จับตา แกนนำ-แนวร่วม-คอมมานโด เปอร์มูดอ
11 ต.ค.48

พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯและรมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีรายงานข่าวเยาวชน พันคนถูกขึ้นบัญชีดำใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีการระบุว่าเป็นกลุ่มเปอร์มูดอ ว่าไปเอาข่าวนี้มาจากไหน ไม่มีหรอก ส่วนที่มีการระบุว่าเอาเยาวชนที่ดีไปล้างสมองนั้น ก็เป็นเรื่องของการข่าว การข่าวก็คือการข่าว เมื่อถามว่าคนเหล่านี้มีบทบาทในการก่อความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า มันเป็นเรื่องการข่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องจับตามอง หากไม่มีการจับตามองเลย เหมือน ๆ กับทุกภาคที่เขาก็ต้องมีการจับตามองเหมือนกันผู้สื่อข่าวถามว่าให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้มากน้อยแค่ไหน

พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า เราให้ความสำคัญทุกกลุ่ม อย่างที่ตนเคยพูดแล้วว่า พื้นที่ภาคใต้ตอนที่เราออกพระราชกำหนด เราชัดเจนว่าจะต้องให้มีแกนในหมู่บ้านและหน่วยปฏิบัติการในหมู่บ้าน ตำบล และมีแนวร่วมที่เราจะใช้อำนาจตามพรก.ที่จะจัดการกับพวกแกนหรือแก่น คอมมอนโด ซึ่งคนพวกนี้เราถือว่าเป็นภัย เราจึงต้องใช้อำนาจพรก.จัดการกับคนเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นโจร ตรงนี้คือสิ่งที่เป็นปัญหา

พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวด้วยว่า ด้วยเหตุนี้ตนจึงได้ให้แต่ละอำเภอไปกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ และตนได้ไปตรวจตั้งแต่ มิ.ย. และเมื่อ ต.ค.ที่ผ่านมาเขาก็ได้เช็คทั้งหมดแล้วว่าแก่น และแกนคอมมอนโดของพวกก่อความไม่สงบเหล่านี้มีจำนวนเท่าไหร่ที่เราจะต้องใช้อำนาจเข้าไปจัดการ หรือให้คนเหล่านี้ออกมามอบตัว หรือเข้าไปดำเนินการจับกุม ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องดำเนินการ ส่วนจำนวนแกนนำเหล่านี้มีจำนวนเท่าไหร่นั้นบอกไม่ได้ ตัวเลขเขาไม่เอามาเปิดเผยกัน แม้นว่าจะลำบากอย่างไรก็ต้องทำให้ได้ และแม้นว่าคนเหล่านี้จะไม่มีประวัติทางร้ายมาก่อน ก็เชื่อว่าเขจ้าหน้าที่เขามีวิธีการทำจะจัดการได้ แต่ตัวเลขเท่าไหร่นั้นขอไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวมี ต่อข้อถามที่ว่าขณะนี้มีการขึ้นตัวเลขไว้เยอะหรือไม่ รอง

นายกฯ กล่าวว่า ไม่พูดตัวเลขอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องขึ้นบัญชีเพียงแต่ว่าเป็นเรื่องที่เราต้องจับตาและเฝ้ามองว่าคนไหนมีพฤติการณ์อย่างไร ที่สำคัญพ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลบุตรหลานของตัวเอง ก็เหมือนกับลูกของตนถ้าไปทำอะไรไม่ดีก็ต้องดูแล

เมื่อถามว่าเยาวชนเหล่านี้เรียนอยู่ในปอเนาะหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าตนไม่รู้ แต่สามารถแยกแยะได้หลายอย่างอย่าไปบอกว่าเป็นประเภทนั้นประเภทนี้ เดี๋ยวเสียชื่อเขา อย่าเพิ่งไปซัดว่าตรงนั้น ตรงนี้ เพราะมันยังเป็นเรื่องการข่าว ไม่สมควรที่จะนำมาพูด

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีวิธีดึงให้เยาวชนเหล่านี้กลับมาได้อย่างไร พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า เรามีวิธีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เราจะเอาเขากลับมาอย่างสันติวิธี ไม่มีเป้าหมายในทางร้าย เป้าหมายเราต้องการให้กลับตัวร่วมสร้างสันติสุข ดังนั้นเราจึงต้องมีกรมคุ้มครองสิทธิ ไปเปิดสถานร่วมสร้างสันติสุขขึ้นต่างหากสำหรับรับผู้สมัครใจของกระทรวงยุติธรรม ส่วนของกอ.สสส.จชต.เขาก็มีสถาบันเสริมสร้างสันติสุขของเขา ที่ไปจับหรือควบคุมตาม พรก.ที่เอาเข้ามาอบรมและเปิดให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย โดยเอาผู้นำศาสนามาอบรมซึ่งทำมาหลายรุ่นแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีอะไรในทางร้าย ขอบอกพ่อแม่ผู้ปกครองได้เลยว่าต้องดูแลลูกตัวเองว่าเป็นอย่างไร บางทีพ่อแม่ก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ

เมื่อถามว่าพ่อแม่รู้แล้ว เขาจะเอาลูกมาอบรมหรือ รองนายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้มีพ่อแม่นำลูกมาร่วมอบรมเยอะเลยและจากการที่เราเข้าไปพัฒนาชุมชน ไปคุยกันแล้ว ผู้ที่หลงผิดก็อยากออกมา แต่ช่วงนี้เป็นช่วงถือศีลอด ต้องรอหลังจากช่วงนี้ก็เชื่อว่าจะมีคนออกมาอีกเยอะ เมื่อถามว่ากลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ถือเป็นเซลล์สำคัญในการออกมาก่อกวนใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องการข่าว เราพูดไม่ได้หรอกว่าใครเป็นใครที่ทำการก่อกวนเพราะว่าจะต้องมีการแยกระดับคือแกนนำหรือคอมมานโดและแนวร่วมโดยแยก ระดับ ส่วนกลุ่มนี้จะอยู่ในกลุ่มแนวร่วมหรือไม่นั้นก็ต้องแล้วแต่พฤติกรรม คงพูดไม่ได้ว่าอยู่กลุ่ม

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)จะตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า ก็เป็นมาตรการหนึ่ง แต่เขาไม่ได้ตัดสัญญาณ แต่เป็นการตั้งชุมสายขึ้นมาอีกชุมสายหนึ่งที่ใครจะใช้โทรศัพท์ในพื้นที่ก็ต้องไปลงทะเบียนในบริเวณ อย่าไปใช้คำว่าตัดสัญญาณไม่ถูก เพียงแต่ต้องการให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย ถือเป็นมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย ซึ่งโครงการนี้จะมีการเร่งทำให้เสร็จ พ.ย.นี้ในการทำชุมสายขึ้นมา

เมื่อถามว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาการใช้โทรศัพท์มือถือในการจุดชนวนระเบิดได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ใช่ แน่นอน แก้ได้ในเรื่องการใช้ซิมการ์ด ส่วนระเบิดด้วยการกดรีโมท หรือตั้งเวลา ก็ต้องหาวิธีป้องกันต่อไป ซึ่งในกรณีของการใช้โทรศัพท์ก็จะหมดปัญหา

เมื่อถามว่าโทรศัพท์ที่นำเข้ามาจากประเทศมาเลเซียจะป้องกันได้หรือไม่ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า จะเอามาใช้ไม่ได้ เพราะเป็นพื้นที่พิเศษ เป็นการดูแลคนส่วนใหญ่ให้ได้รับความปลอดภัย ไม่ได้ไปกระทบสิทธิของใคร เพียงแต่ว่าหากใครต้องการเดินทางไปภาคใต้ก็ต้องไปลงทะเบียนหรือถ้านำโทรศัพท์จากนอกประเทศ เข้ามาก็ต้องนำมาลงทะเบียน เพราะจะมีการตัดสัญญาณบริเวณนั้นทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่าการใช้โทรศัพท์ที่จะต้องแจ้งศูนย์นั้นจะทำให้เป็นปัญหาหรือไม่ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า พูดง่าย ๆ คือถ้าจะใช้โทรศัพท์ในบริเวณนั้นได้เราต้องรู้ว่าเป็นโทรศัพท์ที่ต่อจากหมายเลขไหนถึงหมายเลขไหน จึงต้องลงทะเบียน ถ้าไม่ลงทะเบียนก็ต้องถูกตัดหมด อย่างถ้าไปจากกรุงเทพฯก็ไปลงทะเบียนด้วย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ทางกระทรวงยุติธรรมได้ของบเพื่อตั้งกองทุนเพื่อความสมานฉันท์ พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า เป็นเพียงการรับทราบ แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อยุติเพราะตนให้นำกลับไปทบทวน เพราะครั้งแรกจะต้องให้เป็นแบบนำร่อง ให้มันเป็นกลางพอดีเพื่อที่จะสามารถใช้ได้กับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แต่คนละส่วนกับกองทุนยุติธรรมของกอส.ที่ตั้งกองทุนสมานฉันท์ ซึ่งกองทุนยุติธรรมนี้ จะเป็นกองทุนที่ให้ความเป็นตามที่พึงจะมี

ผู้สื่อข่าวถึงการตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์เสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้(กบชต.) ซึ่งมีผบ.เหล่าทัพเป็นประธาน ตามโครงสร้างนั้นมีอำนาจหน้าที่อย่างไรพล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า มีหน้าที่ในการบริหารจัดการให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์คณะกรรมการ(กส.ชต.)ที่ตนได้รับมอบหมายก็จะทำหน้าที่กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ แต่คนที่จะนำนโยบายและยุทธศาสตร์นี้ไปปฏิบัติก็คือชุด กบชต.ที่มีผบ.เหล่าทัพเป็นกรรมการ เพื่อที่จะได้ระดมทรัพยากร ตัวบุคคลและเครื่องมือเครื่องไม้ ตัวบุคคลลงไปช่วย เมื่อถามว่าจะเป็นการซ้ำซ้อนในเรื่องการสั่งการกันหรือไม่เพราะกรรมการมีหลายชุดรองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ซ้ำซ้อนเพราะชุดนี้ไม่ได้สั่งการแต่เป็นการเอาไปกำกับการทำงาน เพราะคนปฏิบัติคือแม่ทัพซึ่งจริงอยู่ที่แม่ทัพจะดูแลอยู่แล้ว แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เพราะสมัยก่อนทุกคนก็ลอยตัวกันหมดแต่ตอนนี้ทุกคนจะมาทำกันเต็มที่ดังนั้นจึงต้องมีคำสั่งที่ชัดเจนลงไป

เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐบาลจะให้เขาทำงานเต็มที่อย่างไร เพราะหลายคนลงไปสั่งกันหลายคนจนเกิดความสับสนกันหมดแล้วพล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวว่า ที่ลงไปก็ไม่เห็นมีใครลงไปสั่ง เพียงแต่ไปให้คำแนะนำเท่านั้น เคยดูอเมริกันฟุตบอลหรือเปล่า เขาจะมีโค้ชข้างสนาม มีเฮดโค้ช มีออฟเพนซิฟโค้ช และสเปเชียลโค้ช ซึ่งการมีโค้ชเยอะจะไม่ทำให้ผู้ปฏิบัติงง เพราะการสั่งการจะต้องสั่งผ่านโค้ช นอกจากนี้จะมีโค้ชที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ ด้วยเราจัดกันแบบอเมริกันฟุตบอลเลย อย่างแม่ทัพ ถ้าเปรียบก็คือผู้อำนวยการปฏิบัติ ส่วนคนอื่น ๆ ก็เป็นผู้ปฏิบัติทั้งหมด ซึ่งผมได้อธิบายวีการทำงานให้ผู้เกี่ยวข้องฟังไปหมดแล้วพล.ต.อ.ชิดชัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าโค้ชดีแต่คนเล่นไม่เอาไหน จะทำอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า อย่างนั้นก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนกันเหมือนกับการปรับเปลี่ยนนักกีฬา เมื่อถามว่าน่าจะยกตัวอย่างกีฬาที่คนไทยถนัดจะได้เข้าใจ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนได้อธิบายให้ผบ.แต่ละคนได้ฟังแล้วว่าใครอยู่ตรงไหน และจะต้องเล่นบทบาทอะไรอย่างไรก็ตามในการประชุมงานในส่วนของงานอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในก็ยังไม่ได้ข้อยุติอะไร ต้องหารือกันต่อ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าในที่ประชุมครม.วันนี้จะมีการพิจารณาการต่ออายุการใช้ พรก.หรือไม่ พล.ต.อ.ชิดชัย ไม่ตอบ แต่ได้ย้อนถามว่า ปัญหาในภาคใต้ยังมีอยู่หรือเปล่าล่ะ ผมไม่ตอบว่าต่อหรือไม่แต่อยากถามว่าปัญหาหมดไปหรือยัง