www.narongthai.com  

www.narongthai.com เป็นเว็บไซต์เชิงวิชาการ ที่สามารถนำอ้างอิงได้ตามหลักวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                           
 

 ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
https://www.facebook.com/profile.php?id=100010475651732
สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 สถิติวันนี้ 4 คน
 สถิติเมื่อวาน 45 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
2530 คน
52317 คน
1744761 คน
เริ่มเมื่อ 2010-01-13

 

ลอบเผา 329 จุด มากที่สุดเท่าที่โจรใต้เคยทำ
เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 10 มิถุนายน 2548


นักเรียนนํ้าตาร่วง'เผาร.ร.หนูทำไม'

กองทัพบก ชี้โจรใต้อาละวาดป่วนหนักเน้นปริมาณ หวัง "โอไอซี" ดึงปัญหาเข้าหารือในที่ประชุม ปรับกลยุทธ์สั่งทหารในพื้นที่แต่งนอกเครื่องแบบ สร้างความกลมกลืนกับชาวบ้าน พรางตัวลดตกเป็นเป้าสังหาร "ปัตตานี" ลุกเป็นไฟโจร! โจรใต้อาละวาดหนัก เย้ยรัฐบาลท้าทายกฎหมาย คืนเดียวลอบวางเพลิง 7 อำเภอ 30 จุด เผาโรงเรียน-ศาลา-บ้านพักตำรวจ-ตู้โทรศัพท์วอด ผู้ว่าฯ เต้นฉุกจัดถูกลูบคมแค่ 2 วัน ป่วนเมือง 329 จุด สั่งจัดการแนวร่วมอหังการขั้นเด็ดขาด นร.น้ำตาร่วงไร้ห้องเรียนต้องหยุด ถาม "เผาโรงเรียนหนูทำไม" ครูปัตตานีขอย้ายหนีตายกว่าพันคน "นราฯ" เดือด ลอบวางระเบิด 3 จุดกะหมู่ตำรวจ โชคดีเก็บกู้ทัน แต่ไม่วายซัลโวหนุ่มหาของป่าดับคาถนน "ชิดชัย" ล่องใต้ครั้งแรก ประชุมบิ๊กพื้นที่ มั่นใจไฟใต้ดีขึ้น

ดักซัลโวหนุ่มหาของป่าดับ
กลุ่มโจรใต้และแนวร่วม ยังอาละวาดป่วนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท้าทายรัฐบาลเย้ยกฎหมายบ้านเมืองไม่ยอมหยุด โดยเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 9 มิ.ย.48 ร.ต.ต.ภัทรกร ศรีบุรินทร์ ร้อยเวร สภ.อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุยิงกันตาย บนถนนทางเข้าหมู่บ้านลูโบ๊ะยือริง หมู่ 5 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สราวุฒิ เนตสว่าง ผกก. และกำลังตำรวจ-ทหาร ที่เกิดเหตุพบศพนายมิ่ง สุทธิชัย อายุ 17 ปี ชาวบ้านแหลมนก อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี นอนเสียชีวิตอยู่บนถนน ข้างรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีบรอนซ์ดำ ป้ายแดง 122 ปัตตานี ของตัวเอง และมีเป้อุปกรณ์หาของป่าและเสื้อผ้าหล่นกองอยู่ สภาพศพถูกยิงด้วยปืนลูกซอง 5 นัด เข้าที่ท้ายทอยและกลางหลัง

ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ นายสิทธิชัย ธรรมสูตร เพื่อนผู้ตายวิ่งหน้าตาตื่นออกจากป่าริมถนนมาขอความช่วยเหลือ พร้อมให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพากันขี่รถจยย. เพื่อไปหาญาติและไปหาของป่าที่ ต.ศรีบรรพต ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน ซุ่มอยู่ในป่าข้างทางวิ่งออกมาดักหน้าและใช้ปืนยิงเข้าใส่ถูกนายมิ่งเสียชีวิต ส่วน ตนวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปซ่อนตัวในป่า กระทั่งเจ้าหน้าที่มาถึงจึงออกมาจากที่ซ่อน เบื้องต้นตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือแนวร่วมโจรใต้มาดักฆ่าผู้บริสุทธิ์ หรือไม่ก็เข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่เป็นเจ้าหน้าที่

ซุกบึ้มใต้ท้องรถหน้าโรงพัก
ต่อมาเวลา 08.30 น. วันที่ 9 มิ.ย.48 พ.ต.ท.ทนง ศักดิ์ วังสุภา รักษาการ ผกก.สภ.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งพบมีการวางระเบิดใต้รถปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน บง 8939 นราธิวาส ซึ่งจอดอยู่หน้าโรงพัก จึงประสานไปยังชุดเก็บกู้จากนปพ.จังหวัด มาตรวจสอบ พบคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องหนัก 7 กก. ซุกซ่อนอยู่ในหม้ออะลูมิเนียม นำมาผูกไว้กับแหนบใต้ท้องรถ จึงตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือและทำการเก็บกู้จนสำเร็จ

สอบสวนทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของนางอาซียะ บินดาโอ๊ะ อายุ 45 ปี ภรรยาของ จ.ส.ต.นุบิน ดาโอ๊ะ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.อ.เจาะไอร้อง ที่ถูกแนวร่วมยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.48 ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุนางอาซียะขับรถมาทำธุระที่โรงพัก คาดว่าคนร้ายคงรู้ความเคลื่อนไหวจึงแอบวางระเบิดไว้ก่อน พอมาถึงโรงพักเห็นตำรวจเข้าใกล้รัศมี จึงจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือหมายสังหารหมู่ แต่ระเบิดไม่ทำงานเนื่องจากเชื้อปะทุด้าน เพราะฝนตกหนักจนเปียกชื้น

ลูก2ฝังถังดับเพลิงบนถนน
เวลาห่างกันราวครึ่งชั่วโมง ตำรวจ สภ.ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบสายไฟฟ้าลากยาวเข้าไปในป่า ริมถนนมุ่งหน้าไปยังที่ตั้งประปาภูเขา หมู่ 5 บ้านลาโล๊ะ ต.สากอ จึงประสานชุดเก็บกู้ระเบิด และทหาร-ตำรวจไปตรวจสอบ พบคนร้ายลอบฝังระเบิด "ถังดับเพลิง" หนัก 15 กก. ไว้บนถนน และลากสายไฟฟ้ายาวกว่า 150 เมตร เข้าไปในป่าเพื่อจุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ จึงเก็บกู้จนสำเร็จ เชื่อว่าเป้าหมายต้องการสังหารตำรวจ นปพ.อุบล ราชธานี ที่มาตั้งฐานปฏิบัติการในพื้นที่ และต้องลาดตระเวนในเส้นทางดังกล่าว แต่โชคดีชาวบ้านหาของป่าและพบเข้าโดยบังเอิญ จึงทำหน้าที่พลเมืองดีแจ้งตำรวจเจ้าหน้าที่จึงรอดเป็นเหยื่อระเบิดตายหมู่

ลูก3กะฆ่าชุดคุ้มครองครู
ต่อมาเวลา 12.30 น.วันที่ 9 มิ.ย.48 พ.ต.ท.สุรเดช มาสินทพันธ์ สวป.สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยจะเป็นระเบิด ฝังไว้บนถนนในหมู่บ้านไอร์ปาเซ หมู่ 8 ต.ตันหยงลิมอ ห่างจากโรงเรียนบ้านไอร์ปาเซ ประมาณ 800 เมตร จึงประสานชุดเก็บกู้ระเบิด ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และเข้าเก็บกู้จนสำเร็จ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนในถังดับเพลิง หนัก 15 กก. โดยคนร้ายนำมาฝังไว้กลางถนน และต่อสายไฟยาวลากเข้าไปในสวนยาง คาดว่าคนร้ายต้องการสังหารหมู่ตำรวจชุดคุ้มครองครู ที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าวในช่วงเวลา 15.30 น. แต่โชคดีชาวบ้านมาพบก่อน

ทุกศาสนาร่วมใจต้านโจร
ส่วนที่สวนสาธารณะสิรินธร เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีพิธีเปิดงานสานสัมพันธ์ ต่อต้านการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่ามกลางข้าราชการ ภาคเอกชน ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนาทั้ง 3 ศาสนา คือพุทธ คริสต์ อิสลาม เข้าร่วม รวมแล้วกว่า 1,000 คน มีนาย ธีระ มินทราศักดิ์ รอง ผวจ.นราธิวาส เป็นประธาน จากนั้นผู้นำศาสนาต่างทำพิธีทางศาสนาของตน เพื่อขอให้เกิดสันติสุขในภาคใต้

"ปัตตานี"7อำเภอลุกเป็นไฟ
ที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.48 มีรายงานว่า กลุ่มแนวร่วมโจรใต้ออกอาละวาดเย้ยกฎหมายบ้านเมืองอย่างหนัก ด้วย การก่อเหตุปาระเบิดและลอบวางเพลิงใน 7 อำเภอ ดังนี้ คือ 1. อ.เมือง โดยคนร้ายลอบวางเพลิงโรงเรียนชุมชนบ้านตะลุโบะ หมู่ 6 บ้านบือแนจารัง ต.ตะลุโบะ ซึ่งเป็นโรงเรียนอนุบาล ห้องเรียนเสียหาย 2 ห้อง อาคารศูนย์เทคโนโลยีทางการเกษตร หมู่ 1 ต.คลองมานิง เพลิงลุกไหม้เสียหายบางส่วน และยังเผารถขนขยะของเทศบาลเมืองปัตตานี เสียหาย 2 คัน ขณะที่จอดอยู่หน้าสำนักงาน 2. อ.หนองจิก คนร้ายเผาตู้โทรศัพท์สาธารณะในพื้นที่หมู่ 5 และ หมู่ 7 ต.ปุโละปุโย วางเพลิงเผาศูนย์ราชการ ต.ลิปะสะโง เสียหายทั้งหลัง

อาละวาดลอบวางเพลิงวอด
3. อ.ยะรัง คนร้ายใช้ระเบิดเพลิง ขว้างใส่บ้านพัก ส.ต.ท.นิอารง นิสะมะแอ ผบ. หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.อ.ยะรัง และบ้านพัก ด.ต.ทวีพร มโนสันต์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.อ. ยะรัง ทำให้เพลิงไหม้บ้านเสียหายบางส่วน และ ยังโรยตะปูเรือใบบนถนนสายยะรัง-ปัตตานี ระยะทาง 12 กม. สกัดกั้นการติดตามของเจ้าหน้าที่ ทำให้รถเจ้าหน้าที่และประชาชนที่สัญจรผ่านไป-มา ได้รับความเสียหายกว่า 10 คัน 4. อ.ยะหริ่ง คนร้ายลอบเผาโรงเรียนบ้านบางปู เสียหาย 3 ห้อง 5. อ.ไม้แก่น คนร้ายวางเพลิงศาลาอเนกประสงค์เสียหายทั้งหลัง และจักรเย็บผ้า 9 หลัง ของกลุ่มสตรีที่อยู่ในศาลาก็ถูกไฟเผาวอดไปด้วย และยังเผาตู้โทรศัพท์สาธารณะบ้านโคกนิบงหมู่ 1 ต.ทรายทอง เสียหายอีก 2 ตู้

คืนเดียวเดินสายป่วน30จุด

6. อ.กะพ้อ คนร้ายเผาตู้โทรศัพท์สาธารณะบ้านปูแตบือราแง หมู่ 2 ต.ตะโละดือรามัน และบ้านบาโงบือเมง หมู่ 5 ต.กะลุบี วอดไป 2 ตู้ และยังเดินสายเผาที่ทำการกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านคอกวัว หมู่ 5 ต.ปล่องหอย เสียหายทั้งหลัง และ 7. อ.สายบุรี คนร้ายวางเพลิงเผาศาลาพักผู้โดยสารของกรมทางหลวง ที่บ้านเจาะกือแย ต.ตะบิ้ง วอดไปทั้งหลังเหลือแต่เถ้าถ่านให้ดูต่างหน้า และมีรายงานว่าจากการตรวจสอบ พบมีการก่อเหตุทั้งหมด 30 จุดในคืนเดียว
น้ำตาร่วง"เผาร.ร.หนูทำไม"
ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 มิ.ย.48 ตำรวจกองวิทยาการต้องเดินสายตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน เพื่อรวบรวมเป็นเบาะแสตามล่ากลุ่มแนวร่วมที่พล่านดีเดือดอาละวาดไม่เลิก และพบว่าส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์และวิธีการแบบลอบวางเพลิงแบบเดียวกัน ทั้งกระสอบป่าน ผ้าชุบน้ำมันเบนซินก้านไม้ขีดและยากันยุง

ขณะที่โรงเรียนที่ถูกวางเพลิงทุกแห่ง ยังเปิดการเรียนการสอนเป็นปกติ ยกเว้นนักเรียนในห้องเรียนที่ถูกไฟเผา ที่ต้องหยุดเรียนชั่วคราวจนกว่าจะมีการจัดหาห้องเรียนใหม่ และต้องหาซื้ออุปกรณ์การเรียนใหม่ให้เด็ก ๆ ขณะที่เด็กนักเรียนจำนวนมากที่ต้องอดไปโรงเรียน ต่างมายืนดูซากห้องเรียนเหยื่อน้ำมือโจรชั่ว บางคนถึงกับร้องไห้เสียใจเพราะกลัวจะไม่ได้เรียนหนังสือ พร้อมฝากถามถึงโจรที่ก่อเหตุอย่างไร้เดียงสาว่า "เผาโรงเรียนหนูทำไม"

จ้องระเบิดหม้อแปลงไฟฟ้า

มีรายงานว่า ก่อนกลุ่มโจรและแนวร่วมจะ "ปฏิบัติการป่วนปัตตานี" ได้ลอบวางระเบิดหม้อแปลงไฟฟ้า ซอยเทศบาล 5 หมู่ 4 บ้านแม่งา ต.รูสะมิแล เขตเทศบาลเมืองปัตตานี นอกรั้วโรงแรมซีเอส ปัตตานี เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 9 มิ.ย.48 แต่ พ.ต.อ.สมจิตร นาสมยนต์ ผกก. สภ.อ.เมืองปัตตานี นำกำลังไปปิดกั้นการจราจร และชุดเก็บกู้ใช้เครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และยิงทำลายวงจรระเบิดถึง 3 ครั้ง นานกว่า 5 ชั่วโมง จึงเก็บกู้สำเร็จ ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ตรวจสอบพบเป็นระเบิดถังดับเพลิง หนัก 15 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยคนร้ายนำเหล็กมาตัดเชื่อมทำเป็นกล่องป้องกันความเปียกชื้น เชื่อว่าเป้าหมายต้องการทำให้ไฟดับทั้งเมือง เพื่อลงมือโจมตีในจุดใดจุดหนึ่ง

ผู้ว่าฯฉุน2วันป่วน329จุด

นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผวจ.ปัตตานี เปิดเผยแบบไม่สบอารมรณ์ว่า เฉพาะในคืนวันที่ 9 มิ.ย.48ที่ผ่านมา กลุ่มโจรปฏิบัติการ ทั้งการลอบวางเพลิง ทำลายทรัพย์ของทางราชการ และการพ่นสีสะเปย์ รวม 293 จุด ส่วนช่วงเช้ามืดวันที่ 10 มิ.ย.48 ยังอาละวาดก่อเหตุอีก 30 จุด รวมแล้ว 2 วัน ก่อเหตุการณ์ความไม่สงบไปถึง 329 จุดด้วยกัน ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ และขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายทำการป้องกัน และปราบปรามอย่างเต็มที่แล้ว โดยเฉพาะการวางระเบิดหม้อแปลง กลางเมืองปัตตานี ถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ ที่จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มแนวร่วมเหล่านี้โดยเร็ว

ครูปัตตานีขอย้ายกว่าพันคน
ส่วนที่ห้องประชุมโรงเรียนอนุบาลปัตตานี นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดปัตตานี เรียกประชุมแกนนำครูในเขตการศึกษาเขต 1 และ 2 เพื่อหาแนวทางป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นกับครู และโรงเรียน มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง และได้ข้อสรุปว่า ไม่ว่าจะอย่างไร จะไม่ปิดโรงเรียน หรือหยุดการเรียนการสอน แต่จะขอให้เจ้าหน้าที่เพิ่มกำลังในการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น และโรงเรียนที่เสี่ยงจริง ๆ ควรจะให้ครู ตชด.มาสอนแทน อย่างไรก็ดี ล่าสุดมีครูใน จ.ปัตตานี ทำเรื่องขอย้ายกว่า 1,000 คนแล้ว ส่วนหนึ่งขอย้ายจากโรงเรียนในจุดล่อแหลมไปยังพื้นที่ซึ่งไม่ค่อยมีเหตุร้าย ส่วนอีกกลุ่มขอย้ายออกจากพื้นที่ เพื่อกลับภูมิลำเนาเดิม

"ชิดชัย"ลงใต้เปิดเชิงประชุม
ที่ห้องประชุม กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส. จชต.) จ.ยะลา เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 มิ.ย.48 พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว. มหาดไทย พร้อมคณะ เดินทางมาประชุมร่วมกับ พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.กอ.สสส.จชต. นายศิวะ แสงมณี อธิบดีกรมการปกครอง ผวจ. 4 จังหวัด ผบช.ภ.9 และผบก.ภ.จว.ทั้ง 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ยะลา จ.นราธิวาส จ.ปัตตานี และ จ.สงขลา รวมทั้งผู้บังคับหน่วยกำลังและหน่วยข่าวในพื้นที่ใช้เวลากว่า3ชั่วโมง

พล.ต.อ.ชิดชัย เปิดเผยว่า เท่าที่รับทราบรายงานจากหน่วยทหารและฝ่ายปกครอง คงต้องปรับยุทธศาสตร์การทำงานกันเล็กน้อย ส่วนความพร้อมของ กอ.สสส.จชต. มีกว่า 90% ทั้งการวางยุทธวิธีในการปฏิบัติหน้าที่ การปรับพื้นฐาน ทำงานเชิงรุกและเชิงลึกในพื้นที่ เป้าหมายสำคัญจะต้องยุติสถานการณ์รายวันให้ได้ ซึ่งเท่าที่รับฟัง ทำงานได้ดีกว่าที่คิด ส่วนเหตุการณ์ที่ยังรุนแรงอยู่นั้น คงต้องไปดูระดับพื้นที่ ทั้งระดับอำเภอ ตำบล และต้องอ่านเกมฝ่ายตรงข้ามให้ออก เน้นด้านการข่าวในแต่ละจังหวัด ส่วนระดับอำเภอ มี กอ.สสส.จชต. ระดับพื้นที่ลงไปหาข่าว ใช้วิธีการเจาะลึก มั่นใจว่าสถานการณ์หลังจากนี้จะดีขึ้นตามลำดับ และในพื้นที่กำลังปรับการทำงานกันอยู่ ทั้งนี้ การลงพื้นที่ภาคใต้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของ พล.ต.อ.ชิดชัย หลังเข้ารับตำแหน่ง

วางเพลิงรถทหารที่สงขลา

ขณะที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 9 มิ.ย.48 คนร้ายลอบวางเพลิงเผารถปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีแดง ทะเบียน บร 9132 สงขลา ของ จ.อ.อับดุลรอเศต มะเด็ง อายุ 45 ปี สังกัด กองเรือภาคที่ 2 สงขลา เสียหาย ขณะจอดอยู่ในโรงรถบ้านพักเลขที่ 402/6 หมู่ 2 ต.บ้านนา และวางเพลิงเผาตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้ามัสยิดกลาง ในตลาดจะนะ และรอบ ๆ รวม 5 จุด รวมทั้งใช้สีสเปย์ฉีดพ่นบนถนน กำแพงรั้วโรงเรียน สถานที่ราชการ เชื่อว่าเป็นฝีมือของแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน

ชี้ป่วนหวังดึงใต้เข้าโอไอซี
ด้าน พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกได้สรุปประเด็นความคิดเห็นของคณะกรรมการองค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) ที่เดินทางมาเยือนไทยเพื่อรับทราบปัญหาภาคใต้ ไว้ 4 ประเด็นคือ 1. สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่ความขัดแย้งทางศาสนา 2.ชื่นชมในการทำงานของรัฐบาลไทยที่ทุ่มเททรัพยากรแก้ไขปัญหา 3. กองทัพบกมั่นใจว่า โอไอซีได้รับทราบข้อเท็จจริงในพื้นที่ ซึ่งแตกต่างจากข้อมูลและข่าวที่เคยได้รับก่อนหน้านี้ และ 4.กองทัพบกมั่นใจว่า โอไอซีเห็นว่าศาสนาไม่ใช่สาเหตุในการก่อเหตุในพื้นที่ ส่วนการก่อเหตุพร้อม ๆ กันหลายจุดในพื้นที่ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.48 ที่ผ่านมานั้น เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดภาพของปริมาณ คือเป็นเหตุเล็ก ๆ แต่หลายจุด เพื่อให้ประชาคมโลก หรือโอไอซี เห็นว่าพื้นที่ภาคใต้มีการก่อความไม่สงบ โดยมุ่งเน้นไปที่เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจ-ทหาร ให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ไปเผยแพร่ ว่าเจ้าหน้าที่รัฐของไทยเป็นเงื่อนไขของปัญหา กดขี่ข่มเหงพี่น้องมุสลิม และดึงเรื่องให้มีการนำเข้าไปพูดหรือหารือในการประชุมย่อยโอไอซี 20 ประเทศที่มาเลเซีย และประชุมใหญ่ 57 ประเทศที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย

ปรับตัวไม่แต่งเครื่องแบบ

ทั้งนี้กองทัพบกยังได้ปรับแนวทางการทำงาน โดยจะเน้นด้านกิจการพลเรือนนำหน้างานยุทธการ โดยเฉพาะการเข้าถึงประชาชนยังเป็นจุดที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามพยายามไปโน้มนำให้ชาวบ้านแบ่งแยกทหารออกเป็นฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นต่อไปทหารจะลดการนำกำลังทหารในเครื่องแบบชุดพรางครบชุดเดินปฏิบัติหน้าที่ในหมู่บ้าน ชุมชน เหมือนเมื่อก่อน แต่จะปรับสภาพให้สอดคล้อง กลมกลืนกับชาวบ้านมากที่สุด โดยอาจให้แต่งนอกเครื่องแบบบ้าง ลดการแสดงตัวเพื่อเป็นเป้า ขณะที่รถฮัมวี่ หรือรถถังที่ลาดตระเวน ก็จะเปลี่ยนเป็นรถกระบะ อย่างไรก็ตามทหารที่ต้องทำหน้าที่ตั้งด่าน หรือปฏิบัติหน้าที่ในบางจุด ก็ต้องใส่เครื่องแบบพรางสนามครบชุดเหมือนกัน ไม่ใช่เป็นการเลิกใส่ไปเลย

ผักปลอดสารพิษภาคใต้บูม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีภาครัฐเร่งส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเชื่อว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาไฟใต้นั้น ปรากฏว่าการส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกผักปลอดสารพิษตามโครงการ "1 ฟาร์ม 1 ตำบล" ได้รับการตอบรับอย่างดี ผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ซึ่งนายจิรากร โกศัยเสวี รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ล่าสุดได้ขยายพื้นที่ส่งเสริมการปลูกควบคู่กับการเน้นคุณภาพไปที่ จ.สงขลา และสตูล นอกเหนือจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ผลิตได้ 30 ตันต่อสัปดาห์ พร้อมเพิ่มชนิดของผักที่ปลูกด้วย ขณะที่นางภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้บริหารท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เกต ระบุว่าลูกค้าสนใจซื้อผักปลอดสารพิษอย่างมาก โดยผักที่รับซื้อจากโครงการในภาคใต้ยังไม่เพียงพอ ซึ่งเฉพาะที่ท็อปส์ฯ สามารถจะรองรับผลผลิตมาจำหน่ายใน 76 สาขาทั่วประเทศ ได้ถึงประมาณ 4-5 ตัน ต่อสัปดาห์.
/////////////////////////////////////////////////

          1
คลิ๊กนี้มีความหมาย

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 : Webmaster by Narong Cheunniran : อีเมล์ :narongthai53@gmail.com