www.narongthai.com  

www.narongthai.com เป็นเว็บไซต์เชิงวิชาการ ที่สามารถนำอ้างอิงได้ตามหลักวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                           
 

 ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
https://www.facebook.com/profile.php?id=100010475651732
สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 สถิติวันนี้ 2 คน
 สถิติเมื่อวาน 115 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
2592 คน
14416 คน
1706860 คน
เริ่มเมื่อ 2010-01-13

     

จุดรถแก็ประเบิด ที่แหลกละเอียด พร้อมรถบรรทุกปลาทู ที่เห็นรถยนต์ข้างหน้าคือรถโดยสารของบจง.สายตะกั่วป่า - ภูเก็ต เลยไปอีกก็จะเป็น สถานีอนามัยทุ่งมะพร้าว และยังมีรถแก็ปที่ยังไม่ระเบิด จอดอยู่อีก 1 คัน ถ้าคันนี้ระเบิดขึ้นมาอีก คนจะตายมากกว่านี้ ที่พื้นถนนลาดยางจะเต็มไปด้วยเศษเนื้อมนุษย์และเนื้อปลาปะปนเต็มพื้นจนมองไม่เห็นพื้นสีดำของถนนลาดยาง     ที่มาของภาพ :

http://www.thaijustice.com/webboard.asp?sub=0&id=1412730

ชีวิตนักข่าว ตอน...รถแก๊ประเบิดที่ทุ่งมะพร้าว
โดย ณรงค์ ชื่นนิรันดร์

ผู้สื่อข่าว ผู้รายงานข่าว นักสื่อสารมวลชน จะเรียกอย่างไรก็แล้วแต่ สุดท้ายก็จะรู้จักในนาม นักข่าว ซึ่งหมายถึง ผู้ที่นำเอาสารไปเผยแพร่ ให้ผู้รับสารได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ที่รวดเร็วทันใจ และทันที สารหรือข้อมูลที่ว่านั้น จะมีข้อความเป็นอย่างไร ก็ค่อยว่ากันในรายละเอียด แต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือ ก่อนที่ผู้รับสาร จะได้รับทราบข้อมูล นักข่าวก็จะต้องได้ข้อมูลมาก่อน

เหตุการณ์ที่จะเล่าให้ฟังและต้องจดจำตลอดชีวิต ขณะที่ผมนั่งตัดต่อข่าว ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ภูเก็ต ต่อมาเปลี่ยนเป็นช่อง 11 ภูเก็ต เมื่อวันที่15 กุมภาพันธ์ 2534 เวลา ประมาณ 17.00 น .ผมได้รับแจ้งจากเพื่อนร่วมงานในสถานีว่า มีเหตุรถระเบิดที่สวนมะพร้าว มีคนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ทันทีที่ได้รับแจ้ง ผมโทรศัพท์ตรวจสอบข้อมูลข่าวในทันที สิ่งแรกที่ทำคือ โทรศัพท์ไปที่ 191 ศูนย์รวมข่าวพรหมเทพภูเก็ต เพราะมีทางเดียวเท่านั้นที่จะรู้ว่า เกิดเหตุขึ้นที่ไหน แต่ผมได้รับคำตอบว่า ไม่มีเหตุเกิดที่สวนมะพร้าว ซึ่งเป็นหมู่บ้านหนึ่ง ในบ้านคอเอน ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต แน่นอนผมถามย้ำไปหลายครั้ง 191 ก็ยังยืนยันว่า ไม่มีเหตุจริง ๆ

ผมเองก็สบายใจขึ้นว่า คงไม่มีเหตุการณ์รุนแรง อาจจะมีการแจ้งข่าวลวง ของคนชอบเล่นตลก ซักพักประมาณเกือบทุ่มหนึ่ง ก็มีน้องที่ทำงานร่วมกันที่สถานีและบ้านก็อยู่ใกล้กับโรงพยาบาล ก็โทรมาบอกว่า มีคนเจ็บจากเหตุระเบิดมารักษาตัวที่ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และได้รับรายงานว่า เหตุเกิดที่บ้านทุ่งมะพร้าว ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา มีคนเจ็บและตายนับร้อยคน ไม่ใช่บ้านสวนมะพร้าว ที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โอ้ย...ตายแล้ว ผมรีบฉวยกล้องวีดีโอ บึ่งรถลงจากภูเขารังอันเป็นที่ทำงาน ไม่ถึง 3 นาที ผมก็ถึงโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งอยู่ใกล้กัน เพียงลงจากเขาประมาณ 300 เมตรก็ถึงแล้ว

ไม่ใช่เรื่องตลกแน่ ผมตรงดิ่งไปที่ห้องฉุกเฉิน พบผู้หญิงวัยกลางคน รูปร่างผอมสูง หน้าตาดูมอมแมม เหมือนกับไปคลุกฝุ่นมาใหม่ ๆ สวมเสื้อผ้าฝ้าย ดูเก่าเก็บ ทรงผมกระเซิง ตั้งชัน เหมือนกับโดนผีหลอก ความจริงแกไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก เพียงแต่ประสาทหู ได้รับแรงอัดของระเบิดอย่างหนัก ทำให้หูอื้อ ผมเริ่มติดต่อขอสัมภาษณ์ทันที ซึ่งเธอก็ตกลง แต่กว่าจะพูดเข้าใจ ก็ต้องใช้เวลานาน

"น้าครับ เรื่องมันเกิดขึ้นยังไงครับ เล่าให้ฟังหน่อย " ผมตั้งคำถาม

"คือ ฉัน นั่งรถโดยสาร สายตะกั่วป่า - ภูเก็ต ออกจาก ภูเก็ต เที่ยว บ่าย 3 โมงเย็น ว่าจะไปตะกั่วป่า เพื่อหาญาติ ที่นั่น " น้าแกเริ่มเล่า ซุ่มเสียงดูแหบพร่า เวลาจะฟังคำถามจากผม แกจะเอียงหู เพราะแกไม่ค่อยได้ยิน เนื่องจาก แรงจากระเบิดทำให้หูแกไม่ค่อยได้ยิน และน้าแกก็เล่าต่ออีกว่า

"เมื่อรถโดยสาร วิ่งมาถึง บ้านทุ่งมะพร้าว ก็มองเห็นว่า มีรถบรรทุกสิบล้อพ่วง ขนวัตถุระเบิด พลิกคว่ำ อยู่ข้างทาง บริเวณนั้น เป็นทางโค้งรูปครึ่งวงกลม เป็นย่านชุมชน มีตลาดนัด รถโดยสารที่ฉันนั่ง ติดอยู่เป็นคันที่ สาม คันหน้าเป็นรถขนวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ถัดออกไป คันที่อยู่ติดกับ รถพ่วง ที่ขนระเบิด เป็นรถปิกอัพบรรทุกปลา จะไปส่งที่ตะกั่วป่า "น้าแกพยายามลำดับเหตุการณ์ ให้ฟัง อย่างกระท่อนกระแท่น เพราะยังตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้น และเล่าต่อไปว่า

" ตอนนั้นยืนอยู่ตรงช่องทางเดินตรงกลางของรถ ข้างหน้ามีผู้หญิง และผู้ชายยืนขวางหน้าอยู่ ทุกคนก็ชะโงกหน้า ดูว่าข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นรถยังไม่ระเบิด มองออกนอกหน้าต่างรถ ก็เห็นชาวบ้านมุ่งดู รถคว่ำ บางคนก็หยิบฉวยเอาแก๊ประเบิด หอบติดมือไป ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เห็นยืนอยู่บนรถพ่วงระเบิดที่พลิกคว่ำอยู่ ร้องตระโกนห้ามชาวบ้านว่า อย่าเอาไป แต่ชาวบ้านก็ไม่ฟัง ตอนที่ ฉันจะลงจากรถโดยสาร ก็ได้ยินเสียงดัง บึม... แล้วตัวฉันก็ลอย ขึ้นไปบนหิ้งวางของที่อยู่ติดเพดานหลังคารถ ไม่รู้มันลอยขึ้นไปยังไง สิ้นเสียงระเบิด รอบกายมีแต่ความมืดมิด มีแต่ควัน พอควันจางลง คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าฉันนอนตายอยู่ตรงหน้า ตอนนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สักพัก ก็มีคนขึ้นมาช่วย ไม่รู้เหมือนกันว่า มีคนตายมากน้อยแค่ไหน "

ผมฟังแกเล่าเสร็จ ก็คิดทันทีว่า ต้องไปที่เกิดเหตุเดี๋ยวนี้ ทุ่งมะพร้าวอยู่ตรงไหนหว่า ตอนนี้ก็เกือบ 2 ทุ่มแล้ว เวลาที่จะออกข่าวก็ไม่มี นอกจากจะแทรกในรายการ ตกลงว่า ไม่ไปที่เกิดเหตุ แต่จะเดินทางไปทำข่าว ในเช้าวันรุ่งขึ้น ทั้ง ๆ ที่อยากจะออกเดินทางไปเดียวนี้เลย แต่ก็ติดขัดเรื่องรถ และช่างภาพ ที่ไม่รู้ไปเที่ยวที่ไหน

ผมฟังด้วยความตื่นเต้น และคาดไม่ถึง ว่าจะมีเรื่องแบบนี้ ทั้งที่ผมก็พบเหตุการณ์เครื่องบินตก ที่ภูเก็ตเมื่อปี พ.ศ.2529 เหตุการณ์แก๊ประเบิด อะไรนี่ มีด้วยเหรอ และแก๊ปที่ว่านี่ มันมาจากไหน

รุ่งเช้าประมาณ 06.00 น.ผมพร้อมด้วย คุณปรีชา ออกเดินทางอย่างเร่งรีบ ไปยังจุดเกิดเหตุ ที่บ้านทุ่งมะพร้าว ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ตามคำบอกเล่าผู้ประสบเหตุ

ถนนเส้นนี้เป็นเส้นเดียวที่จะเดินทางไป จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นเส้นทางเดินรถขึ้นกรุงเทพ ที่สะดวกที่สุด โดยเส้นทางเมื่อขับรถข้ามไปสะพานสารสิน ถึงสี่แยกโคกกลอย ขับรถตรงขึ้นไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ประมาณ 15 กิโลเมตรก็ถึง ตัวอำเภอท้ายเหมือง ขับรถต่อไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร ก็ถึง บ้านทุ่มมะพร้าว คุณปรีชา พนักงานขับรถคู่ใจผมเล่าให้ฟังว่า

" แก้ว รู้ไหม เมื่อก่อน...รถของสถานีเราเคยไปคว่ำที่นั่น สมัยก่อนเราใช้รถแลนด์โรเวอร์ รถค่อนข้างสูง " คุณปรีชา เรียกชื่อเล่นของผมจนติดปาก ก่อนที่จะหันหน้ามามองผม แล้วเล่าต่อไปว่า

"บริเวณที่รถคว่ำตรงนั้น ใครขับรถประมาท คว่ำทุกราย เพราะถนนเป็นทางโค้งรูปครึ่งวงกลม กว่าจะขับจนสุดโค้ง คนขับที่ไม่เคยทางนึกว่าโค้งหมดแล้ว ก็คว่ำทุกราย บางที บนพื้นถนน ก็มีน้ำมัน เหมือนจงใจ ให้รถที่วิ่งมารื่น แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ พลิกคว่ำ คันไหนบรรทุกของมา ก็จะมีคนแถวนั้นวิ่งมาขนของ ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน เลย แก้ว "

"เอ้า...อย่างนี้ก็ต้องเรียกว่าโจร นะซี "

"ก็คงจะยังงั้นล่ะ มันเกิดขึ้นบ่อยมาก เกิดกลางวัน ก็จะมีคนมาขนของเอาแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย"


"แล้วตอนที่ รถสถานีไปคว่ำที่นั่น โจรมันขนเอาอะไรไป "

"จำได้ว่า แม่แรงหาย นี่ขนาดแม่แรงมันยังเอา"

"ขนาดนั้นเลย เหรอพี่"

ผมมองดูสองข้างทางที่รถวิ่งผ่าน เป็นป่าสวนยางสลับกับป่าทึบ ถ้ามากลางคืน จะมืดมาก ดูน่ากลัว ขนาดตอนเช้า ยังดูวังเวง รถจะวิ่งผ่านสักคัน ก็หายาก ใจอยากจะลงไปนอน บนถนน แล้วก็นอนรอรถ เมื่อมีรถมาค่อยลุก กว่ารถจะมาคงจะนานน่าดู

ผมไปถึง ที่เกิดเหตุก็ประมาณ 08.00 โมงเช้า การเดินทางค่อนข้างช้าเพราะเส้นทางแคบ จุดเกิดเหตุ อยู่ริมทางหลวงหมายเลข 4 เป็นหมู่บ้านทุ่งมะพร้าว ตำบลทุ่งมะพร้าว อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ซึ่งตำรวจได้กั้นบริเวณจุดเกิดเหตุไว้ เพราะยังมีรถบรรทุกแก๊ปอีกคันหนึ่งที่ยังไม่ระเบิด แต่ก็พร้อมที่จะระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ ที่มันอยากจะระเบิด และไม่มีใครตอบได้ ว่าจะระเบิดขึ้นมาเมื่อไหร่

ผมลงจากรถบริเวณหน้าวัดประชุมศึกษา พร้อมกล้องวีดีโอ ออกหาข้อมูล พบว่า บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุมีอาคารอเนกประสงค์ หลังคาเป็นกระเบื้อง แตกเสียหายหมด ลักษณะการแตกจะเป็นรู เหมือนกับมีก้อนหินหรือลูกเห็บขนาดเท่ากำปั้นหล่นลงใส่หลังคา ถ้าจะซ่อมก็ต้องเปลี่ยนทั้งแผ่น ส่วนโรงเรียนวัดประชุมศึกษา ที่ตั้งห่างออกไป ประมาณ 300 เมตร หลังคาได้รับความเสียหายเหมือนกัน แต่ก็ไม่มากนัก ถัดไปเป็นสถานีอนามัยบ้านทุ่งมะพร้าว เสียเกือบทั้งหลัง

ผมเดินตรงไปที่สถานีอนามัยบ้านทุ่งมะพร้าว และอยู่ในรัศมี ของแรงระเบิด ดูภายนอก กระจกหน้าต่างแตกเสียหายทุกบาน เพราะถูกแรงอัดของระเบิด ผมถ่ายภาพวีดีโอ ข้างนอกเสร็จก็เดินตรงขึ้น บันได ประมาณ 3-4 ขั้นก็อยู่บนตัวอาคาร ภาพที่อยู่ตรงหน้าผมแทบไม่เชื่อสายตา เป็นล้อยางรถยนต์ พร้อมด้วยเพราหลังรถ 10 ล้อ หนึ่งข้าง เป็นของคันที่ระเบิด ตกอยู่ตรงกลางห้อง สภาพภายในห้อง มีเศษกระเบื้อง โต๊ะทำงานที่แตกหัก จากแรงกระแทกของยางรถ สิบล้อ ผมเหลือบไปเห็นนาฬิกาแขวน หล่นอยู่ และเข็มนาฬิกาหยุดนิ่งตรงที่ เวลา 17.05 น. ผมรีบเก็บภาพทันที เพราะนี่คือเวลาที่เกิดระเบิดที่แท้จริง นั่นคือหลังจากเกิดเหตุระเบิดขึ้นมาไม่กี่วินาที ล้อรถสิบล้อ จะต้องกระเด็นจากแรงระเบิด ตกลง ทะลุกลางหลังคาสถานีอนามัยบ้านทุ่งมะพร้าว เศษอิฐเศษปูนต่าง ๆ ก็ไปกระทบกับนาฬิกา ทำให้นาฬิกาหยุดทันที ที่เวลา 17.05 น. โดยที่นาฬิกาไม่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า รถแก๊ประเบิดก่อนเวลา 17.05 น.เล็กน้อย ผมเก็บภาพไปด้วย และก็สอบถามคุณสมชัย ว่าเกิดอะไรขึ้น

คุณสมชัย เล่าให้ผมฟัง ในอาการที่ยังตื่นเต้นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนค่ำวานนี้ว่า
" เมื่อวานนี้ ประมาณ สี่โมงเศษ ๆ เห็นขบวนรถวิ่งผ่านหน้าสถานีอนามัย ไปทางตะกั่วป่า รถตำรวจทางหลวง ที่นำขบวน วิ่งนำเร็วมาก ถึงแม้นว่า บริเวณนั้นจะเป็นทางโค้ง และก็เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ คนขับรถพ่วงแก็บ ระเบิด คงจะไม่เคยทาง ขับเข้าโค้งเร็วมาก ควบคุมรถไม่อยู่ก็เลย พลิกคว่ำ "

ผมซักคุณสมชัยว่า "รู้ไหมว่า ทำไมมันถึงระเบิดขึ้นมา"

"อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า มันเกิดขึ้นยังไง เพราะรถคว่ำเมื่อเวลาประมาณ สี่โมงเย็นก็เกือบ ห้าโมงแล้ว ตำรวจก็มา ชาวบ้านก็มามุงดู บางคนก็ขนเอาแก๊ปกลับบ้านเป็นกล่อง ๆ ตำรวจก็ตะโกนห้ามว่าอย่าเอาไป "

"คุณรู้ไหม ชาวบ้านเขาขนแก๊ประเบิดไปทำไม ทั้ง ๆ ที่ตำรวจก็ห้าม "

คุณสมชัยอธิบายให้ฟังว่า "มีชาวบ้านเขาคุยกันว่า แก๊ปที่ว่านี่ หากเอาไปจุด เป็นชนวนระเบิด สามารถทำได้ ชาวบ้านที่รู้ก็เลยมาขนกันใหญ่ เพื่อจะเอาไปทำเป็นระเบิดปลา ทีนี่ไม่รู้ว่าใครขนไปมั่ง จนเกิดเหตุระเบิดขึ้นมานี่แหล่ะ "

ผมคุยกับคุณสมชัย ก็พอได้ข้อมูลขึ้นมาบ้าง ว่าเหตุมันเกิดจากอะไร แต่ก็โชคดีที่เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เพราะเหตเกิดุหลังจากที่เลิกงานแล้ว ทุกคนก็เลยกลับบ้านกันหมด

ผมเดินลงจากสถานีอนามัย ไปถ่ายวีดีโอรอบ ๆ สถานีอนามัย บริเวณนั้นเป็นร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ ด้านข้างของร้านผมพบเศษเนื้อและเศษกะโหลก ของคนตกอยู่หลายชิ้น อยู่ในสภาพเหมือนกับ เศษผ้าขี้ริ้วเก่า ๆ ที่เปื้อนฝุ่น ผมเก็บภาพไว้ และก็เดินไปหาเจ้าร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้

เฮียตี๋ เล่าให้ฟังว่า "เมื่อวานนี้ มีการถ่ายทอดมวยชิงแชมป์โลก มีนักชกไทยป้องกันแชมป์โลกคือ สด จิตลดา ถ่ายทอดโทรทัศน์ทางช่อง 7 เวลา ประมาณ 5 โมงเย็น นี่ถ้าไม่มีมวยต่อยกันนะ ตายมากว่านี้ เพราะคนจะต้องไปดูรถคว่ำ ผมเองก็อยู่ที่บ้าน ดูมวยกะว่าดูมวยเสร็จก็จะไปดูเหมือนกัน ถ้าไปดูรถคว่ำปานนี้คงไม่ได้มาเล่าให้ฟัง ผมพูดอยู่นี่ก็ยังเสียว ไม่รู้รอดตายมาได้ยังไง หูผมยังอื้ออยู่เลย เสียงดังของระเบิดดังมาก "

ผมคุยกับเฮียตี๋ ซักพัก หน่วยทหารที่เกี่ยวกับวัตถุระเบิด ก็เข้ามาในพื้นที่ ขณะที่ บริเวณจุดเกิดเหตุยังไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพ เพราะต้องการเก็บหลักฐานจากที่เกิดแหตุ

ผมพบกับทหารนายหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นแหล่งข้อมูลได้ ผมติดต่อขอข้อมูล ทันที แน่นอนการสัมภาษณ์โดยใช้กล้องถ่าย ถูกตอบปฏิเสธทันที เพราะไม่ใช่ผู้บังคับบัญชา ที่จะมีอำนาจให้สัมภาษณ์ได้ เอาหล่ะถ้าไม่ได้ผมก็สอบถามหาข้อมูลเบื้องต้นก็แล้วกัน

นายทหารเล่าให้ฟังว่า "แก๊ประเบิดนี่ครับ ส่งมาจากประเทศอินเดีย ของบริษัท แม็คเคมซับพลาย จำกัด โดยขนส่งทางเรือ แล้วจากนั้นก็ขนขึ้นรถบรรทุกของบริษัท ฟักทองผล จำกัด มีสำนักงานอยู่ที่ จังหวัดภูเก็ต โดยขนวัตถุระเบิดจากท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ลำเลียงไปใช้งาน ที่จังหวัดสระบุรี เพื่อนำไปใช้ระเบิดหิน "

"ลักษณะของแก๊ประเบิดที่ว่า นี่ มันมีหน้าตาเป็นยังไง"

"อ๋อ แก๊ประเบิดที่ว่า นี่ ครับ เหมือนกับลูกปะทัดนี่แหละครับ แต่ออกสีเขียวแทนที่จะเป็นสีแดงเหมือนกับปะทัด ที่ปลายอีกด้านหนึ่งจะมีสายชนวนยื่นออกมาก "

"วิธีใช้ ทำยังไงครับ"

"โดยตัวของมันเองอานุภาพไม่ค่อยร้ายแรงเท่าไหร่ ความแรงก็เหมือนกับประทัดนี่แหล่ะ ครับ วิธีใช้ ก็จะเอาแก๊ปไปสอดใส่ ในไดนาไมท์ ที่เป็นแท่งเท่าซิก้า ที่เราเคยเห็นในหนังนั่นแหล่ะ หรือเอาไปสอดใส่ในเพาเวอร์เจล ถ้าจะระเบิดตรงไหนก็เอาแท่งไดนาไมท์ ที่ว่านี่ครับ ไปวางไว้ แล้วก็ จุดชนวน แก๊ปก็จะไปจุดระเบิดของ ไดนาไมท์ อานุภาพการระเบิดก็จะรุนแรง ทำลายล้างได้มาก "
"ผมชักจะสงสัย ว่า เอทำไม อยู่ ๆ รถมันระเบิดขึ้นมาเอง ครับ"


นายทหารอธิบายอีกว่า "ผมเข้าใจว่า คงจะมีใคร แอบจุด แก๊ปที่ว่านี่ หรือไม่ก็อาจจะเป็นคลื่นวิทยุที่ติดต่อสื่อสารกันก็เป็นได้ หรืออาจจะเกิดจากความร้อน ที่แก๊ปทับถมกันจนถึงจุดหนึ่ง ก็เลยทำให้เกิดระเบิดขึ้นมาได้ ครับ "

"สรุปว่า สาเหตุของการระเบิดเกิดขึ้นถึง 3 ประเด็น ใช่ไหมครับ."

"ครับก็คงจะใช่ หละครับ แต่ประเด็นที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ ต้องมีคนเอาไฟไปจุดแก๊ประเบิด ส่วนสาเหตุที่ว่าสัญญาณวิทยุสื่อสาร ไปเป็นจุดระเบิดก็มีความเป็นไปได้ครับ เท่าที่ทราบข้อมูลรถพลิกคว่ำ ก็เกือบ 5 โมงเย็นแล้ว ไม่ได้ระเบิดขึ้นมาทันที ถ้าระเบิดเกิดขึ้นทันทีหลังรถคว่ำก็บอกได้เลยว่าเกิดจากแรงเสียดสี ของแก๊ประเบิด "

หลังจากที่ผม ได้ข้อมูลของแก๊ประเบิดแล้ว ก็ได้รับประกาศจากทหารว่า ขอให้ชาวบ้านหรือผู้ที่ขนเอาแก็ประเบิดไป ให้นำมาคืน เพราะเป็นวัตถุอันตราย ขณะที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 425 ตะกั่วป่า เข้าไปเก็บกู้แก็ประเบิดที่กระเด็นไปติดค้างบนต้นไม้ รอบ ๆ บริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก

ผมเริ่มเข้าเก็บภาพบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นภาพที่ติดตาผมมาจนถึงทุกวันนี้ สภาพอาคารบ้านเรือนในรัศมี 10 เมตร ถูกแรงระเบิดพังทั้งหลัง เหลือแต่โครงสร้างของบ้าน และคนที่อาศัยอยู่ในบ้าน เสียชีวิตทันที จากแรงอัดของระเบิด ผมเดินเข้าไปที่บริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า ถนนเต็มไปด้วยเศษเนื้อมนุษย์ และเศษปลาทู เพราะมีรถขนปลาทูจอดอยู่ใกล้กับรถแก็ประเบิด ที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ศพผู้เสียชีวิต ถูกห่ออยู่ในผ้าขาว เรียงรายอยู่บนถนนลาดยาง ปะปนกับเศษเนื้อมนุษย์ นับได้จำนวน 203 ศพ ผมต้องเดินฝ่าซากศพและซากปลาทูเข้าไปถ่ายวีดีโอ ภาพที่ผมตะลึงก็คือ พบซองปืนตำรวจขนาด .38 ที่ตกอยู่ แล้วศพตำรวจอยู่ที่ไหนหล่ะ ผมสอบถามตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ก็ได้รับคำตอบว่า ตำรวจที่เป็นร้อยเวร ละลายไปกับแรงระเบิด เพราะตอนเกิดเหตุร้อยเวรยืนอยู่บนรถแก็ป คิดดูเอาเองก็แล้วกัน ระเบิดเต็มคันรถสิบล้อ และยังมีอีกในรถพ่วง หากเกิดระเบิดพร้อมกัน นายตำรวจคนนั้นก็ต้องหายวับไปกับตา สิ่งที่เหลือให้เห็นว่าเป็นตำรวจก็คือ ซองปืนพกสั้น โอ้อนิจจา

และในตอนบ่ายวันนั้น กองทัพนักข่าวทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างแห่กันมาทำข่าว เต็มไปหมด ขณะที่ พลเอกชาติชาย ชุณหวัน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีหลายคน ลงพื้นที่มาดูเหตุการณ์ โดยคณะทั้งหมด เดินเข้าพื้นที่จุดระเบิด ที่ยังมีศพห่อด้วยผ้าขาวเรียงราย และไปเยี่ยมบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ ผมต้องชื่นชมการทำงานของ พลเอกชาติชาติ  ที่ลงมาดูเหตุการณ์ด้วยตาตัวเองหลังจากที่เกิดเหตุไม่ถึง 24 ชั่วโมง และพร้อมให้สัมภาษณ์ ว่าจะให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกคน เย็นวันนั้นนายกชาติชาย ก็เดินทางกลับกรุงเทพ ฯ

รุ่งขึ้นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2534 ญาติผู้สูญเสียชีวิตได้นำศพไปเผาที่เมรุวัดประชุมศึกษา ที่อยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุไปประมาณ 400 เมตร แต่จำนวนศพถึง 203 ศพ เมรุเล็ก ๆ ไม่สามารถเผาได้ทัน ทางการจึงจัดให้มีเมรุชั่วคราวเผาศพรวม โดยใช้บริเวณสนามกีฬาบาสเก็ตบอล ของวัดประชุมศึกษา เป็นบริเวณเผาศพ ที่มีการเผารวมมากที่สุด วันนั้น มีแต่ความเศร้าโศก เพราะบางคนสูญเสียหมดทั้งครอบครัว บางคนพ่อแม่ตายหมด ต้องอยู่คนเดียว

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2534 นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณของชาวบ้านทุ่งมะพร้าว ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยาม ฯ มกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน พระราชทานสิ่งของแก่ญาติผู้เสียชีวิต และทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด การเสด็จมาครั้งนี้เพื่อเป็นการปลอบขวัญแก่ผู้สูญเสีย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อม ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์

การสูญเสียครั้งนี้ ทำให้เกิดถนนสายเลี่ยงเมืองเกิดขึ้น รถบรรทุกหรือรถที่จะเป็นอันตรายไม่ต้องแล่นผ่านบ้านทุ่งมะพร้าวอีกนอกจาก รถโดยสารประจำทางเท่านั้นที่ยังคงใช้เส้นทางเดิม นอกจากนี้ชาวบ้านได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจาก บริษัท แม็คเคมซับพลาย จำกัด และได้รับค่าเสียหาย โดยศาลสั่งให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหาย ส่วนความเสียหายของสถานที่ราชการ ที่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย กำลังอยู่ในการพิจารณาคดีของศาลฎีกา โอ้นานจังเลย ....อาคารสถานีอนามัยก็สร้างใหม่สวยงาม โรงเรียนวัดประชุมศึกษาก็ได้อาคารหลังใหม่ แต่จิตใจของชาวบ้านทุ่งมะพร้าวต้องเยียวยา 

ต่อมาระหว่างปี  2540-2546  ผมไปรับราชการ ในจำแหน่งผ้สื่อข่าว 7 ที่ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยตะกั่วป่า  จังหวัดพังงา ผมต้องขับรถยนต์ และบางทีก็นั่งรถยนต์โดยสารสายตะกั่วป่า-ภูเก็ต  ผ่านที่เกิดเหตุ  และผมก็ภาวนาให้ดวงวิญญาณที่เสียชีวิตในครั้งนั้น  ไปสู่สุขคติ  เพราะผมระลึกเสมอว่า ถนนช่วงที่ขับรถผ่าน  มีผู้เสียชีวิตตรงนั้นหลายร้อยคน  การที่รถเหยียบย่ำ  อาจจะไปรบกวน  สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ล่วงลับได้ เรื่องนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

 

* * * * * * * * * * * * * * *


คลิ๊กนี้มีความหมาย

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 : Webmaster by Narong Cheunniran : อีเมล์ :narongthai53@gmail.com