|
ม็อบตากใบ ตอน เอาคืน
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าว 8 ว. สขร.สปข.6
28 ตุลาคม 47
หลังเกิดเหตุการณ์ชุมนุมที่ หน้า สภ.อ.ตากใบ กลุ่มผู้ก่อการก็เริ่มออกปฏิบัติการฆ่าคนรายวัน ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองในพื้นที่แจ้งเตือนว่า แกนนำที่เป็นครูสอนศาสนาบางคน ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน ได้สั่งการให้แนวร่วมทั้งหมดใน 5 จังหวัด ชายแดนภาคใต้คือ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และ จ.สตูล ออกปฏิบัติการลอบสังหารเจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชนในกลุ่มเป้าหมายคือพ่อค้า นักธุรกิจ และชาวมุสลิมที่เป็นสายข่าวให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อเป็นการแก้แค้นที่มีชาวมุสลิมเสียชีวิต และถูกจับนับพันคนจากเหตุจลาจลที่ สภ.อ.ตากใบ
เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 28 ต.ค. 47 พ.ต.ต. ชัยวัฒน์ ปานบุญทอง สวส.สภ.อ. จะนะ จ.สงขลา รับแจ้งมีเหตุยิงกันหน้าที่ว่าการอำเภอจะนะ ริมถนนราษฎร์บำรุง จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ. ชนินทร์ ศิริทัศนกุล ผกก. และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบเพียงกองเลือดที่ริมถนน ข้างรถเข็นขายข้าวต้ม ส่วนคนเจ็บคือ ด.ต.สัมพันธ์ เฟื่องระย้า อายุ 57 ปี อดีตตำรวจ สภ.อ.จะนะ ซึ่งลาออกก่อนเกษียณอายุราชการมาขายข้าวต้ม ถูกยิงด้วยปืนอาก้าเข้าที่ตะโพกขวา 1 นัด ถูก นำส่ง รพ.จะนะ แล้วย้ายไปรักษาตัวต่อที่ รพ. สงขลานครินทร์หาดใหญ่
สอบสวนทราบว่า ขณะ ด.ต.สัมพันธ์ กำลังเตรียมข้าวของขายข้าวต้ม ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คนสวมชุดดาวะห์ ขี่รถ จักรยานยนต์ ซูซูกิ ผ่านมา โดยคนซ้อนท้ายเอาปืนอาก้าที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อคลุมออกมายิงใส่ 4 นัด แต่กระสุนเข้าเป้าแค่ 1 นัด แล้วหลบหนีไป ต่อมาตำรวจรับแจ้งจากนายกอเดย์ โส๊ะสมาน อายุ 32 ปี รปภ.รพ.จะนะ ว่าคนร้ายชุดเดียวกัน ได้ขี่รถใช้ปืนอาก้ายิงเข้าใส่ป้อมยามหน้า รพ. 2 นัด แล้วหลบหนีไป แต่โชคดีที่หลบทันจึงไม่ตกเป็นเหยื่อกระสุน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นแนวร่วม ขจก. ในพื้นที่ ต้องการฆ่าเจ้าหน้าที่ล้างแค้น และสร้างสถานการณ์ ที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 28 ต.ค.47 พ.ต.ท.สมชาย พนมอุปการ สวส. สภ.อ.เมืองนราธิวาส พร้อมหน่วยเก็บกู้ระเบิดจาก นปพ. จังหวัด เข้าไปตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยเป็น กล่องกระดาษบรรจุโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง ที่ถูกวางทิ้งอยู่บนบริเวณแผงขายอาหารในตลาดสด หน้าโรงเรียนเทศบาล 5 ติดกับวัดประชาภิรมย์ อ.เมือง ที่เกิดเหตุพบกล่องดังกล่าว ถูกวางอยู่ใต้โต๊ะอาหารของแผง พ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก สว.นปพ. หน.ชุดเก็บกู้ จึงยกนำมาวางไว้ที่พื้นแล้วกันชาวบ้านออกไป พร้อมเอายางรถยนต์ครอบไว้ และทำลายด้วยปืนฉีดน้ำแรงดันสูง กระทั่งพบว่าภายในซุกซ่อนกล่องทับเปอร์แวร์ ทำเป็นระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก 10 กก. ภายในประกอบด้วยไดนาไมต์ ปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรท ตะปู ลูกปราย เศษลวดและเศษเหล็ก ตั้งเวลาด้วยนาฬิกาปลุกไว้ที่เวลา 07.15 น. จึงเก็บกู้จนสำเร็จก่อนระเบิดจะทำงานเพียง 9 นาที
จากการสอบสวนนางฉลวย โชติกาญจน์ อายุ 40 ปี เจ้าของแผงขายอาหาร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีวัยรุ่นชาย 2 คนขี่รถ จักรยายนต์ยี่ห้อ ซูซูกิ นำกล่องมาวางไว้ใต้ โต๊ะ พอยกดูเห็นหนัก ๆ เลยรีบแจ้งตำรวจเพราะกลัวว่าจะเป็นระเบิด เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าคนร้ายคงเป็นแนวร่วมในพื้นที่ เอาระเบิดมาวางไว้เพื่อต้องการสังหารหมู่ เนื่องจากทุกวันเวลา 07.00 น. จะมีชาวบ้านจำนวนมาก มาซื้ออาหารใส่บาตรพระสงฆ์ โดยระเบิดที่พบมีอานุภาพทำลายล้างสูงกินรัศมีถึง 50 เมตร สามารถทำให้ผู้ที่อยู่ในรัศมีเสียชีวิตได้ทันที รวมทั้งสามารถถล่มตลาดให้พังพินาศได้สบาย ๆ แต่โชคดีที่มีผู้มาพบเข้าและเจ้าหน้าที่เก็บกู้สำเร็จ จึงไม่เกิดเหตุสลดขึ้น
ขณะที่ใน อ.ตากใบ มีบุคคลลึกลับจำนวนมาก โทรศัพท์ไปขู่วางระเบิดไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ตั้งแต่กลางดึกวันที่ 27 ต.ค. จนถึงขณะนี้ ทำให้ตำรวจ สภ.อ.ตากใบ ต้องออกตรวจสอบกันวุ่นวายไปหมดเพื่อป้องกันไว้ก่อน
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ต.เนติวุธ ดีแก้ว ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายบนถนนในหมู่บ้านละหาร หมู่ 8 ต.ปะลุรู อ.สุไหง ปาดี จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมกำลัง พบศพนายสุรศักดิ์ บัวเกิด อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230/2 หมู่ 6 บ้านตาเซ๊ะใต้ ต.ปะลุรู นอนตายจมกองเลือดอยู่ข้างรถ จักรยานยนต์ ของตัวเอง ถูกยิงด้วยปืน 11 มม. เข้าที่หน้าอก และลำตัว รวม 4 นัด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนตกอยู่ 4 ปลอก สอบสวนทราบว่า ขณะผู้ตายขี่รถออกจากบ้านได้เพียง กม.เศษ ๆ เพื่อจะไปทำธุระที่ตลาดสุไหงปาดี ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คนขี่รถ จักรยานยนต์ ตามประกบยิงจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป
ส่วนที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 28 ต.ค.47 พ.ต.อ.ชอบ คิสาลัง ผกก. สภ.อ.ทุ่งยาง แดง รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันบริเวณสามแยก สภ.อ. ทุ่งยางแดง หมู่ 1 ต.ตะโละแมะนา ห่างจาก สภ.อ. ทุ่งยางแดง ประมาณ 500 เมตร นำกำลังไปตรวจสอบ พบร่าง จ.ส.ต.สำราญ สังฆบุญญา ผบ.หมู่ ป.สภ.อ.ทุ่งยางแดง ถูกยิงด้วยปืนขนาด .38 เข้าที่ แก้มขวาทะลุซ้าย 1 นัด นอนหมดสติอยู่กลางถนน อาการสาหัส จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ทุ่งยางแดง เพื่อรักษาเบื้องต้นแล้วส่งต่อไปยัง รพ.ปัตตานี สอบ สวนทราบว่าขณะที่กำลังขี่รถ จักรยานยนต์ จะไปเข้าเวรที่ โรงพัก ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถ จักรยานยนต์ ฮอนด้า รุ่นดรีม ตามประกบยิงแล้วหลบหนีไป
ต่อมาตำรวจสกัดจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 2 คน คือ นายซายภู สะมะแอ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/2 หมู่ 4 ต.เจะรอ อ.รามัน จ.ยะลา และนายอาฮาหมัดดอตาพี สะและ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/1 ม.4 ต.ไม้แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี พร้อมปืนขนาด .38 และกระสุนในรังเพลิง 4 นัด และปลอกกระสุน 1 ปลอก ขณะขี่รถ จักรยานยนต์ ผ่าน มาบนถนนสายเขาตูม หมู่ 4 บ้านตะโละนิบา ต.ตะโละแมะนา ต่อมา พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.ธนเจริญ สุวรรณโณ ผบก. ภ.จ.ปัตตานี พล.ต.ท.วงกต มณีรินทร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมชุดกองปราบฯได้เดินทางมาสอบสวน
เบื้องต้นมีรายงานว่าผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพว่า นายซายภู เป็นมือปืนยิง จ.ส.ต.สำราญ ส่วน นายอาฮาหมัดดอตาพี เป็นคนขับรถ จักรยานยนต์ ต่อมา ตำรวจนำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพักของนาย อับดุลซัดดา หะยีอารี ครูสอนศาสนา ที่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 3 บ้านเขาดิน ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง ซึ่งทั้งคู่อ้างว่าพักอาศัยอยู่ และซัดทอดว่ามีส่วนเกี่ยว ข้อง แต่ไม่พบหลักฐานใด ๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบ นอกจากนี้ได้นำตัวนายอับดุลซัดดา ไปสอบสวนด้วย.
ทางด้านบรรยากาศที่หน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 07.00 น. วันเดียวกัน ยังคงมีผู้ปกครองและญาติของกลุ่ม ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนทยอยมาสอบถามและตรวจสอบรายชื่อผู้สูญหาย เนื่องจากว่ายังมีผู้สูญหายอีกจำนวนมากที่ไม่ปรากฏรายชื่อตามที่ประกาศไว้ ส่วนศพของผู้เสียชีวิตยังมีเหลืออยู่อีก 30 ราย ซึ่งญาติทยอยมายืนยันขอรับศพกลับไปอีกกว่า 10 ราย ท่ามกลางบรรยากาศอันเศร้าสลดของผู้สูญเสีย มีการกอดร้องไห้กันหลายราย
ส่วนผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวไว้นั้น ถูกคัดแยกเป็นรายอำเภอและจังหวัด เพื่อเคลื่อนย้ายออกจากค่ายอิงคยุทธบริหาร ไปควบคุมตัวต่อที่ค่ายต่าง ๆ ดังนี้ ที่มณฑลทหารบกที่ 42 อ.หาด ใหญ่ จ.สงขลา 220 คน มณฑลทหารบกที่ 41 อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 218 คน จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 190 คน จังหวัดทหารบกชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร 192 คน จังหวัดทหารบกทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช 226 คน และจังหวัดทหารบกปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี 254 คน รวมทั้งสิ้น 1,298 คน ทั้งนี้เพื่อลดความแออัด และเนื่องจากเกรงว่า จะมีกลุ่ม ขจก. และแนวร่วม รวมทั้งมือที่สามปลุกระดมบรรดาญาติพี่น้อง มาประท้วงเรียกร้องให้ทางการ ปล่อยตัว จนเกิดเหตุบานปลายและเหตุรุนแรงอีก โดยทยอยนำขึ้นรถบัสกว่า 20 คัน เดินทางไปตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 28 ต.ค. นี้ ท่ามกลางกำลังทหารคุ้มกัน
พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผบช.ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ประสานงานทำเนียบรัฐบาล เดินทางไปช่วยชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนที่เดินทางมาจาก จ.นราธิวาส กว่า 500 คน ที่ด้านหน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร ก่อนเปิดเผยว่า เห็นใจกับสภาพของผู้ก่อเหตุที่อยู่กันอย่างแออัด และไม่ได้รับความสะดวกในเรื่องของการปฏิบัติศาสนกิจและภารกิจส่วนตัว ทางกองทัพจึงต้องกระจายให้ไปอยู่ในหลาย ๆ พื้นที่เพื่อลดความแออัดและง่ายต่อการสอบสวน ในขณะเดียวกันหากบุคคลใดที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จะปล่อยตัวไปในอีก 1-2 วันนี้ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก็จะควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 28 ต.ค.47 นาย ดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี นายอับดุลเราะมัน อับดุลสะมัด ประ ธานกรรมการอิสลาม จ.นราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาที่บริเวณค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อจัดการเรื่องศพไม่มีญาติจำนวน 24 ศพ ซึ่งส่วนใหญ่สภาพบวมคล้ำ โดยทางกองทัพภาคที่ 4 จะเคลื่อนย้ายไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่กุโบกลาง อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ในเวลา 15.00 น.
นายอับดุลเราะมัน กล่าวถึงการเสียชีวิตชองผู้ชุมนุมว่า รู้สึกเสียใจ และสลดใจที่สุด ในฐานะที่เป็นผู้แทนของคณะกรรมการอิสลามประจำ จังหวัด ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ รวมทั้งผู้ถูกควบคุมตัวทุกคน ซึ่งขอไม่วิพากษ์วิจารณ์และไม่ขอแสดงความเห็นในช่วงนี้ โดยหลังจากที่จัดการเรื่องศพเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการอิสลามประจำ 3 จังหวัดชาย แดนภาคใต้จะประชุมหารือร่วมกับสำนักจุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเพื่อกำหนดแนวทางต่อไป
นายศิวะ แสงมณี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองผู้อำนวยการกองเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) และประธานคณะทำงานศึกษาข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์ที่ สภ.อ.ตากใบ เปิดเผยว่า คณะทำงานศึกษาข้อเท็จจริงฯ เริ่มทำงานมาตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. เพื่อติดตามปัญหาและสาเหตุของการชุมนุมดังกล่าว รวมถึงการเสียชีวิตว่าเกิดจากสิ่งใด มีอะไรบกพร่อง และมีสิ่งใดต้องปรับปรุง เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ครั้งต่อไป จะได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง และไม่มีปัญหา โดยขณะนี้มีการประชุมคณะทำงานฯ ไปบ้างแล้ว ส่วนขั้นตอนการศึกษาจะต้องเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในที่เกิดเหตุมาให้ข้อมูล โดยได้เชิญบางส่วนมาให้ข้อมูลแล้ว หลังจากที่ได้ศึกษาข้อเท็จจริงทั้งหมดจะเสนอ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ รอง ผบ.ทหารสูงสุด ในฐานะ ผอ.กอ.สสส.จชต. คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์นี้
มีรายงานว่าคณะทำงานฯ ได้เชิญทหารที่ทำหน้าที่ขับรถยีเอ็มซี และทำหน้าที่ควบคุมผู้ชุมนุม ที่ถูกจับกุมเดินทางมายังค่ายอิงคยุทธบริหาร แล้ว 5-10 นาย แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด
888888888888888888
| 
หน้าแรก
สถิติวันนี้ 
สถิติเดือนนี้ 
สถิติปีนี้