www.narongthai.com  

www.narongthai.com เป็นเว็บไซต์เชิงวิชาการ ที่สามารถนำอ้างอิงได้ตามหลักวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                           
 

 ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
https://www.facebook.com/profile.php?id=100010475651732
สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 สถิติวันนี้ 160 คน
 สถิติเมื่อวาน 39 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
707 คน
50494 คน
1742938 คน
เริ่มเมื่อ 2010-01-13

พังงา…ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
4 มกราคม 2546

ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาเสนอเพิกถอนที่ดิน น.ส.3 ก บริเวณบ่อน้ำร้อนรมณีย์ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการของกรมที่ดิน

นายวรสิทธิ์ โรจนพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา บอกว่าในพื้นที่อำเภอกะปงมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่หลายแห่ง และจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูว่าจะสามารถพัฒนาได้หรือไม่ เพราะบ่อน้ำพุร้อนที่มีอยู่ค่อนข้างไกล มีนักท่องเที่ยวน้อย หากมีการลงทุนก็จะดูว่าบ่อน้ำพุร้อนที่มีอยู่มีน้ำเพียงพอที่จะลงทุนให้เกิดความคุ้มค่าได้เพียงใด ถ้าทำไปแล้วกลายเป็นอนุสาวรีย์คงไม่เหมาะสม โดยทางจังหวัดยินดีที่จะให้การสนับสนุนอยู่แล้ว

ทางด้านนายธานินท์ สัญญาสุวรรณ ประธาน อบต.รมณีย์ บอกว่า อบต.เคยมีการหารือกันเมื่อปี 2542 เพื่อจะพัฒนาบ่อน้ำพุร้อน และเคยเข้าไปพัฒนาแผ้วถาง แต่ก็มีการลงทุนปิดล้อมเส้นทางที่จะเข้าไปดำเนินการในพื้นที่บ่อน้ำพุร้อน และทาง อบต.รมณีย์ ได้เสนอปัญหาไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ที่จังหวัด ความเจริญพื้นที่บ่อน้ำพุร้อนเป็นที่สาธารณะมีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ บริเวณน้ำพุจะมีบ่อคอนกรีตรองรับน้ำ
นายสมชาย ตันติเพชราภรณ์ สจ.เขตอำเภอกะปง บอกว่าสำหรับพื้นที่บ่อน้ำพุร้อนทาง อบจ.พังงา ร่วมกับทางจังหวัดพังงา ได้ร่วมพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ขณะนี้ก็ยังดำเนินการไม่ได้ เพราะยังติดขัดเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน และเป็นปัญหามาโดยตลอด ตอนนี้ทราบว่าทางอำเภอกะปงกำลังดำเนินการสอบสวนเพื่อขอเพิกถอน น.ส.3 ก ในเขตบ่อน้ำพุร้อน และมีการายงานให้ทางจังหวัดทราบแล้ว ส่วนบ่อน้ำร้อนที่ปลายพู่ ขณะนี้ทางจังหวัดร่วมกับอำเภอกะปง และ อบจ.พังงา ได้มีความพยายามปรับปรุงดัดแปลงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยก่อนหน้านั้น อบจ.เคยให้งบประมาณสนับสนุนทางเข้าไปบ่อน้ำพุร้อน และทาง ททท.ได้ให้งบประมาณสร้างบ่อน้ำพุร้อน แต่ขณะนี้บริเวณบ่อน้ำพุร้อนเกิดการเปลี่ยนแปลงของทางน้ำทำให้น้ำมีปริมาณลดลง เนื่อง

จากแนวคลองมีความลึกกว่าบ่อ จึงทำให้น้ำไหลลงคลองหมด ทาง อบจ.พังงากำลังแก้ปัญหาโดยมีการเจาะบ่อใหม่ ทำให้มีน้ำที่สมบูรณ์กว่าเดิม และทาง อบจ.พังงาได้เขียนโครงการของบประมาณจาก ททท.และรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างบ่อน้ำพุร้อน

นายสมบัติ สิงค์วิบูลย์ หัวหน้าอำนวยการสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา บอกว่าปัญหาการเพิกถอนที่ดิน น.ส.3 ก บริเวณบ่อน้ำพุร้อนที่ตำบลรมณีย์ เดิมบริเวณดังกล่าวได้มีการเดินสำรวจเมื่อปี 2529 หลังจากนั้นผู้ครอบครอง น.ส.3 ก 2 ฉบับ ได้มีการซื้อขายตรวจสอบรังวัดเขตใหม่ ปรากฏว่าได้เลื่อนที่ดินมาครอบบ่อน้ำพุร้อน และได้มีการกั้นบ่อนำพุร้อนให้ อบจ.พังงา เป็น น.ส.3 ก 2 ฉบับ ตามเอกสารที่ดินของสำนักงานที่ดินอำเภอกะปง และทางสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงาได้พิจารณาเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนของ อบต.จากนั้นก็ได้มีการตรวจสอบที่ดินทั้งสองแปลงที่ออกครอบคลุมบ่อน้ำพุร้อนรมณีย์ และมีความเห็นว่าเป็นการออก น.ส.3 ก โดยมิชอบด้วยกฎหมายสำนักงานที่ดินจึงได้รายงานไปยังกรมที่ดินเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2545 เพื่อให้ทำการเพิกถอนหลักฐานที่ส่งไปเป็นการสรุปข้อเท็จจริงและความเห็นของจังหวัดพังงา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการของกรมที่ดิน

นายสุเทพ ผกาพรหม กำนันตำบลรมณีย์ บอกว่าตนเป็นคนตำบลรมณีย์ตั้งแต่เกิด เคยเข้าไปบ่อน้ำพุร้อนเมื่อครั้งยังเป็นป่าร้าง อยู่ ๆ ก็มีเอกสารสิทธิ์ครอบบ่อน้ำพุร้อน อยากจะให้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์และวิธีการเพิกถอนที่ยาวนานเป็นเรื่องที่ช้ามาก หากเพิกถอนสำเร็จก็จะทำให้สิ่งดี ๆ กลับคืนมาสู่ชาวบ้านอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนบ่อน้ำพุร้อนอีกแห่งหนึ่งที่บ้านปลายพู่ อำเภอกะปง นายเดชา ตันติยวรงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัดพังงา ได้นำหัวหน้าส่วนราชการไปดูพื้นที่พบว่าเดิมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ให้งบประมาณกับ อบจ.พังงาดำเนินการก่อสร้างบ่อน้ำพุร้อน ความยาวประมาณ 50 เมตร ลึก 1.50 เมตร กว้างประมาณ 20 เมตร ภายในสระจะมีบ่อน้ำร้อน เมื่อครั้งสร้างเสร็จใหม่ ๆ มีน้ำพุร้อนเต็มสระ แต่ปัจจุบันทิศทางน้ำเปลี่ยน อันเนื่องจากการทำเหมืองแร่ดีบุกทำให้น้ำในสระแห้งขอด ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ขุดบ่อน้ำพุร้อนบริเวณข้างเคียง พบน้ำพุร้อนความร้อนสามารถลวกไข่ไก่สุก และทางอุตสาหกรรมจังหวัดพังงาจะส่งทีมสำรวจสายน้ำพุร้อนเพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป
จากการเดินทางไปของรองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาครั้งนี้ พบว่ามีบริษัทอีสท์เฮเว่นเอเชีย จำกัด(east haven asia ) ซึ่งเป็นบริษัทของญี่ปุ่นกำลังให้คนงานไทยขุดหาแหล่งน้ำพุร้อน หากพบก็จะมีการก่อสร้างรีสอร์ท เพื่อจะนำน้ำร้อนมาทำบ่อสปา เพื่อการบำบัด และเป็นที่น่าสังเกตว่า บริเวณที่ดินที่มีการขุดเจาะเป็นพื้นที่ที่อยู่ในลำคลองตื้นเขิน แต่มีเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก ซึ่งน่าจะเป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ


พังงา…ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
7 มกราคม 2546

จากกรณีพิพาทเรื่องที่ดิน หมู่ 2 บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ที่มีความขัดแย้ง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต ของนางบุญเสี้ยน เกิดสมบัติ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2546 เพราะเรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้ให้ความสนใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะตามแนวสืบสวนระบุว่ามีความขัดแย้งในเรื่องที่อยู่อาศัย

นายสุเมธ สุขเกื้อ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาตะกั่วป่า กล่าวว่าสำหรับความเป็นมาของที่ดินผืนดังกล่าว ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำเค็ม หมู่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เดิมเป็นเป็นที่ประทานบัตรเหมืองแร่ดีบุก ต่อมาเมื่อปี 2529 นายลิบ กุลวานิช ได้ขอออก น.ส.3 ก เลขที่ 1020 และในปี 2537 ได้มีการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก คือนายมนัส กุลวานิช กับ นางงามจิต กุลวานิช เนื่องจากนายลิบ ได้เสียชีวิต โดยในระหว่างนั้น กิจการทำเหมืองแร่ดีบุกได้หยุดดำเนินการ เพราะแร่ดีบุกมีราคาตกต่ำ ทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้เข้าไปบุกรุกที่ดิน จนผู้จัดการมรดกของนายลิบ กุลวานิช ได้ฟ้องนายสมใจ รอดสั้น กับนางละไม ลูกสาวของนายสว่าง ขวัญใจ ในข้อหาบุกรุก ตามคดีดำหมายเลข 695/2540 และคดีแดง เลขที่ 282/2542 ซึ่งเป็นคดีอาญา ศาลจังหวัดตะกั่วป่าพิพากษายกฟ้องจำเลย ทั้ง 2 คน

ทางด้านนายมนัส รอดสั้น กับนางละไม ได้นำคำพิพากษาไปยื่นขอจดทะเบียน ที่สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงาสาขาตะกั่วป่า แต่ทางสำนักงานได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า ผลของคำพิพากษาที่ยกฟ้องจำเลยเกิดจากคดีอาญา ไม่สามารถนำไปจดทะเบียนเพื่อขอเอกสารสิทธิได้ ต้องเป็นเพียงคดีแพ่งเท่านั้น ในเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ทางสำนักงานจึงได้ทำหนังสือลงวันที่ 25 กันยายน 2545 หารือ ไปที่กรมที่ดินโดยผ่าน สำนักงานที่ดินจังหวัดพังงา ว่าผลของคดีอาญา สามารถใช้เป็นหลักฐานในการที่จะออกเอกสารสิทธิที่ดินได้หรือไม่ แต่ขณะนี้กรมที่ดินยังไม่ตอบกลับมา ว่าจดทะเบียนได้หรือไม่ได้อย่างไร ซึ่งก็ต้องรออีกสักระยะ

นายสุเมธ สุขเกื้อ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาตะกั่วป่า บอกอีกว่า ถ้าสมมุติว่ากรมที่ดินพิจารณาว่า สามารถใช้ผลของคดีอาญาเพื่อขอจดทะเบียน ที่ได้มาจากการครอบครอง ให้แก่นายมนัสกับนางละไม ขั้นตอนต่อไปทางสำนักงานที่ดินจังหวัดพังงาสาขาตะกั่วป่า จะต้องมีการประกาศ เพื่อหาผู้คัดค้าน ซึ่งฝ่ายตรงกันข้ามมีสิทธิที่จะโต้แย้งสิทธิได้ ทางเจ้าพนักงานที่ดินก็จะพิจารณาว่าสามารถออกเอกสารสิทธิได้แค่ไหน หากทั้งสองฝ่ายไม่พอใจ ก็สามารถที่จะฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมได้อีก

สำหรับเรื่องความขัดแย้งของที่ดินในอำเภอตะกั่วป่า ค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากว่าเมื่อก่อนมีประทานบัตรการทำเหมืองแร่ดีบุก เมื่อแร่มีราคาตกต่ำ เจ้าของสัมปทานบางแห่งได้มีการปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่าเปล่า ไม่มีการทำประโยชน์ในที่ดิน เป็นเหตุให้ชาวบ้านที่ไม่มีที่ดินทำกินเข้าไปจับจอง ต่อมาที่ดินมีราคาสูงขึ้น เจ้าของสัมปทานเหมืองแร่ ได้มีการอ้างกรรมสิทธิ ว่าเคยอยู่มาก่อน บางรายก็มีเอกสารสิทธิ เป็น น.ส.3 ก แต่ไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน ในแง่ของกฎหมาย ถ้าเจ้าของที่ดินที่มีเอกสารสิทธิเป็น น.ส.3 ก ไม่ทำประโยชน์ในที่ดินภายในเวลา 5 ปี หรือที่ดินที่เป็นโฉนด ไม่ทำประโยชน์ปล่อยให้รกร้าว่าเปล่า ตามกฎหมายที่ดินมาตรา 6 อธิบดีกรมที่ดินสามารถที่จะสั่งเพิกถอนได้ ส่วนกรณี ที่มีการบุกรุกโดยการครอบครอง น.ส.3 ก ภายใน 1 ปี ก็ถือว่า เป็นการครอบครองปรปักษ์

ดังนั้นจากข้อสรุปดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุของความรุนแรง ที่เกิดขึ้น จนมีการให้เครื่องทุ่นแรง รื้อถอนบ้านเรือน นำไปสู่ความขัดแย้ง บางรายถึงกับมีการใช้รถแมคโฮ และรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีใช้ระเบิดในการขับไล่ จนสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
//////////////////

พังงา...ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
8 มกราคม 2546

ความคืบหน้า เรื่องการครอบครองที่ดิน กรณีพิพาท หาดแหลมป้อม บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จนเป็นสาเหตุของความขัดแย้งถึงขั้นมีการใช้รถแบคโฮ เข้ารื้อถอน บ้านอาศัย

ในเรื่องนี้ นายสุเมธ สุขเกื้อ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดพังงา สาขาอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวติดชายทะเลอันดามัน บ้านนำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แบ่งเป็น น.ส.3 ก จำนวน 3 แปลง แปลงแรก เป็น น.ส.3 ก.เลขที่ 920 จำนวน 66 ไร่ 20 ตารางวา แปลงที่สอง น.ส.3 ก.เลขที่ 921 พื้นที่ 97 ไร่ 40 ตารางวา แปลงที่สาม น.ส.3 ก เลขที่ 922 จำนวน 51 ไร่ 2 งาน 80 ตารางวา ออกเป็นเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก เมื่อปี 2526 มีนายลิบ กุลวานิช เป็นผู้จัดการมรดกของนายเกียรติ กุลวานิช ต่อมานายลิบ เสียชีวิต ผู้จัดการมรดกจึงเปลี่ยนเป็น นายสงวน กุลวานิช และนายโสภิต กุลวานิช เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2537 ซึ่งที่เกิดเหตุ ที่มีการเข้าไปทำลายทรัพย์สินของผู้อาศัย อยู่ในพื้นที่ ของที่ดิน ทั้ง 3 แปลงนี้ ขณะนี้อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน

ถัดจากที่ดิน 3 แปลง ดังกล่าว ที่อยู่ทางตอนใต้ เป็นที่ดินของ บริษัท ฮกจงเส็ง จำกัด ซึ่งได้จากการประทานบัตร โดยศาลตัดสินว่า บริษัทมีสิทธิครอบครอง โดยพื้นที่แบ่งเป็น สองแปลง แปลงแรกมีพื้นที่ 58 ไร่ 3 งาน 46 ตารางวา แปลงที่ 2 มีพื้นที่ 62 ไร่ 1 งาน 9.7 ตารางวา ที่ดินทั้งสองแปลงไม่มี น.ส.3 ก ต่อจากที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นที่ดินของนายลิบ กุลวานิช เป็นโฉนด เลขที่ 6279 มีพื้นที่ 41 ไร่ 2 งาน 73.4 ตารางวา
จากเหตุการณ์ที่มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ในพื้นที่ดินดังกล่าว ก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรรม ที่เป็นกฎเกณฑ์ ของบ้านเมือง การที่จะเอาความรุนแรงหรือการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย มาดำเนินการ ก็จะทำให้บ้านเมืองอยู่ร่วมกันไม่ได้
/////////////////////////////////////////


พังงา...ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
14 มีนาคม 2548


ส.ส.พังงา เขต 2 พรรคไทยรักไทย เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ขณะที่ ผู้บัญชาการทหารบกยังไม่มีรายงานแต่ก็พร้อมที่จะปราบปราม ผู้กระทำผิด

นายกฤษ ศรีฟ้า ส.ส.จังหวัดพังงา เขต 2 พรรคไทยรักไทย บอกว่า หลังจากทราบข่าวว่ามีการบุกรุกและทำลายป่าไม้ในพื้นที่อำเภอกะปง ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ พบต้นไม้ใหญ่ที่เป็นต้นไม้ยืนต้นชนิดไม้เนื้อแข็งที่หายาก และพบพื้นที่ป่าจำนวนมากถูกทำลาย โดยขณะเข้าไปในพื้นที่พบป่าที่อยู่ใกล้เคียงยังมีค่าง และสัตว์ป่าหายากอีกหลายชนิด ดังนั้นจะรายงานเรื่องนี้ต่อรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่า โดยเฉพาะขณะนี้พืชผลทางการเกษตรของจังหวัดพังงาได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างรุนแรง หากไม่แก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่าไม้ จังหวัดพังงาจะประสบกับปัญหาภัยแล้งเช่นเดียวกับจังหวัดอื่น ๆ

ด้านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวขณะเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดพังงา ว่าที่ผ่านมากองทัพบกไดดำเนินการปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ได้รับรายงานการทำลายป่าในพื้นที่จังหวัดพังงา แต่ออย่างใด

นายประจิน ธารศิริศิลป์ นายอำเภอกะปง บอกว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพร้อมกับรายงานหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เข้าดำเนินการ เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าดงดิบ เบื้องต้นทราบว่าพื้นที่ ตำบลเหลมีปัญหาเอกสารสิทธิที่ดิน และเคยรายงานเรื่องดังกล่าวให้ทางจังหวัดทราบเพื่อหามาตรการแก้ไขแล้ว ขณะนี้เรื่องยังอยู่ที่กรมที่ดิน

นายสมชาย ทิพย์พิมล นายกอบต.เหล อ.กะปง จ.พังงา บอกว่าที่ผ่านมาทางอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เคยเข้าไปตรวจสอบการทำลายป่าไม้ในตำบลเหลอย่างจริงจัง ส่วนใหญ่นั่งรายงานอยู่ที่อำเภอ ยังไม่เคยเห็นนายอำเภอเข้าไปดูพื้นที่ที่มีปัญหาแต่อย่างใด หากเป็นพื้นที่ทีมีเอกสารสิทธิก็ต้องพิสูจน์ทราบกันเพราะป่าที่ถูกทำลายเป็นป่าดงดิบ หากไม่มีการตรวจสอบจะทราบได้อย่างไรว่ามีเอกสารสิทธิ อีกทั้งสภาพป่าที่ถูกโค่นและแผ้วถางเป็นพันธุ์ไม้ธรรมชาติที่มีค่าอายุนับร้อย ๆ ปี


///////////////////////////////

พังงา...ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
17 มีนาคม 2548


ตำรวจกะปงจับผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าแล่งต้นน้ำตะกั่วป่า ได้ของกลางไม้แปรรูปและต้นไม้ที่ถูกโค่นหลายร้อยต้น

พ.ต.ท.ธีระพล จันทรกระจ่าง สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอกะปง บอกว่า นายสมชาย ทิพย์พิมล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเหล         อ.กะปง จ.พังงา พร้อมด้วยชาวบ้านและสมาชิกราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า ตำบลเหล ได้แจ้งให้อายัดไม้ในพื้นที่ตำบลเหล ที่ถูกแผ้วถาง ทำลาย และได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.เชาว์ ผอมนะ สารวัตรปราบปราม นำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าต้นน้ำคลองแคระปลายโต๊ะ เทือกเขารมณีย์-ช้างเชื่อ ต.เหล พบไม้แปรรูปขนาดยาว 4-6 เมตร จำนวน 300 ชิ้น ท่อนซุงที่เตรียมแปรรูปและต้นไม้ขนาดใหญ่ จำนวน 300 ต้น และได้จับกุมตัวนายสมหมาย รักษ์เพชร อายุ 4 ปี ชาวจังหวัดตรัง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 2/5 หมู่ 5 บ้านดอกแดง ต.บางไทร อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

จากการสอบสวนนายสมหมาย ให้การว่าได้เช่าที่ดิน น.ส.3 จากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อทำการแปรรูปไม้ โดยหากกรมที่ดินยังไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ ถือว่าที่ดินดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นใครจะจับกุมก็จับไป ตนจะทำสำนวนให้ แต่จะไม่ร่วมจับกุมเพราะกลัวจะถูกฟ้องกลับ

พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอกะปง บอกว่า หลังเข้ารับตำแหน่งได้ให้พนักงานสอบสวนนำสำนวนการสอบสวนเอกสารสิทธิที่ดินที่ออกให้โดมิชอบในอำเภอกะปง มาศึกษา และสงสัยว่าเหตุใดกรมที่ดินจึงใช้เวลาในการเพิกถอนสิทธินานมาก ส่งผลให้ป่าถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จะนำผลการสอบสวนขยายผลต่อไป

นายสมชาย ทิพย์พิมล นายก อบต.เหล บอกว่าจะยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อให้ใช้อำนาจผู้ว่าซีอีโอยุติการทำลายป่าต้นไม้ลำธาร เพราะการไม่หยุดโค่นป่าชาวบ้านต้องได้รับอันตรายจากดินถล่มในฤดูมรสุมอย่างแน่นอน ขณะนี้ชาวบ้านจะทอดผ้าป่าเพื่อระดมทุนเคลื่อนไหวต่อ เนื่องจากอาจต้องเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้รับผิดชอบถึงกรม กระทรวงที่เกี่ยวข้อง และนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล
////////////////////

พังงา...ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
23 มี.ค.2548


ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาทำหนังสือทวงถาม เรื่องเอกสารสิทธิบนภูเขากะปง อ.กะปง จ.พังงา ที่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร โดยมีการเรียกนายสมเกียรติ แสงรุ่ง ที่ดินจังหวัดพังงา เข้าพบ ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ก็ลงนามในหนังสือถึงกรมที่ดินอีกฉบับหนึ่งเพื่อให้มีการเร่งรัดการตรวจอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศโดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการ และให้ส่งผลการอ่านแปลคืนแก่กรมที่ดินเพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิ ในพื้นที่อ.กะปง จ.พังงา ที่เหลืออยู่ 615 แปลง และยังมีหนังสือถึงอำเภอกะปงในฐานะเจ้าของท้องที่ที่รับผิดชอบพื้นที่ให้ดำเนินการเกี่ยวกับไม้ที่ถูกตัดโค่น

นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา บอกว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2548 ตนได้เซ็นหนังสือ 2 ฉบับเป็นหนังสือการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินและการครอบครองที่ดินในพื้นที่ อำเภอกะปง จ.พังงา เพื่อทวงถามเร่งรัดผลการอ่านแปลของเจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้กรมที่ดินใช้ในการประกอบการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินของอำเภอกะปงที่ออกทับพื้นที่ป่าถาวร จำนวน 626 แปลง และกรมที่ดินได้เพิกถอนไปแล้ว 11 แปลง ขณะเดียวกันได้เรียกตัวแทนบริษัทที่เกี่ยวข้องเป็นเจ้าของ น.ส. 3 ก.ที่มีปัญหาและอยู่ระหว่าพิจารณาเพิกถอน มาให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งตัวแทนบริษัทยืนยันว่าบริษัทไม่ประสงค์จะนำไม้ออกจากพื้นที่ แต่ต้องการให้ผู้อื่นเช่าเพื่อให้มีคนเฝ้าพื้นที่เท่านั้น และต่อไปนี้หากใครที่ตัดไม้ก็ให้ดำเนินการได้เลย

ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา บอกอีกว่า ตนไม่หนักใจกับการที่ต้องสั่งการเพิกถอน เอกสารสิทธิในพื้นที่อำเภอกะปง แต่อย่างใด แต่เข้าใจว่าหลังจากที่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน ซึ่งขณะนี้ที่ดินแปลงดังกล่าวติดจำนองอยู่ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง เจ้าของเอกสารสิทธิต้องฟ้องร้องกรมที่ดิน และกรมที่ดินก็จะต้องฟ้องร้องไล่เบี้ยผู้กระทำผิดตามลำดับ

สำหรับเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ที่มีปัญหาทับพื้นที่ป่าถาวรนั้น มีการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 เมื่อปี 2529 และเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2535 พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ รองอธิบดีกรมตำรวจ ในฐานะผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้ ได้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และมีหนังสือถึง ร.อ.เอก กาญจนพันธุ์ อดีตผวจ.พังงา ให้สอบสวนเพิกถอนเอกสารสิทธิตามกฎหมายที่ดิน และก็มีผลในการเพิกถอนในเวลาต่อมา
//////////////////

พังงา...ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
24 พ.ค.2548

ดีเอสไอ จะลงพื้นที่ตรวจการบุกป่า กะปง จ.พังงา ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำตะกั่วป่า

นายสมชาย ทิพย์พิมล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเหล อ.กะปง จ.พังงา บอกว่า ในสัปดาห์นี้ พ.ต.อ.อโนทัย บำรุงพวศ์ พนักงานสอบสวนพิเศษ 8 กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม จะนำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อำเภอกะปง เพื่อสอบสวนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหาเอกสารสิทธิ์ทับที่ป่าสมบูรณ์ ป่าต้นน้ำ ในตำบลเหล ต.ท่านา และต.รมณีย์ ตำบลละ 30 คน เจ้าหน้าที่ยังแจ้งอีกว่า หลังจากทำการสอบสวนชาวบ้านแล้วในสัปดาห์หน้า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบที่ดินทางอากาศ รวมทั้งจะเชิญนายก อบต.ในพื้นที่เกิดเหตุ และนายอำเภอกะปง นั่งเฮลิคอปเตอร์ดูพื้นที่ทั้งหมด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พอใจกับการสอบสวนชาวบ้านทั้ง 2 ครั้งมาก เนื่องจากประชาชนบางรายเป็นอดีตกำนัน และผู้ใหญ่บ้านให้ความร่วมมือดีมาก และได้ให้ข้อมูลอย่างละเอียด จึงง่ายต่อการดำเนินคดีและเพิกถอนเอกสารสิทธิทับป่าทั้งหมด

"ขณะนี้มีคนของกลุ่มนายทุนพยายามข่มขู่ชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดการต่อสู้กันทางความคิดและวิธีการดำรงชีพในพื้นที่พอสมควร เพราะมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้รับผลประโยชน์จากการดูแลพื้นที่ที่นายทุนครอบครองด้วย"

ทางด้านนายประดิษฐ์ อินทร์นาวา อายุ 59 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เหล บอกว่า ตนให้ข้อมูลทุกเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องการทราบ เพราะสามารถจำเหตุการณ์ตัดป่าซื้อขายป่าในปี 2529 ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากขณะนั้นตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีนายทุนกลุ่มหนึ่งว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่ที่หวังผลประโยชน์ให้ตัดแนวป่า และทำแผนที่ส่งนายทุน โดยได้รับค่าจ้างการตัดแนวป่าไร่ละ 300 บาท ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านกลุ่มดังกล่าวบางคนเสียชีวิตไปบ้างแล้ว บางคนก็มีชีวิตอยู่และยังคงดูแลที่ดินให้นายทุนอยู่

"ตนไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่มาเดินรังวัดที่ดิน น.ส.3 ก. แปลงที่มีปัญหาประมาณ 20,000 ไร่ ที่เป็นป่าดงดิบเลย ทราบแต่เพียงว่าหลังจากนายทุนให้ชาวบ้านตัดแนวป่า จากนั้นมีการออก น.ส.3 ก.ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิ ของนายทุน ส่วนชาวบ้านได้เงินเพิ่มในวันโอนชื่อติดที่ดินให้นายทุนประมาณ 1,000-1,500 บาท แล้วแต่นายหน้าจะจ่ายให้

////////////////////////////////////////

พังงา...ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
27 กันยายน 2547


จากกรณีที่นายสมัชชา โพธิ์ถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้าง บริษัม อีโก้ ซิสเต็มเอ็นจีเนียอินซักแตน จำกัด ให้ศึกษาความเป็นไปได้แนวทางการลงทุนในการเพิ่มมูลค่าทรัพยากรธรรมชาติอ่าวพังงา ต.เกาะปันหยี อ.เมือง จ.พังงา ทั้งนี้เนื่องจากที่ดินบริเวณโรงแรมพังงาเบย์รีสอร์ท ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา (อบจ.พังงา) แต่การดำเนินธุรกิจโรงแรมไม่ประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันสภาพภูมิทัศน์ บริเวณดังกล่าวมีความสวยงาม ทาง อบจ.พังงา และจังหวัดพังงาจึงต้องการลงทุนพัฒนาที่ดินดังกล่าว

นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดพังงา บอกว่าโครงการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนและสร้างมูลค่าเพิ่มสินทรัพย์ของทางราชการและเอกชน จังหวัดพังงาจึงได้ดำเนินโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ในการนำสินทรัพย์ของทางราชการคือ อบจ. และอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา รวมเนื้อที่ทั้งหมด 634-1-12 ไร่ มาคิดคำนวณมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่และกำหนดกิจกรรมการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเพื่อนำไปเสนอภาคเอกชนในการลงทุน เพื่อร่วมพัฒนาต่อไป

จากการศึกษาของบริษัทผู้รับจ้างพบว่ามูลค่าราคาที่ดินของ อบจ.คิดเป็นเงิน 192 ล้านบาท มูลค่าการใช้ทรัพยากรป่าชายเลน คิดเป็นมูลค่า 57 ล้านบาท มูลค่าสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ในปัจจุบัน 44 ล้านบาท ซึ่งรวมมูลค่าทั้งสิ้น 294 ล้านบาท สำหรับการออกแบบวางผังการใช้ที่ดินแบ่งพื้นที่เป็น 6 โซน คือ โซนโรงแรม รีสอร์ท ลักษณะอีโก้ทัวร์ริสซึ่ม และกิจกรรมการศึกษาธรรมชาติในพื้นที่ป่าชายเลน โซนโรงแรมริมทะเล โซนโรงแรมระดับ 5 ดาวริมภูเขา โซนอาคารท่าเรือมาตรฐาน โซนอาคารท่าเรือ มารีน่า โซนสถานที่จำหน่ายสินค้าโอทอป ศูนย์อาหาร ศูนย์การค้า

นายสมัชชา โพธิ์ถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา บอกว่า การศึกษาความเป็นไปได้ของบริษัทคู่สัญญา ไม่เป็นไปตามข้อตกลง ไม่ศึกษามูลค่าของที่ดินแบบความเป็นไปได้ทำให้มูลค่าของที่ดินแบบความเป็นไปได้ ต่ำกว่าที่คาดหวังเอาไว้ ซึ่งได้ฝากนายจิต ผสมพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ดูแลเรื่องนี้ต่อไปและอย่าได้รับงวดงานตรวจการและจ้างให้ศึกษาใหม่

และเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2547 ที่ผ่านมาคณะกรรมการยุทธศาตร์จังหวัดพังงา จัดประชุมเพื่อทำแผนในปี 2548 ปรากฏ นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลย์วุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทปราการ ว่าที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา คนใหม่ มีบันทึกถึงคณะกรรมการให้กำหนดการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนอยู่ในยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดพังงาด้วย

ในเรื่องการลงทุนในพื้นที่จังหวัดพังงา นายอนุพงษ์ สงวนนาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา บอกว่าการลงทุนพัฒนาที่ดินบนเกาะคอเขา ตำบลเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ขณะนี้การลงทุนบนเกาะคอเขาเริ่มบูมมีการเข้าไปลงทุนค่อนข้างมาก โดยมีทั้งนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นการลงทุนในการก่อสร้างรีสอร์ท และ โรงแรม ประกอบกับขณะนี้บนเกาะคอเขามีสนามบินเล็ก ความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เครื่องบินขนาดเบา เป็นพื้นหญ้า สามารถลงได้ ซึ่งสนามบินแห่งนี้สร้างมานานมาก หากมีการปูทางวิ่งเป็นคอนกรีต ก็จะมีเครื่องบินมาลงได้มากขึ้น ส่งผลให้มีนักลงทุนตื่นตัวมีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินมากขึ้น ทำให้ราคาที่ดินบนเกาะคอเขาปรับตัวสูงขึ้นจากเดิมประมาณ ร้อยละ 200 ที่ดินสวย ๆ และอยู่ติดชายทะเลราคา ประมาณ ไร่ละ 4 ล้านบาท และมีแนวโน้มว่าจะมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นมากกว่านี้ เพราะมีนักลงทุนเข้าไปติดต่อกว้านซื้อที่ดินอยู่จำนวนมาก


คลิ๊กนี้มีความหมาย

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 : Webmaster by Narong Cheunniran : อีเมล์ :narongthai53@gmail.com