|
ชีวิตนักข่าว ตอน...ประกันสังคมเหตุเกิดที่ตะกั่วป่า ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
ชีวิตนักข่าว เป็นชีวิตที่ได้รู้ได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่อยู่เสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมได้ไปนั่งฟังการบรรยายความรู้ เรื่องการประกันสังคม ที่ห้องอาหารพุทธชาด ห้องนี้ใช้เป็นห้องแต่งงาน จัดเลี้ยง รวมไปถึงงานจัดอบรม เพราะมีอยู่แห่งเดียวในอำเภอตะกั่วป่า อำเภอนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่แต่ก็เคยเป็นจังหวัดมาก่อน สาเหตุที่ถูกยุบเพราะเจ้าเมืองไปประชุมที่ มณฑลภูเก็ตไม่ทัน ก็เลยถูกยุบเมืองปี พ.ศ.2475 ในที่สุดก็ขึ้นอยู่กับจังหวัดพังงา
วันนั้นมีผู้ไปร่วมฟังเรื่องการประกันสังคมประมาณ 50 คน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพนักงานของบริษัท เพราะดูน่าอ่อน ๆ หน้าแก่ ๆ มีบ้างแต่ไม่มากนัก วิทยากรที่บรรยาย คือ ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต แต่งตัวดีผูกเนคไทโทนเสื้อ และเนคไท เข้าสีผิวที่ออกจะคล้ำ ๆ ไปทางคนใต้ แน่นนอนภาษาพูดก็เป็นทองแดง
แต่แกพูด ชับ ชับแบบ คนใต้
ประกันสังคมเริ่มเล่าถึงความสำคัญของการประกันสังคม " มีอยู่รายหนึ่งแกเป็นยามอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ภูเก็ต ถูกยิงตาย คาป้อมยาม ตรวจสภาพศพและป้อมยามไม่มีการต่อสู้ "
ประกันสังคม พยายามหาข้อเท็จจริงว่าทำไมยามถูกยิงตาย เพราะสอบถามเจ้าของโรงแรมก็บอกว่าไม่ได้ไล่ใครออกจากงาน ในที่สุดก็ได้พยานปากเอก
"พี่ผมจะบอกให้นะพี่ว่า ไอ้ยามทำไมมันถูกยิงตาย " พยานปากเอก ป้องปากกระซิบ กระซาบ ที่ข้างหูประกันสังคมเบา ๆ ว่า
" ไอ้ยามมันแอบไปตีท้ายครัว เมียชาวบ้านเขา มันเลยถูกผัวยิงตาย " ก่อนจะบอกว่า "อย่าให้ใครรู้นะพี่ เดี๋ยวผัวมันมายิงผมตายอีกคน "
ประกันสังคมฟังพร้อมกับอมยิ้มนิด ๆ " นี่ขนาดเป็นพยานปากเอกสั่งเสียว่าอย่าให้ใครรู้ แต่มันดันบอกให้ผมรู้จนได้ "
ประกันสังคมอธิบายว่า " นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ตายแล้วไม่ได้เงิน เพราะไม่ต่อเนื่องจากการทำงาน ถึงแม้นจะตายคาป้อมยามก็ไม่มีสิทธิที่จะได้เงินทดแทน
เฮ้อสงสาร
อ้อไม่ได้สงสารไอ้ยามหรอก แต่สงสารเมียที่กำพร้าผัว "
ประกันสังคม เล่าอีกว่า " กรณีการสูญเสียอวัยวะเช่นนิ้ว แค่นิ้วข้อเดียวสูญเสียก็ได้เงินทดแทน แต่ต้องเนื่องจากการทำงาน ถ้าสูญเสียนิ้วข้อหนึ่งก็ให้ถือว่าเป็น 2 ข้อ ก็จะได้เงินมากขึ้น "
ประกันสังคมยกตัวอย่างรายหนึ่งสูญเสียนิ้วว่า " มีอยู่รายหนึ่งถูกเครื่องจักรทับนิ้วชี้ขาดไปข้อหนึ่ง
แค่ข้อเดียวนะ แต่ได้ตั้งแสนแปด"
ประกันสังคมสำทับอีกว่า "กลับไปบ้านอย่าเอามีดตัดนิ้วตัวเอง หล่ะ นอกจากจะไม่ได้เงินยังติดคุก เพราะเหตุไม่ต่อเนื่องจากการทำงาน และยังแจ้งเท็จอีก " อ้อ
รายนี้ได้แสนแปด บอกแกตอนแรก แกไม่เชื่อ แกย้อนถามว่า " ผมได้แสนแปดบาท หรือกีบ "
" ก็แสนแปดหมื่นบาทนะซิ ...รับเต็ม ๆ "
แกทำหน้าตื่นเต้น เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นเงินแสนแปด ดูสีหน้าแล้ว แกทำหน้าไม่ถูก เงินแสนแปดมันมาก... มากเสียจนไม่รู้จะเก็บเอาไปไว้ที่ไหน แกรีบเซ็นรับเงินแล้วก็รีบกลับบ้าน แกหายไป 3 วัน ก่อนที่จะย้อนมาสำนักงาน แล้วเล่าด้วย ท่าทีวิตกกังวล เหมือนคนมีทุกข์อย่างมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่รับเงินไปหยก ๆ
" หัวหน้าครับ เมียจะฆ่าผมครับ หัวหน้า " แกพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น หวาดกลัวสุดขีด
" ทำไม ไปว่าเมียอย่างนั้น อยู่กันนานมาหลายปีแล้วไมใช่เหรอ " หัวหน้าประกันสังคมย้อนถามด้วยความสงสัย
" มันจะฆ่าผมเพื่อเอาเงิน แสนแปด ที่ผมได้มา ผมต้องการจะหย่ากับมันครับ หัวหน้า "
" แล้ววิธีที่เมีย น้าจะฆ่า ทำยังไง " มันเอายาฆ่าปลวก เหยาะใส่กาแฟ ให้ผมกินทุกเช้า .. ครับ "
" ไม่ใช่ปลวกละมั้ง คงจะเป็นคอฟฟี่เมท เพราะมันมี สีขาวเหมือนกัน" หัวหน้าประกันสังคมพยายามที่จะอธิบาย เพราะยาฆ่าปลวกกับคอฟฟี่เมท มันไม่ได้แตกต่างกัน แต่แกยังยืนยันที่จะหย่าให้ได้ นี่ขนาดได้เงินแล้วยังประสาท.. ... แดก อีก เห็นคอฟฟี่เมท เป็นยาฆ่าปลวก ในที่สุดแกก็กลับไปหย่ากับเมียจริง ๆ มาทราบทีหลังว่าเมียแกตาย เพราะตรอมใจ ที่ผัวแกทิ้ง
" แบบนี้ก็ไม่น่าจะได้ค่าทดแทน นะ เพราะผัวเมียต้องหย่ากัน " หัวหน้าประกันสังคมกล่าวทิ้งท้าย
ผมนั่งฟัง ก็อดนึกขำอยู่ในใจว่า เป็นไปได้ขนาดนั้นเชียวหรือ แต่ก็เป็นเรื่องจริง ที่ประกันสังคม เล่าให้ผู้ร่วมอบรมได้ฟังประกันสังคมยังได้เล่าให้ฟังอีกกรณีหนึ่งว่า มีอยู่รายหนึ่ง แกเป็นคนขับรถยนต์ของบริษัท วันหนึ่งแกคิดถึงเมีย แกมาก วันนั้นก็ขับรถของบริษัท เพื่อจะไปส่งของที่จังหวัดสงขลา และเมียแกก็อยู่ที่นั่นด้วย ด้วยความคิดถึงเมีย ที่จากกันมาหลายเดือน แกเหยียบคันเร่งเต็มตีน แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ รถพลิกคว่ำ ที่อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ทำให้ตา ข้างขวา บอดสนิท
คนขับรถบอกว่า " หัวหน้า...ผมมาขอค่าทดแทน ที่ตาผมบอดไปข้างหนึ่ง "
"ทำไมตาบอด"
"ผมขับรถคว่ำที่อ่าวลึก ครับ"
"แล้วคุณ ขับรถเร็วเท่าไรถึงคว่ำ "
"ผมขับ 60 ครับ หัวหน้า "
"เอ้า...ขับ 60 ทำไมรถคว่ำ หล่ะ..โกหก ละมั้ง" หัวหน้าประกันสังคมซักไซ้ไล่เรียง จนคนขับรถจนมุม
"ความจริงผมขับ 160 ครับหัวหน้า เพราะรีบ ไปหาเมียที่สงขลา "
"เอ้าบอกแต่ทศนิยม กลัวจะไม่ได้ เงินทดแทน รึ ยัง งาย "
"ครับหัวหน้า ผมกลัวว่าจะไม่ได้เงินทดแทน"
หัวหน้าสำนักงานประกันสังคม เล่าพร้อมทั้งแสดงท่าทาง ว่า ในกรณีอย่างนี้ แสดงว่า ทำงาน และประสบอุบัติเหตุ ก็ถือว่าได้เงินทดแทนเช่นกัน แต่ถ้าไปหาเมียอย่างเดียว นายคนนี้ชวดแน่ หมายถึงไม่ได้เงินทดแทน
มีอยู่รายหนึ่ง ส่งใบรับรองแพทย์ เขียนว่า ตำแหน่งสจ๊วต ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ประกันสังคม เมื่อได้อ่านดูตำแหน่งนี้ก็สงสัย
"เอ...ทำไมตำแหน่ง สจ๊วต ดันทะลึ่งไปทำงานในโรงแรม น่าจะอยู่ที่การบินไทย ที่ทำงานต้อนรับบนเครื่องบิน "
ด้วยความสงสัยประกันสังคมก็เลยโทรศัพท์ไปถามผู้จัดการโรงแรมว่า ตำแหน่ง สจ๊วต ทำหน้าที่อะไรกันแน่ ก็ได้รับคำตอบว่า ตำแหน่งสจ๊วต เป็นการเรียกตำแหน่งที่โก้หรู จะเรียกอีกอย่าง หนึ่ง ให้ไพเราะก็คือ ตำแหน่งผู้ช่วยกุ๊ก นี่แหล่ะ หมายความว่าเขาใช้อะไร ต้องทำตามที่เขาสั่ง แต่นั่นก็ไม่ใช่ ตำแหน่งที่ชัดเจน ที่แน่ ๆ ชัวร์ ๆ คือ ทำหน้าที่ล้างจาน ดี ๆ นี่แหล่ะ เอ้าใครที่บอกว่าเป็นสจ๊วต ที่ทำงานในโรงแรม ก็อย่างไปคิดว่าทำงานบนเครื่องบิน แหม๋นึกว่า ตำแหน่งใหญ่โตอะไร
ประกันสังคมหายสงสัยไปเปราะหนึ่ง ก่อนจะเสริมว่า " ยังสงสัยใบรับรองแพทย์ที่หมอเขียนว่า " คัน " ก็ไม่รู้ว่าคันคะเย่ออะไร คันใต้ร่มผ้า หรือว่าคันนอกร่มผ้า ดูใบรับรองแพทย์ก็ไม่ชัดเจน แบบนี้ก็เบิกเงินค่าทดแทนยากหน่อย "
ประกันสังคมบอกอีกว่า "มีอยู่รายหนึ่งเป็นผู้หญิงทำงานในห้องครัวของโรงแรม ตอนแรกแกเปิดแก๊ส แก๊สไม่ติด ก็เลยเปิดแก๊สแช่ไว้นาน คราวนี้ไม่ใช่แก๊สจะไม่ติด มันระเบิดครับท่านผู้ชม โชคดีที่แกหันหลังให้เตาแก๊ส ไฟก็เลยไหม้เสื้อผ้า หลุดลุ่ย....หมดเลย ก็ต้องนอนคว่ำหน้า หยอดน้ำเกลือ ที่โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต รายนี้ขอค่าทดแทนตั้ง 8 หมื่น ประกันสังคมก็ต้องเดินทางไปดู "คนป่วยนอนอยู่ห้องไหนครับคุณพยาบาล" หัวหน้าประกันสังคมถาม
พยาบาลชี้ไปที่ห้องผู้ป่วยใน "ทางโน้นค่ะ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาแล้วตรงไปก็จะเจอ"
" ผมไปไม่ถูกครับ ช่วยพาผมไปหน่อย" จากนั้นพยาบาล ก็พาไปพบผู้ป่วย ซึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ หัวหน้าประกันสังคมถามพยาบาลว่า " มีการปลูกถ่ายผิวหน้ามั้ย "
พยาบาลบอกว่า "ก็ลองเปิดผ้าคลุมดู ซิ ค่ะ จะได้เห็น "
"ผมไม่เปิดหรอกครับ เพราะผู้ป่วยเป็นผู้หญิง เอาเป็นว่าคุณพยาบาล ถ่ายรูปการรักษาแผลก็แล้วกัน " พยาบาลพยักหน้าเหมือนกับรับทราบ
" ผมกลับก่อนนะครับ " ขณะที่หัวหน้าประกันสังคมเดินออกมา นางพยาบาลก็วิ่งไล่หลังกระหืดกระหอบ ก่อนถามว่า
" หัวหน้าคะ ถ่ายรูปนะ ถ่ายท่าไหนล่ะคะ " ประกันสังคมทำหน้างง ๆ ก่อนจะบอกว่า " ท่าไหนก็ได้ที่คิดว่าสวย " นางพยาบาลทำหน้าครุ่นคิด ว่าจะถ่ายท่าไหนดีว่ะ ก่อนที่จะเดินจากไป ...เออแบบนี้ก็มี
" นี่เป็นเพียงประสบการณ์หนึ่งที่คนธรรมดา ไม่มีโอกาสเหมือนผม ที่ได้รู้ได้เห็นอะไรแปลก ๆ และนำมาเล่าสู่กันฟังนี่แหล่ท่านผู้ชม เออ พบกันใหม่ ตอนหน้า หนุกหนาน แน่ครับ ..ท่าน
* * * * * * * * * * * * * *
|
ชีวิตนักข่าว ตอน...ประกันสังคมเหตุเกิดที่ตะกั่วป่า ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
ชีวิตนักข่าว เป็นชีวิตที่ได้รู้ได้เห็นอะไรที่แปลกใหม่อยู่เสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมได้ไปนั่งฟังการบรรยายความรู้ เรื่องการประกันสังคม ที่ห้องอาหารพุทธชาด ห้องนี้ใช้เป็นห้องแต่งงาน จัดเลี้ยง รวมไปถึงงานจัดอบรม เพราะมีอยู่แห่งเดียวในอำเภอตะกั่วป่า อำเภอนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่แต่ก็เคยเป็นจังหวัดมาก่อน สาเหตุที่ถูกยุบเพราะเจ้าเมืองไปประชุมที่ มณฑลภูเก็ตไม่ทัน ก็เลยถูกยุบเมืองปี พ.ศ.2475 ในที่สุดก็ขึ้นอยู่กับจังหวัดพังงา
วันนั้นมีผู้ไปร่วมฟังเรื่องการประกันสังคมประมาณ 50 คน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพนักงานของบริษัท เพราะดูน่าอ่อน ๆ หน้าแก่ ๆ มีบ้างแต่ไม่มากนัก วิทยากรที่บรรยาย คือ ประกันสังคมจังหวัดภูเก็ต แต่งตัวดีผูกเนคไทโทนเสื้อ และเนคไท เข้าสีผิวที่ออกจะคล้ำ ๆ ไปทางคนใต้ แน่นนอนภาษาพูดก็เป็นทองแดง
แต่แกพูด ชับ ชับแบบ คนใต้
ประกันสังคมเริ่มเล่าถึงความสำคัญของการประกันสังคม " มีอยู่รายหนึ่งแกเป็นยามอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ภูเก็ต ถูกยิงตาย คาป้อมยาม ตรวจสภาพศพและป้อมยามไม่มีการต่อสู้ "
ประกันสังคม พยายามหาข้อเท็จจริงว่าทำไมยามถูกยิงตาย เพราะสอบถามเจ้าของโรงแรมก็บอกว่าไม่ได้ไล่ใครออกจากงาน ในที่สุดก็ได้พยานปากเอก
"พี่ผมจะบอกให้นะพี่ว่า ไอ้ยามทำไมมันถูกยิงตาย " พยานปากเอก ป้องปากกระซิบ กระซาบ ที่ข้างหูประกันสังคมเบา ๆ ว่า
" ไอ้ยามมันแอบไปตีท้ายครัว เมียชาวบ้านเขา มันเลยถูกผัวยิงตาย " ก่อนจะบอกว่า "อย่าให้ใครรู้นะพี่ เดี๋ยวผัวมันมายิงผมตายอีกคน "
ประกันสังคมฟังพร้อมกับอมยิ้มนิด ๆ " นี่ขนาดเป็นพยานปากเอกสั่งเสียว่าอย่าให้ใครรู้ แต่มันดันบอกให้ผมรู้จนได้ "
ประกันสังคมอธิบายว่า " นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ตายแล้วไม่ได้เงิน เพราะไม่ต่อเนื่องจากการทำงาน ถึงแม้นจะตายคาป้อมยามก็ไม่มีสิทธิที่จะได้เงินทดแทน
เฮ้อสงสาร
อ้อไม่ได้สงสารไอ้ยามหรอก แต่สงสารเมียที่กำพร้าผัว "
ประกันสังคม เล่าอีกว่า " กรณีการสูญเสียอวัยวะเช่นนิ้ว แค่นิ้วข้อเดียวสูญเสียก็ได้เงินทดแทน แต่ต้องเนื่องจากการทำงาน ถ้าสูญเสียนิ้วข้อหนึ่งก็ให้ถือว่าเป็น 2 ข้อ ก็จะได้เงินมากขึ้น "
ประกันสังคมยกตัวอย่างรายหนึ่งสูญเสียนิ้วว่า " มีอยู่รายหนึ่งถูกเครื่องจักรทับนิ้วชี้ขาดไปข้อหนึ่ง
แค่ข้อเดียวนะ แต่ได้ตั้งแสนแปด"
ประกันสังคมสำทับอีกว่า "กลับไปบ้านอย่าเอามีดตัดนิ้วตัวเอง หล่ะ นอกจากจะไม่ได้เงินยังติดคุก เพราะเหตุไม่ต่อเนื่องจากการทำงาน และยังแจ้งเท็จอีก " อ้อ
รายนี้ได้แสนแปด บอกแกตอนแรก แกไม่เชื่อ แกย้อนถามว่า " ผมได้แสนแปดบาท หรือกีบ "
" ก็แสนแปดหมื่นบาทนะซิ ...รับเต็ม ๆ "
แกทำหน้าตื่นเต้น เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นเงินแสนแปด ดูสีหน้าแล้ว แกทำหน้าไม่ถูก เงินแสนแปดมันมาก... มากเสียจนไม่รู้จะเก็บเอาไปไว้ที่ไหน แกรีบเซ็นรับเงินแล้วก็รีบกลับบ้าน แกหายไป 3 วัน ก่อนที่จะย้อนมาสำนักงาน แล้วเล่าด้วย ท่าทีวิตกกังวล เหมือนคนมีทุกข์อย่างมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่รับเงินไปหยก ๆ
" หัวหน้าครับ เมียจะฆ่าผมครับ หัวหน้า " แกพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น หวาดกลัวสุดขีด
" ทำไม ไปว่าเมียอย่างนั้น อยู่กันนานมาหลายปีแล้วไมใช่เหรอ " หัวหน้าประกันสังคมย้อนถามด้วยความสงสัย
" มันจะฆ่าผมเพื่อเอาเงิน แสนแปด ที่ผมได้มา ผมต้องการจะหย่ากับมันครับ หัวหน้า "
" แล้ววิธีที่เมีย น้าจะฆ่า ทำยังไง " มันเอายาฆ่าปลวก เหยาะใส่กาแฟ ให้ผมกินทุกเช้า .. ครับ "
" ไม่ใช่ปลวกละมั้ง คงจะเป็นคอฟฟี่เมท เพราะมันมี สีขาวเหมือนกัน" หัวหน้าประกันสังคมพยายามที่จะอธิบาย เพราะยาฆ่าปลวกกับคอฟฟี่เมท มันไม่ได้แตกต่างกัน แต่แกยังยืนยันที่จะหย่าให้ได้ นี่ขนาดได้เงินแล้วยังประสาท.. ... แดก อีก เห็นคอฟฟี่เมท เป็นยาฆ่าปลวก ในที่สุดแกก็กลับไปหย่ากับเมียจริง ๆ มาทราบทีหลังว่าเมียแกตาย เพราะตรอมใจ ที่ผัวแกทิ้ง
" แบบนี้ก็ไม่น่าจะได้ค่าทดแทน นะ เพราะผัวเมียต้องหย่ากัน " หัวหน้าประกันสังคมกล่าวทิ้งท้าย
ผมนั่งฟัง ก็อดนึกขำอยู่ในใจว่า เป็นไปได้ขนาดนั้นเชียวหรือ แต่ก็เป็นเรื่องจริง ที่ประกันสังคม เล่าให้ผู้ร่วมอบรมได้ฟังประกันสังคมยังได้เล่าให้ฟังอีกกรณีหนึ่งว่า มีอยู่รายหนึ่ง แกเป็นคนขับรถยนต์ของบริษัท วันหนึ่งแกคิดถึงเมีย แกมาก วันนั้นก็ขับรถของบริษัท เพื่อจะไปส่งของที่จังหวัดสงขลา และเมียแกก็อยู่ที่นั่นด้วย ด้วยความคิดถึงเมีย ที่จากกันมาหลายเดือน แกเหยียบคันเร่งเต็มตีน แล้วก็เกิดอุบัติเหตุ รถพลิกคว่ำ ที่อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ทำให้ตา ข้างขวา บอดสนิท
คนขับรถบอกว่า " หัวหน้า...ผมมาขอค่าทดแทน ที่ตาผมบอดไปข้างหนึ่ง "
"ทำไมตาบอด"
"ผมขับรถคว่ำที่อ่าวลึก ครับ"
"แล้วคุณ ขับรถเร็วเท่าไรถึงคว่ำ "
"ผมขับ 60 ครับ หัวหน้า "
"เอ้า...ขับ 60 ทำไมรถคว่ำ หล่ะ..โกหก ละมั้ง" หัวหน้าประกันสังคมซักไซ้ไล่เรียง จนคนขับรถจนมุม
"ความจริงผมขับ 160 ครับหัวหน้า เพราะรีบ ไปหาเมียที่สงขลา "
"เอ้าบอกแต่ทศนิยม กลัวจะไม่ได้ เงินทดแทน รึ ยัง งาย "
"ครับหัวหน้า ผมกลัวว่าจะไม่ได้เงินทดแทน"
หัวหน้าสำนักงานประกันสังคม เล่าพร้อมทั้งแสดงท่าทาง ว่า ในกรณีอย่างนี้ แสดงว่า ทำงาน และประสบอุบัติเหตุ ก็ถือว่าได้เงินทดแทนเช่นกัน แต่ถ้าไปหาเมียอย่างเดียว นายคนนี้ชวดแน่ หมายถึงไม่ได้เงินทดแทน
มีอยู่รายหนึ่ง ส่งใบรับรองแพทย์ เขียนว่า ตำแหน่งสจ๊วต ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ประกันสังคม เมื่อได้อ่านดูตำแหน่งนี้ก็สงสัย
"เอ...ทำไมตำแหน่ง สจ๊วต ดันทะลึ่งไปทำงานในโรงแรม น่าจะอยู่ที่การบินไทย ที่ทำงานต้อนรับบนเครื่องบิน "
ด้วยความสงสัยประกันสังคมก็เลยโทรศัพท์ไปถามผู้จัดการโรงแรมว่า ตำแหน่ง สจ๊วต ทำหน้าที่อะไรกันแน่ ก็ได้รับคำตอบว่า ตำแหน่งสจ๊วต เป็นการเรียกตำแหน่งที่โก้หรู จะเรียกอีกอย่าง หนึ่ง ให้ไพเราะก็คือ ตำแหน่งผู้ช่วยกุ๊ก นี่แหล่ะ หมายความว่าเขาใช้อะไร ต้องทำตามที่เขาสั่ง แต่นั่นก็ไม่ใช่ ตำแหน่งที่ชัดเจน ที่แน่ ๆ ชัวร์ ๆ คือ ทำหน้าที่ล้างจาน ดี ๆ นี่แหล่ะ เอ้าใครที่บอกว่าเป็นสจ๊วต ที่ทำงานในโรงแรม ก็อย่างไปคิดว่าทำงานบนเครื่องบิน แหม๋นึกว่า ตำแหน่งใหญ่โตอะไร
ประกันสังคมหายสงสัยไปเปราะหนึ่ง ก่อนจะเสริมว่า " ยังสงสัยใบรับรองแพทย์ที่หมอเขียนว่า " คัน " ก็ไม่รู้ว่าคันคะเย่ออะไร คันใต้ร่มผ้า หรือว่าคันนอกร่มผ้า ดูใบรับรองแพทย์ก็ไม่ชัดเจน แบบนี้ก็เบิกเงินค่าทดแทนยากหน่อย "
ประกันสังคมบอกอีกว่า "มีอยู่รายหนึ่งเป็นผู้หญิงทำงานในห้องครัวของโรงแรม ตอนแรกแกเปิดแก๊ส แก๊สไม่ติด ก็เลยเปิดแก๊สแช่ไว้นาน คราวนี้ไม่ใช่แก๊สจะไม่ติด มันระเบิดครับท่านผู้ชม โชคดีที่แกหันหลังให้เตาแก๊ส ไฟก็เลยไหม้เสื้อผ้า หลุดลุ่ย....หมดเลย ก็ต้องนอนคว่ำหน้า หยอดน้ำเกลือ ที่โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต รายนี้ขอค่าทดแทนตั้ง 8 หมื่น ประกันสังคมก็ต้องเดินทางไปดู "คนป่วยนอนอยู่ห้องไหนครับคุณพยาบาล" หัวหน้าประกันสังคมถาม
พยาบาลชี้ไปที่ห้องผู้ป่วยใน "ทางโน้นค่ะ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาแล้วตรงไปก็จะเจอ"
" ผมไปไม่ถูกครับ ช่วยพาผมไปหน่อย" จากนั้นพยาบาล ก็พาไปพบผู้ป่วย ซึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่ หัวหน้าประกันสังคมถามพยาบาลว่า " มีการปลูกถ่ายผิวหน้ามั้ย "
พยาบาลบอกว่า "ก็ลองเปิดผ้าคลุมดู ซิ ค่ะ จะได้เห็น "
"ผมไม่เปิดหรอกครับ เพราะผู้ป่วยเป็นผู้หญิง เอาเป็นว่าคุณพยาบาล ถ่ายรูปการรักษาแผลก็แล้วกัน " พยาบาลพยักหน้าเหมือนกับรับทราบ
" ผมกลับก่อนนะครับ " ขณะที่หัวหน้าประกันสังคมเดินออกมา นางพยาบาลก็วิ่งไล่หลังกระหืดกระหอบ ก่อนถามว่า
" หัวหน้าคะ ถ่ายรูปนะ ถ่ายท่าไหนล่ะคะ " ประกันสังคมทำหน้างง ๆ ก่อนจะบอกว่า " ท่าไหนก็ได้ที่คิดว่าสวย " นางพยาบาลทำหน้าครุ่นคิด ว่าจะถ่ายท่าไหนดีว่ะ ก่อนที่จะเดินจากไป ...เออแบบนี้ก็มี
" นี่เป็นเพียงประสบการณ์หนึ่งที่คนธรรมดา ไม่มีโอกาสเหมือนผม ที่ได้รู้ได้เห็นอะไรแปลก ๆ และนำมาเล่าสู่กันฟังนี่แหล่ท่านผู้ชม เออ พบกันใหม่ ตอนหน้า หนุกหนาน แน่ครับ ..ท่าน
* * * * * * * * * * * * * *
|