ชีวิตนักข่าว...น้ำไหลดั่งเสียงดนตรี ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ ผู้สื่อข่าว 8 ว.
ชีวิตนักข่าวที่ อยู่บ้านนอกอย่างตะกั่วป่า เป็นชีวิตที่นักข่าวคนอื่นไม่มีโอกาสได้สัมผัส เหมือนอย่างผม เพราะที่นั่นแม้นว่าธรรมชาติจะถูกทำลายไปมาก แต่ก็ยังมีความสวยงาม เป็นธรรมชาติอยู่มาก ช่วงวันหยุด จึงเป็นวันที่พวกเราใฝ่ฝัน โดยเฉพาะวันหยุด ที่พวกเราจะได้ปั่นจักรยานไปเที่ยว ในป่าเขาลำเนาไพร
จักรยานเสือภูเขา เป็นพาหนะที่พวกเราชื่นชอบมาก ทุกวันเสาร์อาทิตย์ พวกเราจะปั่นจักรยานไปเที่ยวป่าเขากัน
.วันนั้นจำได้ว่า เราได้ชักชวนกันเดินทางไปบ้านช้างเชื่อ ตำบลเหล อำเภอกะปง จังหวัดพังงา เราออกจากตะกั่วป่า จำได้ว่าอากาศดีมาก ผมจำวันเดือน ไม่ได้ แต่คาดว่าจะเป็นปี พ.ศ.2544 ผมพร้อมด้วยเพื่อนต่างวัย อันประกอบด้วย ดาบพันธ์ หรือชื่อเต็ม ๆว่า ดต.ธีรพันธ์ ชลสิทธิ์ อายุแก่ประมาณ 50 ปีเศษ แต่ร่างกายแข็งแรงดี มักจะบอกพวกเราเสมอว่า สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง พี่ผู้หญิงอายุประมาณ 50 ปี โกเม่ง หรือคุณทินกร เสี่ยนากุ้ง ตอนนี้หันไปทำโรงแรมที่เขาหลัก
เราเดินทางไปบ้านช้างเชื่อ ซึ่งห่างจากตะกั่วป่าไปประมาณ 25 กม.ไปทางทิศตะวันออก เราเดินทางเลียบคลองตะกั่วป่า ที่ยังมีน้ำไหลผ่าน แต่ไม่ลึกมากนัก น้ำไหลผ่านเอื่อย ๆ พวกเราปั่นกันมาไกลมาก ก็เลยหยุดพัก จากนั้นก็เดินลงไปในคลองตะกั่วป่า ซึ่งแต่เดิมต้องเรียกว่าแม่น้ำตะกั่วป่า มีความอุดมสมบูรณ์ และเป็นเส้นทางคมนาคม ทางน้ำไปยังอาณาจักรศรีวิชัย หรือใช้เดินทางไปยังเมืองไชยา แต่ปัจจุบันนี้ แม่น้ำกลับตื้นเขินเพราะเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่ดีบุก มีการถลุงแร่ดีบุก จนเหลือแต่ก้อนกรวด ใสสะอาด น้ำใส พวกเราจึงตัดสินใจลงไปอาบน้ำ
ผมนอนลงไปในน้ำที่ตื้น พอให้น้ำไหลผ่านหู ทำใจให้นิ่ง หลับตา ฟังเสียงน้ำไหล ช่างไพเราะอะไรเช่นนี้ ที่พูดนี่ไม่ใช่นิยาย น้ำไหล ให้เสียงที่ต่างกัน เหมือนกับเสียงดนตรี ผมเคยดูสารคดี ของ NHK ที่ศิลปินชาวญี่ปุ่น ที่เดินทางไปตามแม่น้ำ และน้ำตก เขาบอกว่า การวางก้อนหินขวางทางน้ำในลักษณะที่ต่างกัน กระแสน้ำไหลจะให้เสียงที่ต่างกัน ราวกับการเล่นดนตรีวงใหญ่ ผมจึงได้ลองลงไปนอนในลำคลองตะกั่วป่า แหม๋สุขใจจริง ๆ ครับ ถ้ามีโอกาสผมจะไปอีก และผมอยากจะเชิญชาวเสือทุกท่าน เดินทางไป ไม่ไกลครับ
จากนั้น พวกเราปั่นต่อไปที่บ้านช้างเชื่อ ที่นั่นเคยเป็นที่ท่องเที่ยวด้วยช้าง แต่ตอนที่เราไปเมื่อปี 2544 ไม่มีแล้ว เหลือแต่ปางช้างที่ทรุดโทรม เราเดินทางต่อเพื่อไปดูต้นน้ำ เราไม่ได้นอนเพราะที่นั่นเป็นป่ารกทึบ พวกเราก็ได้แต่ฟังเสียงน้ำตกที่ดังมาแต่ไกล ด้วยความไพเราะ และหัวใจที่พองโต ถึงเวลาเย็น เราพากันกลับ ตะโกลา อ้อ ตะกั่วป่า วันนี้เอาแค่นี้ก่อน
บันทึกความทรงจำเมื่อวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม 2550 เวลา17.28 น : ยังมีเพื่อนร่วมงานอยู่หลายคนที่ยังไม่กลับบ้าน คือ คุณตุ๊ก คุณเหมียน คุณโอ๊ะ และคุณฮวง
* * * * * * * * * *
|