เมื่อถูกถามว่า คนที่จะมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ในขณะนี้ได้ต้องเป็นนายทหารรบพิเศษเท่านั้นใช่หรือไม่ พลเอก สนธิ กล่าวว่า คงไม่ใช่ คุณสมบัติต้องประกอบหลายอย่าง อย่างหนึ่งอย่างใดคงไม่พอ ที่สำคัญคือการเรียนเรื่องการจัดตั้งมา มีความรู้ในด้านนี้ ถือว่าขณะนี้มีความสำคัญ

"และยังต้องขึ้นอยู่กับเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคลด้วย คนเรา leadership อยู่ในตัวของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ความจริงใครมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้ แต่ขอให้มีความเป็น leadership" แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ต้องรอคำสั่งโปรดเกล้าฯออกมาก่อนว่า ใครจะเป็นแม่ทัพภาค4 คนใหม่ โดยมีรายงานว่า มีการพิจารณาระหว่าง พลตรี องค์กร ทองประสม นายทหารรบพิเศษ กับ พลตรี พิเชษฐ์ วิสัยจร รองแม่ทัพภาค4 นายทหารเหล่าราบ ที่ทำงานด้านพัฒนา

พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบกล่าวถึงการเข้ามอบตัวของแกนนำและแนวร่วมในขณะนี้ว่า ยุทธวิธีของเราคือการเข้าไปประกบพื้นที่และประชาชนอย่างใกล้ชิด ทำให้การเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบ และผู้สนับสนุนถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมอยู่ ประชาชนที่เคยว้าเหว่เพราะอยู่ไกล เราก็เข้าไปอยู่ใกล้ขึ้น ดังนั้น ความเชื่อมั่นของประชาชนมากขึ้น จึงให้ข้อมูลมากขึ้น ในเรื่องความสัมพันธ์ของ แนวร่วม กองกำลัง และประชาชน กำลังถูกกดดันไปพร้อมๆ กัน ตรงนี้คือความสำเร็จของการทำงาน ขบวนการผู้ก่อความไม่สงบที่กระจัดกระจายอยู่ก็จะเริ่มหาทิศทางในการปฏิบัติให้ได้ ก็เลยหาหนทางเข้ามามอบตัวมากขึ้น ยืนยันว่าระยะเวลาข้างหน้า จะมีการมอบตัวเป็นจำนวนมาก

สำหรับแนวทางของ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ที่จะออกกฎหมายการรับสารภาพเพื่อการลดโทษนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ถือว่าเป็นการสนับสนุนแนวทางในการให้ผู้ก่อความไม่สงบมามอบตัวมากขึ้น ซึ่งเห็นด้วยที่จะเร่งดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เหมือนในอดีต และ ปัจจุบันในคดีต่างๆ ที่มีการนิรโทษกรรม ก็จะทำให้คนมอบตัวมากขึ้น

ผบ.ทบ. กล่าวถึง การที่มาเลเซียให้ความร่วมมือในการจับแกนนำก่อความไม่สงบคนสำคัญ ว่า กำลังให้ กองทัพบก และ กอ.สสส.จชต. รายงานให้ทราบอยู่ ตนไม่แน่ใจในรายละเอียด ต้องรอให้รายงานขึ้นมาก่อน ส่วนที่มองกันว่าประเทศมาเลเซียให้ความร่วมมือกับไทยมากขึ้นนั้น ตนเชื่อว่า เรื่องการเมืองระหว่างประเทศมีความละเอียดอ่อน การเป็นเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน ต้องมีความเอื้ออาทรและมีความจริงใจต่อกัน ตรงนี้ถือเป็นส่วนที่มาเลเซียแสดงออกถึงความจริงใจ คิดว่าเป็นมิติที่ดี หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีโอกาสได้พูดคุยกับ ดร. มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ถือเป็นสิ่งที่เป็นตามที่มุ่งหวัง

พล.อ.สนธิ กล่าวถึงการเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ตนไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องพวกนี้เท่าใดนัก ถ้าเราคุมพื้นที่ได้หมด รับรองได้ว่าการปฏิบัติของผู้ก่อความไม่สงบไม่ง่ายนัก โดยเฉพาะในเมืองได้จัดกำลังรูปแบบใหม่เข้าไปอีก จึงไม่ห่วงมากนัก

"แต่ในภาพรวมของขบวนการ ถึงแม้นแนวความคิดจะเริ่มเปลี่ยน แต่ยังมีองค์กรที่ยังแน่นอยู่ การก่อเหตุรายวันยังมีบ้าง จากนี้จึงต้องศึกษาให้ท่องแท้ว่าเหตุการณ์ก่อความไม่สงบที่จะต่อจากนี้เป็นเรื่องของขบวนการ หรือการทำร้ายแบบสามัญธรรมดา แต่ส่วนหนึ่งเราก็มองว่าเป็นการกระทำกันระหว่างขบวนการกันเอง หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาเขาก็จะใช้วิธีนี้เพื่อจะได้คุมคนให้ได้อยู่"