มาเลเซียขอให้ไทยเข้มงวดชายแดน
ข้อมูลจาก นสพ.เดลินิวส์ /มติชน ข่าววันจันทร์ที่ 17 ต.ค.48

มาเลย์วอนคุมเข้มชายแดน
วันที่ 16 ต.ค.48 สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยอ้างจากสำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานว่า นายโนห์ โอมาร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในของมาเลเซีย กล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียขอร้องให้รัฐบาลไทยเสริมการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนสองประเทศ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้ฝ่ายมาเลเซียเองก็เสริมกำลังด้านความมั่นคงเช่นกัน โดยใช้รถหุ้มเกราะเพิ่มอีก 3 คันในการตรวจลาดตระเวนตามแนวพรมแดนทางเหนือของประเทศด้านที่ติดกับชายแดนไทย ซึ่งจะเป็นการดี หากฝ่ายไทยจะเพิ่มการลาดตระเวนด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้มาเลเซียได้เสริมกำลังตามแนวชายแดนนับตั้งแต่เกิดเหตุคนไทยมุสลิม 131 คน จากจังหวัดนราธิวาสหลบหนีข้ามพรมแดนเข้าไปในรัฐกลันตันของมาเลเซียเมื่อเดือน ส.ค.2548 โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

มาเลย์ร้องไทยรอบคอบคว่ำบาตรสินค้า
สำนักข่าวเบอร์นามา รายงานว่า นายไซเอด ฮามิด อัลบาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ขอให้ไทยมีวุฒิภาวะในเรื่องที่มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวมาเลย์ออกมาเคลื่อนไหวในการ คว่ำบาตรสินค้าไทย และว่าไทยตอบโต้เรื่องนี้เกินกว่าเหตุ โดยนายไซเอด ฮามิด กล่าวว่า สินค้าไทยยังคงถูกขนส่งเข้าประเทศมาเลเซียทั้งที่มีเสียง เรียกร้องให้คว่ำบาตร และขอให้ไทยตอบโต้ ด้วยการไตร่ตรองให้รอบคอบกว่านี้ เพื่อไม่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างการค้าและเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ เนื่องจากเกิดข้อขัดแย้งทางการเมือง พร้อมกับยืนยันว่ารัฐบาลมาเลเซียไม่ได้สนับสนุนให้มีการคว่ำบาตร แต่ก็ไม่สามารถห้ามปราม ได้ เนื่องจากมาเลเซียเป็นประเทศประชาธิปไตย และรู้สึกประหลาดใจที่ไทยออกมาตอบโต้อย่าง รุนแรง.

พึ่งตัวเองไม่ง้อมาเลเซีย วันที่ 17 ต.ค.48 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการนำ ส.ส.ภาคใต้ลงไปในพื้นที่ว่า อาจมีอันตราย แต่ถ้าจะมาหารือกันที่พรรคน่าจะดีกว่า ส่วนจะขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านในการดูแลชายแดนป้องกันปัญหาการเข้า-ออก ของกลุ่มก่อความไม่สงบหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "Help your self before god can help you" อัตตาหิ อัตโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และจะทำงานเต็มที่

"อานันท์"ประณามฆ่าพระ
นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) เปิดเผยหลังการประชุม กอส. ที่กระทรวงการต่างประเทศ ว่าคณะทำงานเตรียมเสนอรายงานสรุปผลการทำงานต่อรัฐบาลในเดือน มี.ค. 49 ส่วนผลหารือระหว่างตนกับนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ยังไม่ได้รายงานให้ พ.ต.ท.ทักษิณ นายกรัฐมนตรี ทราบเนื่องจากท่านติดภารกิจเยือนยุโรป ทั้งนี้ การไปหารือกับนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ตนไปในฐานะประธาน กอส. ไม่ใช่ตัวแทนของรัฐบาล และไม่ได้หยิบยกเรื่อง 131 ชาวไทยมุสลิม ที่เข้าไปขอลี้ภัยในมาเลเซียมาหารือ แต่ชี้แจงถึงการทำงานของ กอส. ให้ทราบ ความไม่เข้าใจระหว่างไทย-มาเลเซีย เกิดจากการเสนอข่าวที่สับสนบนหน้าหนังสือพิมพ์ซึ่งนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ ควรหารือกันเป็นการภายในเพื่อความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศ พร้อมกันนี้ ขอประณามการสังหารพระสงฆ์ที่วัดใน จ.ปัตตานี เพื่อสร้างความแตกแยกทางศาสนา และเชื่อว่าจะจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด

บัวแก้วแถลงโต้มาเลย์ไทยผิดหวังท่าที
วันที่ 17 ต.ค.48 นายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงท่าทีของไทยเกี่ยวกับคำให้สัมภาษณ์ของนายไซยิด ฮามิด อัลบาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ว่า คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ทำให้ไทยผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการแสดงท่าทีที่ขัดแย้งกันเองอีกครั้งหนึ่ง โดยฝ่ายมาเลเซียได้เปิดประเด็นการโต้ตอบผ่านสื่อมวลชนอีก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่ควรมีการโต้ตอบผ่านสื่อ แต่ควรใช้ช่องทางการทูตในการหารือกัน จึงเป็นที่ชัดเจนว่าการแถลงหรือการแสดงความคิดเห็นของฝ่ายมาเลเซียที่ผ่านมา เป็นการมุ่งวิพากษ์วิจารณ์ทางการไทย แทนที่จะเป็นการแสดงเจตนารมณ์อย่างจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างแท้จริง

ในแถลงการณ์ของนายกันตธีร์ยังระบุว่า ฝ่ายไทยตระหนักดีว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันจะต้องมีพื้นฐานมาจากความเข้าอกเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจและความมั่นใจที่มีต่อกันในฐานะเพื่อนบ้าน ซึ่งในเรื่องนี้ ฝ่ายมาเลเซียน่าจะตระหนักดีว่าในอดีตที่ผ่านมานั้น ในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของมาเลเซีย ฝ่ายไทยก็ได้ให้ความร่วมมืออย่างจริงจังและจริงใจในฐานะเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายไทยคาดหวังจากฝ่ายมาเลเซียเช่นเดียวกัน