิงผู้บริสุทธิ์มีน้อยลง"
ผู้ว่าฯยะลาเข้มบันนังสตา
อ.เมืองยะลาวันที่ 28 มิ.ย.50 นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าฯ ยะลา บอกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลังเปิดแผนยุทธการกดดันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.บันนังสตา ตลอด 5 วันที่ผ่านมา จนสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบได้จำนวนมาก กระทั่งนำมาสู่ข้อกังวลที่ว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่สามารถหลบหนีไปจากการกวาดล้างในครั้งนี้ จะกลับเข้ามาก่อเหตุครั้งใหญ่ในพื้นที่ ในเรื่องนี้ขอยืนยันว่า ทางจังหวัดได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลัง เพื่อเตรียมแผนการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ อ.บันนังสตา ไว้อย่างเข้มงวดและรัดกุมแล้ว โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยให้แก่ราษฎรในเส้นทางหลัก "เป็นที่แน่นอนว่า หลังจากเราใช้มาตรการเชิงรุกด้วยการออกกวาดล้างจับกุมกลุ่มแนวร่วมแล้ว เขาเองก็ต้องเกิดความแค้น และต้องออกมาตอบโต้ด้วยการก่อเหตุที่รุนแรง แต่ผมไม่อยากให้พี่น้องประชาชนเกิดความหวาดกลัวและหวาดผวาตามคำขู่ หรือความกลัวที่ถูกกดดันจากฝ่ายตรงข้าม ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้ทางอำเภอเข้าไปปลอบขวัญและให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ เพื่อต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ราษฎร และเชื่อว่าหลังจากนี้ไปชาวบันนังสตาคงจะให้ความร่วมมือต่อภาครัฐมากขึ้น"
ค้นสุไหงปาดีตามแผนพิทักษ์ปาดี
อ.สุไหงปาดีจ.นราธิวาส วันที่29 มิ.ย.2550 เวลา 04.00น.พ.ท.รุ่งโรจน์ อนันตโท ผบ.ฉก.31 พ.ต.ต.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง สว.นปพ.2 บก.ภ.จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจ ทหาร จำนวน 300 นาย เข้าตรวจค้นหมู่บ้านเป้าหมายตามแผนยุทธการพิทักษ์ปาดี บ้านกาวะ หมู่ 2 ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พบตัวผู้ต้องสงสัย จำนวน 41 คน และของกลางเช่นปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ปืนปากกาขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก ปืนแก๊ป 1 กระบอก กล้องติดปืน 1 อัน เลื่อยยนต์ 2 เครื่อง ถังแก๊ส 1 ลูก ชุดลายพราง 1 ชุดเวชภัณฑ์ชุดสนามจำนวนมาก กระบอกไม้ไผ่สำหรับตีบอกสัญญาณ 1 ตัว มีดพร้าจำนวนมาก และหนังสือปลุกระดม 1 เล่ม จึงคุมตัวผู้ต้องสงสัยพร้อมด้วยของกลางไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า ผู้ต้องสงสัยจำนวน 6 คน คือ 1.นางปาตีเมาะ วาฮะ 2.นายกอเดร์ การียา 3.นายเจ๊ะซอเฮาะ มะแอ 4.นายนัสวี หะยีดือเระ 5.นายยูฮา ยา และ 6 นายสิดิ เจ๊ะอารง มีสารประกอบวัตถุระเบิดปนเปื้อน และนายมะนาวี บินสาอิ อยู่บ้านเลขที่ 233 บ้านกาวะ หมู่ 2 ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี มีหนังสือขบวนการปลดแอกสาธารณรัฐปัตตานี จำนวน 1 เล่ม ภายหลังตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์และทำประวัติแล้วจะส่งตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 41 คน ส่งศูนย์วิวัฒน์สันติ กองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า จ.ปัตตานี สำหรับการตรวจค้นตามแผนยุทธการพิทักษ์ปาดี ได้ทำการตรวจค้นมาเมื่อวันที่ 23-25-27 มิ.ย.2550 สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยไปแล้ว จำนวน 75 คน และวันที่ 29 มิ.ย.2550 อีก จำนวน 41 คน รวม 116 คน
บทสรุป
การตรวจค้นจับกุมแกนนำได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจัง โดยใช้แผนยุทธการบันนังสตา แผนพิทักปาดี โดยทั้งสองพื้นที่เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นที่ซ่องสุมของผู้ก่อความไม่สงบ ที่อยู่ในระดับแกนนำ และใช้ความรุนแรง นอกจากพื้นที่ทั้งสองนี้ยังคงมีพื้นที่สีแดงที่ทางการเข้าตรวจค้นจับกุมอยู่คือ อำเภอระแงะ อำเภอรือเสาะ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส และนอกจากนี้ยังมีพื้นที่ อำเภอเมืองยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมาย ที่ทางการได้เข้าตรวจค้นจนสามารถได้ของกลางเป็นจำนวนมากที่ อาวุธปืนสงคราม กระสุนปืน ชุดลายพรางทหาร อุปกรณ์การทำระเบิด ฯลฯ และเชื่อว่าเหตุการณ์รุนแรงโดยเฉพาะการระเบิดจะลดลงเนื่องจาก ถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก แต่เหตุการณ์รายวันอาจจะเพิ่มขึ้น โดยโจรก่อการร้ายจะหันไปสังหารผู้บริสุทธิ์เพื่อเป็นการล้างแค้นแทน การยุติปัญหาภาคใต้ยังคงดำเนินต่อไปอีกนาน ถ้าไม่มีการเจรจาหาทางพูดคุยกัน จึงจะแก้ไขปัญหาได้ เหมือนอย่างเช่น อาเจะ เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย
 | 
หน้าแรก
สถิติวันนี้ 
สถิติเดือนนี้ 
สถิติปีนี้