ชีวิตนักข่าว ตอน...บ่อน้ำร้อนเบตง
โดยณรงค์ ชื่นนิรันดร์
16 ก.ย.49
ประมาณ ปลายปี 2549 ผมได้มีโอกาสเดินทางไปอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อติดตามงานด้านการประชาสัมพันธ์ และตรวจเยี่ยมสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเบตง แต่ก่อนที่พวกเราจะเดินทางไปตรวจราชการ ผมและคณะก็ได้เดินทางไปดูบ่อน้ำพุร้อนที่ บ้านตาเนาะแมเราะ ในเขตพื้นที่ อำเภอเบตง
พวกเรานัดกันว่า 06.00 น.พร้อมกันที่ล็อบบี้โรงแรม เพื่อเดินทางไปดูบ่อน้ำร้อน คืนนั้นผมนอนแทบไม่หลับ เพราะสถานที่จะไป เคยเป็นพื้นที่สีแดงในเขตอิทธิพลของโจรจีน คอมมิวนิตส์ ที่เกรียงไกร ในด้านการสู้รบ เพื่อแย่งชิงดินแดนมาเลเซียจากอังกฤษ ในอดีต และเพิ่งจะลงนามยุติสงครามกับมาเลเซีย เมื่อปี 2532 นี่เอง โดยการลงนามครั้งนั้นดำเนินเซ็นสัญญาสงบศึก ที่โรงแรมลีการ์เดนท์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ชาวจีนที่ร่วมต่อสู้ ในเขตพื้นที่ อำเภอเบตง ไม่กลับไปอยู่มาเลเซีย เพราะกลัวว่าจะถูกสังหาร จึงได้ตั้งรกรากอยู่ในตำบลตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา ประกอบอาชีพทำสวนส้ม และผลิตส้มเช้ง จนมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับ จากนักชิมทั่วประเทศ
รถตู้ของพวกเรามุ่งหน้าไปทางจังหวัดยะลา ห่างจากตัวอำเภอเบตง ประมาณ 17 กิโลเมตร สองข้างทางยังคงมือมิด สลับกับป่าเขา เส้นทางที่ไปเป็นทางลาดยางชนบท แคบ ๆ ลึกเขาไปในป่าเขา แสงไฟจากในบ้านเริ่มปรากฏขึ้นเป็นบางหลัง ที่ต้องลุกขึ้นมาหุงหาอาหารเพื่อให้ลูกกินก่อนไปโรงเรียน
รถตู้ขับวนเวียนขึ้นไปบนภูเขาสูง หมอกลงปิดทางขึ้น แต่ก็พอที่จะมองเห็นเส้นทาง ได้ไม่ไกลนัก ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นหุบเหวลึกอยู่ข้างล่าง ที่ยังพอมองเห็นสวนผลไม้ ที่เป็นสวนส้ม ปลูกกันเป็นหย่อม ๆ รถตู้วนภูเขาอยู่หลายรอบในที่สุดพวกเราก็มาถึง สวนพฤษาชาติ ที่มีดอกไม้นานาชนิด ไม้ดอกส่วนใหญ่ เป็นไม้ดอกเมืองหนาว ที่ปลูกกันมากทางภาคเหนือของไทย และรอบ ๆ สวน ก็มีรีสอร์ท ที่สร้างเป็นที่พัก สำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเลเซีย ที่มาพักผ่อน เพราะผู้ประกอบการที่นี่ก็คือ อดีตโจรจีนคอมมิวนิตส์ ที่กลับมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และได้หันมาประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว และปลูกไม้ผล ขายเลี้ยงชีพท้องฟ้าเริ่มสว่าง แต่วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นไม่ค่อยสดใสนัก เพราะมีเมฆมาก จึงไม่ได้เห็นความงดงามของพระอาทิตย์ทอแสง ในยามเช้า
เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง พวกเราจึงขึ้นรถย้อนกลับ มาทางเดิม เส้นทางยังมืดมัวแต่ก็เริ่มเห็นเด็กนักเรียน ออกมารอรถโรงเรียน เป็นระยะ ในที่สุดก็มาถึงบ้านตาเนาะแมเราะ ซึ่งเป็นชื่อที่ผมจำได้อย่างแม่นยำ เพราะชื่อแปลกดี ร้านค้าเริ่มเปิด ส่วนใหญ่เป็นร้านกาแฟ ข้าวต้ม และ ก๋วยเตี๋ยว และบริเวณตรงกันข้ามก็เป็นที่ตั้งของ บ่อน้ำร้อน
ไอน้ำ ปกคลุมทั่วบริเวณบ่อน้ำร้อน พวกเราเดินเข้าไปดูปรากฏว่า รอบ ๆ บ่อน้ำร้อน มีถุงพลาสติก เศษขยะค่อนข้างมาก อีกฟากหนึ่ง กำลังมีการก่อสร้างอาคารที่พัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาพักผ่อน และอาบน้ำร้อน เพื่อรักษาสุขภาพ แต่ก็ยังสร้างไม่เสร็จ อีกมุมหนึ่งด้านอนุสาวรีย์พญานาค มีชาวบ้านมาอาบน้ำร้อน อยู่หลายคน เพราะน้ำร้อนแห่งนี้ มีความอุ่นพอที่จะอาบได้ และแถมยังมีแร่ธาตุรักษาโรคผิวหนัง ได้ชะงัด อีกด้วย
เพื่อทดสอบว่า น้ำร้อนหรือไม่ พวกเราก็ไปซื้อไข่ไก่ ที่ชาวบ้านเอามาขาย นำมาแช่ในน้ำร้อน เขาบอกว่า แช่ไว้ประมาณ 7-10 นาที ไข่ไก่ก็จะสุก กินได้ โดยเขาทำที่แช่ไข่จำนวน 2 ที่ เพื่อใช้ในการแช่ไข่โดยเฉพาะ พวกเราก็ลองนำไข่ไก่มาแช่ดูปรากฏว่า สุก ครับ
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ใต้โลกร้อน เพราะน้ำยังร้อน และลวกไข่..นะ ไข่ไก่ ...น่ะ
ที่บ้านตาเนาะแมเราะ แห่งนี้นอกจากจะมี บ่อน้ำร้อน ที่เลื่องลือแล้ว ยังมีอุโมงค์ ขนาดใหญ่ ที่สร้างด้วยฝีมือมนุษย์ เมื่อครั้งที่ชาวบ้านแห่งนี้ได้ร่วมกันต่อสู้กับอังกฤษ และรัฐบาลมลายา เมื่อครั้งที่พวกเขา เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิตส์มลายา หรือที่ฝ่ายไทย เรียกว่า โจรจีนคอมมิวนิตส์ หรือ จคม. นั่นเอง
* * * * * * * * * * * * * |