แถลงข่าวจับ นายมะนาเซ เจ๊ะเลาะ
โดยณรงค์ ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าว 8ว.
8 ธ.ค.48

แถลงข่าวการจับนาย มะนาเซ เจ๊ะเลาะ
วันที่ 8 ธ.ค.48 เวลา 11.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เดินทางไปแถลงข่าวผลการจับกุม นายมะนาเซ หรือชาการิม เจ๊ะเลาะ ผู้ ต้องหาคนสำคัญในคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ เป็นแกนนำของขบวนการพูโล หลังจากที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2548 ที่
พรมแดนไทย-มาเลเซียบ้านด่านนอก ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา หลังจากใน
ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาไว้ที่ ศาลากลาง จ.สงขลา

พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว. มหาดไทย บอกว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า นายมะนาเซ ถูกออก หมายจับของศาล จ.ปัตตานี 2 คดี คือ หมายจับที่ จ.11/2545 ลงวันที่ 1 พ.ย.2545 ข้อหา ร่วมกับพวกใช้อาวุธปืนยิง นายรอมือลี ลือแม็ง สารวัตรกำนัน ต.ตะโล๊ะแมะนา อ.ทุ่งยาง แดง จ.ปัตตานี ถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2537 และหมายจับที่ จ.178/2545 ลงวัน ที่ 26 ธ.ค. 2545 ข้อหาร่วมกับพวกใช้อาวุธสงคราม (อาก้า)ยิงนายสุรศักดิ์ นิยมวิทยา
นนท์ ถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2545 ในพื้นที่ ต.ปิตูมุดี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

นายมะนาเซเป็นแกนนำพูโลใหม่
พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว. มหาดไทย ระบุว่า นายมะนาเซะ เจ๊ะเลาะ ให้การรับสารภาพว่าเคยเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย สังกัด กลุ่มของ นายมะดาโอะ หรือหะยีดาโอะ ท่าน้ำ ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มขบวนการพูโลใหม่ และขณะนี้เป็นจำเลยในความผิดคดีเกี่ยวกับความมั่นคง และอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ศาล " ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายมะนาเซ ดำเนินคดีอาญาใน 2 ข้อหาคือกรณีที่ ถูกออกหมายจับ 2 คดีในพื้นที่ จ.ปัตตานี เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีหลักฐานชัดเจน ส่วนข้อหา อื่น ๆ โดยเฉพาะที่เป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงนั้นยังไม่แจ้งเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ชุดสอบ สวนจะทำการสอบสวนขยายผล อีกครั้งหนึ่งว่า มีส่วนพัวพันกับการก่อเหตุความไม่สงบใน พื้นที่ใดบ้าง และหากพบว่ามีหลักฐานชัดเจนก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามมาในภายหลัง "

ประวัตินายมะนาเซ
พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว. มหาดไทย บอกอีกว่า สำหรับประวัติของ นายมะนาเซ นั้นถูกขึ้นบัญชีดำว่าเป็นแกนนำคน สำคัญของกลุ่มก่อการร้ายระดับรองหัวหน้า และเป็นผู้ที่วางแผนและรับผิดชอบการฝึกหน่วย ปฏิบัติการรบทั้งหมด ให้กับกลุ่มแนวร่วม เคยผ่านการฝึกอบรมทางทหารมาจากประเทศใน แถบตะวันออกกลาง รวมทั้งได้ออกปฏิบัติการมาอย่างโชกโชนทั้งเรียกค่าคุ้มครอง และ การล่าสังหาร จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้มีค่าหัวสูง อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับค่าหัวของ นายมะนาเซ นั้นมีค่าหัวเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้นไม่ใช้ 3 ล้านบาทตามที่เข้าใจกัน

การจับกุมเป็นฝีมือตำรวจไทย
สำหรับการจับกุม นายมะนาเซ ในครั้งนี้ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เป็นผลงานของตำรวจ
ฝ่ายไทยไม่เกี่ยวกับมาเลเซีย ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ รอง ผบ.
ตร.(ปป.) และคณะทำงานสืบสวนจับกุมคดีความมั่นคงตามที่ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.
ตร.ได้ตั้งขึ้นโดยมี พล.ต.ท.ชลอ ชูวงษ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 2 ) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน
เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยมีข้อมูลและมีคณะทำงานของเราเองและก่อนที่จะจับกุม
เจ้าหน้าที่ทราบความเคลื่อนไหวของ นายมะนาเซ มาตลอดว่าเดินทางเข้าออกระหว่างไทย
มาเลเซียเป็นระยะ ก่อนที่จะวางแผนจับกุมได้ในที่สุด โดยเชื่อว่าผลการจับกุม นายมะนา
เซจะนำไปสู่กับจับกุมแกนนำผู้ก่อความไม่สงบได้อีกหลายคน

ภายหลังการแถลงข่าวซึ่งไม่มีการนำตัว นายมะนาเซ มานั่งร่วมแถลงแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่
ได้ควบคุม นายมะนาเซ เดินทางออกจากศาลากลางจ.สงขลา เพื่อนำตัวไปมอบให้กับ
พนักงานสอบสวน สภ.อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ทันที เพื่อดำเนินคดีในข้อหาที่ถูกออก
หมายจับท่ามกลางเจ้าหน้าที่คุ้มกันอย่างใกล้ชิดตลอดเส้นทาง