ชีวิตนักข่าว...ตอน...พระบรมเสด็จหาดใหญ่หลังเหตุระเบิด
โดยณรงค์ ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าว 8 ว.

ทรงพระเจริญ.... ทรงพระเจริญ... ทรงพระเจริญ... ดังกึกก้องตลอดถนนธรรมนูญวิถี สลับกับการสบัดธงไตรรงค์ ที่อยู่ในมือ เสียงดัง พรึบพลับ ดั่งคล้ายสายลมเย็น ที่กำลังจะมากระทบกลางใจของผู้ที่เฝ้ารอคอย การเสด็จพระราชดำเนินของ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ ที่จะเสด็จพระราชดำเนิน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังจากที่มีเหตุการณ์ระเบิดเมื่อคืนที่ 16 กันยายน 2549

และเมื่อเวลา 18.05 น. วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2549 เป็นเวลาที่ทุกคนเฝ้ารอคอย ก็มาถึง รถยนต์พระที่นั่ง หมายเลข รยล.13 จอดเทียบราชพระบาท ที่หัวถนนธรรมนูญวิถี ตัด กับถนนนิพัทธิ์สงเคราะห์ 3 ที่ชาวบ้านเรียกถนนสายนี้ว่าสาย 3 สมเด็จพระบรมโอรสสาธิราช ฯ สยามกุฏราชกุมาร พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงค์เธอ องค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ ได้เสด็จมาถึง ราษฎรที่มารอรับเสด็จนับพันคน ต่างพร้อมใจกัน เปล่งเสียงร้อง ทรงพระเจริญ .... ทรงพระเจริญ.....ทรงพระเจริญ..อย่างไม่ขาดสาย พร้อมกับสบัดธง ดังพรึบพลับ ราวกับเสียงเต้นของหัวใจที่ราษฎรทุกคนเข้าเฝ้า ผม และ คุณไพฑูรย์ ศรีรอด ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 สงขลา เป็นผู้หนึ่งที่รับเสด็จอย่างใกล้ชิด เพราะผมได้ทำหน้าที่บันทึกภาพนิ่ง ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้

เมื่อทั้งสองพระองค์ เสด็จมาถึง ทรงปฏิสันถาร กับราษฎรที่เข้าเฝ้า ตลอดข้างทางที่เสด็จพระราชดำเนินถึง ด้วยสีพระพักตร์ ที่แสดงถึงความห่วงใย ต่อราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ระเบิดเมื่อคืนที่ผ่านมา และไม่คาดคิด ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนิน จากฝั่งขวาของถนน ตัดมาฝั่งซ้าย และเสด็จลงชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้าโอเดียน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ อันเป็นที่ตั้งของ ผับ ที่ชื่อว่า ดีฟ วันเดอร์ มิสิค ผับ ในทันที ตามด้วยเสียงร้องขอ ขององครักษ์ที่ ออกคำสั่งห้ามสื่อมวลชนว่า อย่าลงไป ...อย่าลงไป... เพราะเท่าที่ดูในผับค่อนข้างคับแคบและเจ้าของร้านก็ไม่ได้จัดให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และไม่คาดคิดว่า ทั้งสองพระองค์จะเสด็จลงไป โดยบริเวณนี้เป็นจุดระเบิด จุดแรก ที่ทำให้รถตุ๊กตุ๊ก ถูกไฟไหม้ ได้รับเสียหายไปหนึ่งคัน พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์จำนวนหนึ่ง และยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกส่วนหนึ่งด้วย

เมื่อทั้งสองพระองค์ ได้เสด็จขึ้นมาจากชั้นใต้ดินของผับ ก็ทรงแวะเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่เฝ้ารอรับเสด็จอยู่บริเวณ ด้านหน้า ผับ ดีฟ วันเดอร์ ณ จุดเกิดเหตุ อย่างไม่ถือพระองค์ ทรงตรัสถามผู้เข้าเฝ้า ถึงการเกิดเหตุการณ์ และพระองค์ยังทรงฝากความห่วงใย จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงห่วงใยราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์

จากนั้น ทั้งสองพระองค์ ได้เสด็จไปทอดพระเนตร ยังจุดเกิดเหตุที่สอง ที่อยู่ใกล้เคียงกัน โดยทุกคนไม่คาดคิดเช่นกันว่า พระองค์จะเสด็จ เพราะบริเวณนั้นมีราษฎรเฝ้ารับเสด็จเต็มไปหมด และเจ้าหน้าที่ก็ไม่กันพื้นที่ไว้ แต่ทั้งสองพระองค์ทรงมีความห่วงใยมาก จึงมีพระประสงค์ที่จะทอดพระเนตรจุดเกิดเหตุทั้งหมด ไม่ว่าจุดนั้นจะเสด็จไปด้วยความยากลำบากเพียงไหนก็ตาม ทำให้พสกนิกร ที่เฝ้ารับเสด็จต่างเปล่งเสียงร้องคำว่า ทรงพระเจริญ ....อย่างไม่ขาดสาย นำความปลื้ม ปิติ แก่ผู้เข้าเฝ้ารับเสด็จ บางคนน้ำตาคลอ ไหลอาบแก้ม ก้มลงกราบกับพื้นถนน ด้วยความ ที่ทั้งสองพระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งราษฎรของพระองค์ แม้นว่าคืนที่ผ่านมาจะเป็นคืนที่เลวร้ายที่สุด ในชีวิต ที่เหมือนตกอยู่ในสภาวะสงคราม

ทั้งสองพระองค์ ยังคงเสด็จพระราชดำเนิน ต่อไปยัง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไทยลุ่นพาณิชย์ เพื่อทรงพักผ่อนอริยะบท ประมาณ 5 นาที จากนั้นก็ได้เสด็จพระราชดำเนินต่อ และทรงปฏิสันถาร กับราษฎรที่เฝ้ารับเสด็จถึงปลายถนนธรรมนูญวิถี ตัดกับถนนแสงจันทร์ จนเวลาเริ่มมืดค่ำ จากนั้นทั้งสองพระองค์ ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินย้อนกลับ แวะจุดเกิดเหตุจุดที่ 3 บริเวณหน้าร้านนิวเชอร์รี่ นวดแผนโบราณ ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนที่ผ่านมา บริเวณนี้เป็นจุดที่เกิดระเบิด รุนแรงอีกจุดหนึ่งที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 2 ศพ กลิ่นคาวเลือด และควันดินปืน ยังไม่ทันจางหาย ทั้งสองพระองค์ ก็ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรโดยไม่ถือพระองค์ ณ จุดนี้ ผม ได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด เพราะต้องเก็บภาพนิ่ง ที่เป็นภาพประวัติศาสตร์ ที่จะต้องถูกบันทึกไว้ ว่าการเสด็จของทั้งสองพระองค์ ได้ให้ความเมตตาและไม่ถือพระองค์ ทรงโน้มพระวรกาย และประทับ จนเสมอผู้เข้าเฝ้า ทรงตรัส กับญาติผู้ที่เสียชีวิตว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะนำรายละเอียดทั้งหลายนี้ ไปถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งสองพระองค์ทรงเป็นห่วงพวกเรามาก และทรงเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมา มันเป็นแผนของฝ่ายตรงกันข้ามที่เขาอยากให้พวกเราตกใจกลัว เมื่อเกิดการสูญเสีย เราต้องทำให้ดีที่สุด เราต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ระวังตัว ทั้งสองพระองค์จะทรงหาวิธีช่วยเหลือ ขณะนี้ท่านยังรักษาพระเนตร ไม่เช่นนั้นท่านจะเสด็จฯ มาด้วยพระองค์เองแล้ว ถ้าหากท่านแข็งแรงอยู่ ทุกคนต้องมีกำลังใจ หากทุกคนไม่มีกำลังใจก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายกาจ น่าตกใจมาก แต่เราต้องเข้มแข็งไว้ก่อนในตอนนี้ ผู้ใหญ่เขาก็ช่วยดูแล สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ท่านสั่งมาให้มาช่วยดูแล ขอให้มีกำลังใจ และเป็นหูเป็นตา " เมื่อพระองค์ตรัสเสร็จ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ฯ ได้เสด็จเข้าไปในร้านนิวเชอร์รี่ นวดแผนโบราณ เพื่อดูสภาพของร้านที่ได้รับความเสียหาย ด้วยพระองค์เอง

ต่อจากนั้น ณ บริเวณเดียวกัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปฏิสันถาร กับเพื่อนและญาติประมาณ 10 คน ของนาย เจสซี ลี แดเนียล ครูสอนภาษาอังกฤษชาวแคนาดา ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ โดยญาติของนายเจสซี หลายคนต่างพนมมือ ด้วยแววตา ที่น้อมรับความเมตตาจากพระองค์ ที่ทรงเยี่ยมและทรงเป็นกำลังใจแก่ชาวต่างประเทศอย่างพวกเขา โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงตรัส เป็นภาษาอังกฤษ อย่างไม่ถือพระองค์

จากการที่ ผม ได้ตามเสด็จ อย่างใกล้ชิด ทั้งสองพระองค์ทรงมีสายพระเนตรที่เปี่ยมด้วยความเมตตา บ่งบอกถึงความห่วงใย ต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ อย่างหาที่สุดมิได้ และทรงเจ็บปวดพระทัยที่ราษฎรของพระองค์ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แม้นกระทั่งชาวต่างชาติพระองค์ก็ทรงห่วงใย โดยไม่แยกว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นเพียงชาวต่างชาติ และได้ทรงกำชับให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดูแลอย่างใกล้ชิดดุจพสกนิกรของพระองค์เอง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *