|
ศอ.บต.เปิดตลาดอาหารฮาลาล ที่ จีน
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
รองโฆษก ศอ.บต.
ศอ.บต.นำอาหารฮาลาลในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดตลาด ที่ประเทศจีน กลางเดือนสิงหาคม 2550 นี้ เพื่อขยายโอกาสทางด้านการค้า และเป็นช่องทางการขายอาหาร โดยมุ่งสู่เมือง หยินชวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย
นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ บอกว่า ในระหว่างวันที่ 16-19 สิงหาคม 2550 ศอ.บต.จะนำผู้ประกอบการอาหารฮาลาลทั้งรายเล็ก และรายใหญ่ เปิดตลาดอาหารฮาลาล ณ เมืองหยินชวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย สาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งมีประชากรจีนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม เพื่อเป็นการเปิดตลาดด้านอาหาร โดยเน้นไปที่อาหารฮาลาล ที่มีความอุดมสมบูรณ์ และรสชาติดี ที่จะเป็นน่าเชื่อถือของชาวจีน เพราะในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงมีความสอดคล้องกัน อีกทั้งชาวจีน มีกำลังในการซื้อมากกว่าแต่ก่อน
นายประพันธ์ มุสิกพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักประสานนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ศอ.บต. บอกว่า ได้มีการประชุมเตรียมการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและอาหารฮาลาล ณ เมืองหยินชวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย สาธารณประชาชนจีน โดยคณะทำงานได้เตรียมการในการขนส่งสินค้าและผลิตภัณฑ์อาหารไปร่วมแสดงในงาน โดยได้มีการติดต่อ Shipping Company เพื่อแปลรายการสินค้าและอาหารเป็นภาษาจีน และได้แจ้งผู้จะส่งสินค้าติดต่อให้ส่งเอกสารไปที่ใดบ้าง (Certificate) ซึ่งจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 1 สัปดาห์ โดยพาณิชย์จังหวัดปัตตานีจะเป็นเจ้าภาพรวบรวมรายการสินค้านำส่งให้ Shipping Company ให้ครบถ้วนภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2550 และคาดว่า บริษัท จะดำเนินการได้ภายใน 10 วัน โดยพาณิชย์จังหวัดปัตตานี ได้ตรวจสอบกับกรมส่งเสริมการส่งออก พบว่ารายการสินค้าที่จะนำไปจำหน่ายในประเทศจีน เป็นรายการที่เคยส่งออกไปจีนอยู่แล้ว จึงคาดว่า จะไม่ยุ่งยาก ขณะเดียวกันพาณิชย์จังหวัดปัตตานี จะนำรายการสินค้าและรายการอาหารไปให้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี แปลเป็นภาษาจีน และจะนำไปเจรจากับผู้มีอำนาจของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย เพื่อขอทราบกฎระเบียบการนำเข้าและเจรจาขอยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ
นายประพันธ์ มุสิกพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักประสานนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ศอ.บต. บอกอีกว่า รายการสินค้าและอาหารที่จะไปปรุงให้ผู้เข้าร่วมงานชิม ได้คำนวณปริมาณสินค้าจากการคาดการณ์จำนวนผู้เข้าชมงานประมาณ 2,000-3,000 คน จึงได้มีการเตรียมอาหาร ประกอบด้วย ปลาชิงช้าง หรือปลากะตัก ทรงเครื่อง ข้าวเกรียบ ปลา ,กุ้ง น้ำบูดู ประมาณอย่างละ 100 กิโลกรัม ส่วนประเภทอาหารที่จะนำไปปรุงสด จะมีการนำแม่ครัวจากชมรมร้านอาหารปัตตานี เดินทางไปด้วย 4-5 คน เพื่อสาธิตการทำอาหาร ไทยมุสลิม ประเภท แกงมัสมั่น แกงเขียวหวาน โดยจะเป็นการปรุงสำหรับชิม ให้เพียงพอกับผู้ร่วมงาน นอกจากนี้ ศอ.บต. จะมีหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ สนับสนุน ข้าวหอมมะลิ เพื่อแจกจ่าย ในงาน ประมาณ 1,000 กิโลกรัม โดยจะให้ผู้มาร่วมงานประมาณ 1 กิโลกรัม ต่อ 2 คน
สำหรับค่าใช้จ่ายในการตกแต่งคูหาแสดงสินค้า จะใช้งบประมาณ จำนวน 1-1.5 ล้านบาท ส่วนผู้ที่จะเข้าร่วมงานครั้งนี้จะไปจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และเพื่อให้เกิดความเชื่อถือและความมั่นใจของผู้บริโภคชาวจีน ศอ.บต.จะเชิญตัวแทนจาก คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด หรือ สำนักจุฬาราชมนตรี เป็นตัวแทนร่วมเดินทางไปด้วย
สินค้าที่จะนำไปนอกจากจะเป็นสินค้าประเภทอาหารฮาลาลรายย่อย แล้ว ยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่ร่วมเดินทางไปด้วย เช่น ผู้ผลิตปลากระป๋อง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่
* * * * * * * * *
ข้อมูลเมืองหยินชวน เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย
ข้อมูลพื้นฐาน
ที่ตั้งและพื้นที่
เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยเป็นหนึ่งในห้าเขตปกครองตนเองของจีน ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ทางตอนบนของแม่น้ำหวงเหอ (แม่น้ำเหลือง) ทิศตะวันออกติดต่อกับมณฑลส่านซี ทิศเหนือติดต่อกับมองโกเลียใน ทิศใต้ติดต่อกับมณฑลกานซู มีพื้นที่ประมาณ 51,800 ตร.กม. ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่เพาะปลูก ร้อยละ 41 และพื้นที่ภูเขาร้อยละ 59
ภูมิประเทศทางใต้เป็นที่ราบสูง พื้นที่ทางเหนือลาดต่ำเป็นบริเวณที่ราบหนิงเซี่ย พื้นที่โดยทั่วไปสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,100-2,000 เมตร จุดสูงสุด 3,556 เมตร ทิศเหนือเป็นพื้นที่ทะเลทรายได้แก่ ทะเลทรายเถิ๋งเก๋อหลี่ เหมาอูซู่ และอูหลันปู้เหอ
เทือกเขาที่สำคัญได้แก่ เขาเห่อหลัน เขาหลัว เขาหนิวโซ่ว เขาเซี่ยง เขาลิ่วผานโดยมีเขาเห่อหลัน เขาหลัว เขาลิ่วผานเป็นอุทยานป่าไม้ เขาเห่อหลันยังเป็นเทือกเขาที่แบ่งเขตสายน้ำไหลเข้าและออก ซึ่งเป็นเส้นแบ่งภูมิอากาศตามฤดูและนอกฤดู แม่น้ำที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำชิงสุ่ย แม่น้ำจิ่งและแม่น้ำหูหลู
ภูมิอากาศ
ภูมิอากาศแบบกึ่งอบอุ่นกึ่งแห้งแล้ง อุณหภูมิระหว่างตอนใต้และตอนเหนือมีความแตกต่างมาก ตอนใต้หนาวแต่ชื้นฝนตกชุก ตอนเหนืออบอุ่นแต่แห้งแล้ง มีปริมาณแสงแดดพายุทรายมาก อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 5 - 10องศา กลางวันและกลางคืนมีอุณหภูมิต่างกันมาก ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปี 200 - 400 มิลลิเมตร และมีฝนตกมากในระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ถือว่าเป็นพื้นที่ที่ได้รับแสงอาทิตย์มากที่สุดของประเทศจีน
ประชากร
ปี 2005 มีจำนวนประชากร 5.96 ล้านคน อัตราเกิดร้อยละ 15.93 เป็นชนชาติฮั่นราวร้อยละ 65 ที่เหลือเป็นชนกลุ่มน้อยอื่นซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนชาติหุย
ทรัพยากรธรรมชาติ
เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ 2 ประเภทอันได้แก่
1. ทรัพยากรด้านพลังงาน โดยถ่านหินมีปริมาณมากและหลากหลายประเภท เหมืองถ่านหินที่ถูกค้นพบคาดว่ามีปริมาณ 3.1 หมื่นล้านตันและที่คาดว่ายังอยู่ใต้ดินอีก 2 แสนล้านตัน ซึ่งถือว่ามากเป็นอันดันต้นๆของประเทศ ความสามารถในการผลิตพลังงานไฟฟ้าของ
หนิงเซี่ยมากเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ สามารถรองรับการผลิตได้ 2.3 พันล้านวัตต์ เมืองหยินชวนห่างจากเหมืองแก๊ซธรรมชาติระดับโลก "กานหนิง"ของมณฑลส่านซีไม่ถึง 300 กิโลเมตรและห่างจากแหล่งแก๊ซธรรมชาติที่ค้นพบใหม่ "ซูเก๋อหลี่เมี่ยว"ของมองโกเลียในเพียง 50 กิโลเมตร
2. ทรัพยากรแร่ธาตุ ปัจจุบันค้นพบแร่ธาตุกว่า 50 ชนิด ที่สำคัญได้แก่ ยิปซั่ม (ยิปซั่มมีปริมาณเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ) น้ำมันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ดินเกาลิน ซิลิคอนฟอสฟอรัส หินเหล็กไฟ ทองคำ ทองแดง และเหล็ก เป็นต้น
การแบ่งเขตปกครอง
แบ่งเขตการปกครองเป็น 5 เมือง 2 เมืองพิเศษ 11 อำเภอ และ 8 เขต โดยมีเมืองหยินชวนเป็นศูนย์กลางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการศึกษา มีประวัติศาสตร์นับพันปี ตั้งอยู่ที่ราบภาคกลาง มีพื้นที่ทั้งหมด 3,499 ตารางกิโลเมตร
การคมนาคมและโลจิสติกส์
ทางบก มีเครือข่ายทางรถไฟระยะทางรวม 769 กิโลเมตรและถนนทางหลวงที่อยู่รอบเมืองหยินชวน 12 สาย
ทางอากาศ เมืองหยินชวนมีท่าอากาศยานภายในประเทศชื่อว่าเหอตง จากหยินชวนมีเส้นทางบินสู่ ปักกิ่ง เซี่ยงไห้ กวางโจว นานจิง ซีอาน หนันโจว เฉิงตู ฉงชิ่ง คุนหมิง อูลูมู่ฉี เสิ่นหยัง และฉางซา และกำลังจะเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศในอนาคต
เศรษฐกิจ
ข้อมูลทั่วไปทางเศรษฐกิจ
ในปี 2005 มูลค่า GDP ของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยเท่ากับ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 11 แห่ง ซึ่งมากที่สุดใน 5 มณฑลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน
เกษตรกรรม
เอกลักษณ์พิเศษในการพัฒนาเกษตรกรรมของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย มี 4 ประการ ได้แก่
1. เอกลักษณ์เฉพาะด้านชนเผ่า เนื่องจากเป็นเขตปกครองตนเองที่มีสัดส่วนชาวมุสลิมมากถึง 1 ใน 3 ของจำนวนประชากร จึงพัฒนาสินค้าอาหารสำหรับชาวมุสลิมเป็นหลัก และเป็นแหล่งจัดส่งจำหน่ายอาหารมุสลิมที่สำคัญของประเทศจีน
2. ความสามารถการผลิตอาหารที่เพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณการบริโภคอาหารเฉลี่ยต่อคนสูงขึ้นกว่าเขตอื่นๆ
3. เอกลักษณ์ด้านทำเลที่ตั้ง ทำให้มีสินค้าเกษตรกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น นอกจาก เนื้อแกะทาน(ชนิดพันธุ์แกะ) เก๋ากี้พันธุ์เกรดเอ (สมุนไพรจีนสีแดง) ที่มีเฉพาะแต่ใน
หนิงเซี่ยแล้ว ยังมีเหล้าองุ่น แป้งมันสำปะหลัง และข้าวเป็นสินค้าคุณภาพที่ส่งจำหน่ายทั่วประเทศจีน
4. คุณภาพสินค้าได้มาตรฐานเนื่องจากทำเลและสภาพแวดล้อมที่ปราศจากมลพิษ ทำให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรกรรมปลอดสารพิษที่ได้มาตรฐาน ซึ่งผ่านการตรวจสอบรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากรัฐบาลจีน รวมทั้งติดอันดับหนึ่งในสิบด้านมาตรฐานของทุกๆปี
สินค้าเกษตรกรรมหลัก 4 ประเภท
1. นม แหล่งผลิตผลิตภัณฑ์นมจะตั้งอยู่ที่ เมืองหวูโจงและเขตพัฒนาในเมืองหยินชวน ปัจจุบันมีวัวนม 2 แสนตัว กำลังผลิตนม 5 แสนตันต่อปี มีจำนวนบริษัทธุรกิจแปรรูปนม 24 แห่ง ทำรายได้รวมต่อปี 106 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทที่โดดเด่นได้แก่ บริษัทผลิตภัณฑ์นมเซี่ยจิ้นและ บริษัทผลิตภัณฑ์นมเว่ยเว่ยเป่ยถ่า
2. เก๋ากี้ แหล่งผลิตเก๋ากี้จะตั้งอยู่ที่เมืองเว่ยหนิง บริเวณแม่น้ำชิงสุ่ยและเขาเห่อหลัน มีพื้นที่เพาะปลูก 19.25 ล้านไร่ มีกำลังผลิต 2.2 แสนตันต่อปี สินค้าเก๋ากี้ของหนิงเซี่ยครองส่วนแบ่งตลาดเก๋ากี้ร้อยละ 50 ของทั้งประเทศ บริษัทที่ทำธุรกิจนี้มี 100 กว่าแห่งในเขตหนิงเซี่ย มีแบรนด์ที่มีชื่อ คือ "หนิงเซี่ยหง" ผลิตภัณฑ์เก๋ากี้นอกจากขายผลสด ยังจะนำไปทำเหล้าเก๋ากี้ เครื่องดื่มเก๋ากี้และอาหารบำรุงสุขภาพอื่นๆ
3. เนื้อวัว เนื้อแพะ แหล่งผลิตตั้งอยู่ที่เขตเพาะเลี้ยงแพะเมืองเยี๋ยนถงหลิง เขตเพาะเลี้ยงวัว แพะ เมืองหยินฮวง และเขตเพาะเลี้ยงเขาลิ่วผาน ปัจจุบันมีแพะ 10 ล้านกว่าตัว วัวเนื้อ 1 ล้านตัว กำลังผลิตเนื้อ 2.5 แสนตันต่อปี ทำรายได้รวม 13.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเนื้อวัวแพะในเขตหนิงเซี่ยมี 11 แห่ง
4. มันสำปะหลัง ตั้งอยู่เขตเขาตอนใต้ ตอนกลาง และพื้นที่เพาะปลูกพืชสวนผักแม่น้ำเหลือง ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูก 1 ล้านไร่ มีกำลังผลิต 2.3 ล้านตันต่อปี บริษัทแปรรูปมันสำปะหลังในเขตหนิงเซี่ยมีมากกว่าหนึ่งร้อยแห่ง เป้าหมายของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย คือ เป็นฐานผลิตและแปรรูปแป้งมันสำปะหลังของภาคตะวันตกของประเทศจีน
สินค้าเกษตรกรรมตามท้องถิ่น
1. เหล้าองุ่น ผลิตบริเวณเขาเห่อหลัน ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกองุ่น 35,000 ไร่ กำลังผลิตเหล้าองุ่น 25,000ตัน เขตหนิงเซี่ยมีบริษัทผลิตเหล้าองุ่น 3 แห่ง มูลค่าทรัพย์สินรวม 18.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2. ข้าว ผลิตบริเวณเขตเพาะปลูกแม่น้ำเหลือง ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูกข้าว 5 แสนไร่ กำลังผลิต 1.68 แสนตันต่อปี
3. ข้าวโพด ผลิตบริเวณเขตเพาะปลูกข้าวโพดแม่น้ำเหลือง ปัจจุบันมีพื้นที่เพาะปลูก 1.25 ล้านไร่ และมีบริษัทแปรรูปข้าวโพด 14 แห่ง สามารถแปรรูปข้าวโพดได้ปีละ 5.1 แสนตัน
นอกจากนี้ผลผลิตทางการเกษตรของหนิงเซี่ยที่มีชื่อได้แก่ "หนิงชุนเบอร์ 4" เป็นข้าวสาลีของหนิงเซี่ยที่กระทรวงเกษตรจีนส่งเสริมให้บริโภค "ข้าวไข่มุก" เป็นข้าวที่ปลูกมากในภาคเหนือของจีน มีลักษณะเมล็ดกลม สีขาวและผิวมัน และข้าวโพดเป็นผลิตภัณฑ์เกษตรที่ปลูกมากของหนิงเซี่ย ปัจจุบันมีการส่งเสริมให้ใช้ข้าวโพดเป็นอาหารสัตว์
ปี 2004 มูลค่าการผลิตรวมภาคเกษตรกรรม 1.56875 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจากปีก่อน 812.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นมูลค่าการผลิตจากการเพาะปลูกร้อยละ 56.8 จากการปศุสัตว์ร้อยละ 32.8 จากการประมงร้อยละ 2.9 และจากการบริการที่เกี่ยวกับเกษตรกรรมร้อยละ 2.6
การปศุสัตว์ หนิงเซี่ยมีพื้นที่ทุ่งหญ้า 1,832.5 ล้านไร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบพื้นที่ทุ่งหญ้า ปศุสัตว์ใหญ่ของประเทศจีน ปี 2004 มีจำนวนวัว 1 ล้านตัว (เป็นวัวนม 1.86 แสนตัว ผลิตนมได้ 4.69 แสนตัน) แพะ 10 ล้านตัว สุกร 1.176 ล้านตัว สัตว์ให้เนื้ออื่น ๆ 11.3 ล้านตัว ผลิตเนื้อสัตว์ 2.5 แสนตัน และไข่ 78,000 ตัน
การประมง หนิงเซี่ยมีพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 1.2 แสนไร่ สามารถผลิตอาหารประเภทสัตว์น้ำได้ 56,000 ตัน ซึ่งมากเป็นอันดับหนึ่งในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ร้อยละ 70 ส่งจำหน่ายนอกเขตหนิงเซี่ย
อุตสาหกรรม
ปี 2005 มูลค่ารายได้รวมจากธุรกิจประเภทอุตสาหกรรม 7.9875 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจากปีก่อนร้อยละ 22.68 ช่วง 7 เดือนแรกของปี 2006 การลงทุนด้านพัฒนาเทคโนโลยีมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น มูลค่าการลงทุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีที่เสร็จสิ้นแล้วมีมูลค่า 382 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรม 350.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 29.90 การลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมประเภทปิโตรเคมี เครื่องจักรยนต์ ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง และเวชภัณฑ์มีมูลค่าการลงทุน 88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 14.375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 135.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 32.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 96 229 268 128 และ 850 ตามลำดับ อุตสาหกรรมประเภทสิ่งทอมีมูลค่าการลงทุน 25.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 15.25 อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมโลหะและถ่านหินมีมูลค่าการลงทุนลดลง ซึ่งมีมูลค่าลงทุน 25.75 และ 10.375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
การค้าระหว่างประเทศ
มูลค่าการค้าระหว่างประเทศในปี 2005 เท่ากับ 967 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นมูลค่าส่งออก 687 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่านำเข้า 280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศคู่ค้าหลัก ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์
บริษัทที่เป็นผู้นำในการส่งออกของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย ได้แก่ บริษัทชิงถงเซี่ยอลูมิเนียมจำกัด บริษัทโจงหยินขนสัตว์ บริษัทหนิงเซี่ยนำเข้าส่งออกโลหะ และบริษัทฉี่หยวนเวชภัณฑ์
เนื่องจากนโยบายการค้าของประเทศจีนและสภาวะตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้โครงสร้างการส่งออกของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยมีการปรับเปลี่ยนตาม โดยในไตรมาสแรกของปี 2006 มูลค่าการส่งออกขนแกะและผลิตภัณฑ์จากขนแกะ และยาชีวภาพมีปริมาณเพิ่มขึ้นคือ 17.71 และ 22.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจากปีก่อนร้อยละ 107 และ 127 ตามลำดับ โดยขนแกะของหนิงเซี่ยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 70 ของโลก สินค้าประเภทเครื่องจักรยนต์และเทคโนโลยีขั้นสูงมีมูลค่าการส่งออกในอัตราที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าส่งออก 17.42 และ 57.66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.44 และ 4.32 ส่วนสินค้าประเภททรัพยากรแร่ธาตุมีปริมาณการส่งออกลดลง โดยซิลิคอนมีมูลค่าส่งออก 27.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 14.59 แมกนีเซี่ยมมีมูลค่าส่งออก 14.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 20.56
การลงทุนระหว่างประเทศ
การลงทุนจากผู้ประกอบการต่างประเทศ มีอัตราส่วนการลงทุนในธุรกิจประเภทต่างๆ ดังนี้ เกษตรกรรมร้อยละ 6 อุตสาหกรรมหนักร้อยละ 18.3 อุตสาหกรรมเบาร้อยละ 40.3 พลังงานร้อยละ 4.3 คมนาคมร้อยละ 0.2 โทรคมนาคมร้อยละ 0.2 และอื่น ๆ ร้อยละ 30.7 ประเทศที่มาลงทุนในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย สิงคโปร์ รัสเซีย เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย เกาหลีใต้ แคนาดา ฮังการี และโปแลนด์ นอกจากนั้นยังประกอบด้วยฮ่องกง มาเก๊าและไต้หวัน ซึ่งมาลงทุนคิดเป็นร้อยละ 70 ของนักลงทุนต่างชาติ
เขตหนิงเซี่ยมีการระดมเงินจากต่างประเทศ เงินกู้ยืมส่วนหนึ่งนำไปพัฒนายกระดับคุณภาพสาธารณูปโภค อาทิ โทรคมนาคม การไฟฟ้า การเกษตร สาธารณสุข การศึกษา การประปา ทางหลวง สนามบิน ท่อลำเลียงก๊าซธรรมชาติ อีกส่วนนำไปยกระดับคุณภาพการผลิตสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของชาวหนิงเซี่ย อาทิ กรดมะนาว แผ่นดีวีดี ผลิตภัณฑ์นม อุปกรณ์ทางรถไฟ กระดาษ และปูนซีเมนต์ ประเทศที่ให้เงินกู้ยืมแก่เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยได้แก่ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี เยอรมนี ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก แคนาดา เกาหลีใต้ ออสเตรีย ฟินแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ และธนาคารโลก
ธุรกิจการค้าไทยในหนิงเซี่ย
บริษัทหยินชวนเจียไต๋จำกัดเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ร่วมทุนกับมณฑล หนิงเซี่ยดำเนินธุรกิจประเภทปศุสัตว์ ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2541ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท โรงงานมีพื้นที่ 22.5 ไร่ สามารถผลิตอาหารสัตว์ได้ปีละ 1.2 แสน สำหรับตัวเลขการค้าพบว่า ในปี 2548 หนิงเซี่ยนำเข้ายางธรรมชาติจากไทยมูลค่า2.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การท่องเที่ยว
ปี 2005 จำนวนนักท่องเที่ยวของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยมีประมาณ 5 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.8 ทำรายได้จากการท่องเที่ยว 221 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.3 ปัจจุบันมีบริษัทธุรกิจท่องเที่ยว 80 แห่ง รวมทั้งโรงแรมมีระดับ 42 แห่ง
เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ 3 แห่งได้แก่ 1.เขตต้าหยินชวน (ทะเลสาปซา) 2. เขตซาโบโถว 3. เขตเขาลิ่วผาน จุดท่องเที่ยวที่สำคัญมี 90 กว่าจุด โดยมีเส้นทางท่องเที่ยวหลักได้แก่ เส้นทางล่องแม่น้ำเหลือง เส้นทางบุกทะเลทราย เส้นทางเดินเท้ากำแพงเมืองจีน ทะเลสาปซา เขาเหอหลัน เขาลิ่วผาน เส้นทางสายไหม และโบราณสถานอาณาจักรซีเซี่ย
ข้อมูลจากเว็ปไซต์ http://www.nxdofcom.gov.cn, http://www.nx.cninfo.net/, http://www.nxetc.gov.cn/index.asp
 | 
หน้าแรก
สถิติวันนี้ 
สถิติเดือนนี้ 
สถิติปีนี้