|
ชีวิตนักข่าว...ขนมปาดา ขนมโบราณของมุสลิม
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
24 เมษายน 2553
ชีวิตนักข่าว เป็นธรรมดาที่จะต้อง เสาะหาเรื่องราว มาเล่าสู่กันฟัง ที่เป็นเรื่องแปลกใหม่ ที่ตัวเองไม่ค่อยได้รู้ แต่ก็อยากจะรู้ เพื่อจะได้นำมาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง
เมื่อวันที่ 24-25 เมษายน 2553 คณะกรรมการมัสยิดหมัดยาเม๊าะมุสลิมชุมทางหาดใหญ่ ได้มีการจัดงานหารายได้ เพื่อซื้อที่ดินขยายมัสยิด จึงได้มีการจัดงานการกุศล โดยใช้สถานที่บริเวณโรงเรียนเอ็งเสียงสามัคคี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เป็นสถานที่จัดงาน และอยู่ใกล้ที่ทำงานของผมด้วย เป็นธรรมดาหล่ะครับ ที่ผมจะต้องเดินสำรวจ วิถีชีวิต และบรรยากาศการจัดงาน ก็ขอนำบรรยากาศ มาเล่าสู่กันฟังนะครับ
วันแรกของการจัดงาน ประมาณ 2 ทุ่ม ของวันที่ 24 เมษายน 2553 ก็มีพิธีเปิดงาน มีการออกร้านขายสินค้า ที่ผมเห็นก็จะเป็นพวกเสื้อผ้า ของชาวมุสลิม หนังสือที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม เครื่องประดับ การบรรยายธรรม แต่ในงานไม่มี มหรสพ ใด ๆ เลย งานอาจจะดูเงียบเหงาไปบ้าง แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบหนึ่ง ครับ งานนี้ผมได้ร่วมทำบุญไป 100 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ออกใบเสร็จให้ด้วยนะครับ และยังถามผมว่าผมอยู่ที่ไหน ซึ่งผมก็บอกไปว่า ก็อยู่แถว ๆ นี้แหล่ะครับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ซักต่อ คงเห็นผมไม่อยากจะตอบกระมัง ผมออกเดินไปทั่วงาน ทั้งซื้อ อาหารที่อร่อย ๆมาทาน อาทิ ไข่ปลาทอด อันนี้อร่อยครับ ที่ผมเห็นน่าจะมีที่สงขลา พัทลุง เท่านั้นที่ทำขายกันเพราะ ทั้งสองจังหวัด มีทะเลสาบสงขลา อยู่รอบ จึงเป็นถิ่นที่อยู่ของปลา จึงทำให้ผมได้ทานไข่ปลาทอด นี่แหล่ะครับ อาหารนอกจากนั้นก็จะมี เต้าคั่ว สูตรอิสลาม ก๋วยจั๊บ ซุบหางวัว ช่อมาลี (ซุบกีบวัว หรือตีนวัว) ของกินเหล่านี้ก็มีขายแม้นแต่ข้าวหลามก็มีขายครับ ผมไปยืนถ่ายรูปแม่ค้าชาวมุสลิมขายข้าวหลาม แม่ค้าคงจะถูกใจผม เธอยื่นข้าวหลามให้ผมอันหนึ่ง ผมก็จะจ่ายตังส์ให้ แต่เธอไม่รับ ครับ บอกว่าให้ผมฟรี ผมก็ได้แต่ขอบคุณเธอ และก็ถามว่า แม่ค้ามาจากไหน เธอบอกว่า มาจากอำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ซึ่งอำเภอนี้อยู่ติดแดนกับอำเภอหาดใหญ่ ทางไปสนามบินหาดใหญ่ ผมรับข้าวหลามของแม่ค้าวัยกลางคนมาทาน ต้องชื่นชมด้วยความจริงใจว่า อร่อยมากครับ ผมต้องขออภัยด้วยที่ไม่ได้จดชื่อแม่ค้า เพราะวันนั้นเอาแต่กล้องถ่ายรูปไป แต่พอผมไปวันที่สองเธอไม่มาขายแล้ว ก็ขออวยพรให้ขายได้เยอะ ๆ นะครับ สำหรับน้ำใจที่งดงามของแม่ค้าชาวไทยมุสลิมคนนี้
ส่วนขนมที่ผมจะแนะนำ อยู่ติดกับแม่ค้าขายข้าวหลาม นี่แหล่ะครับ ผมยืนดูการทำขนมด้วยความสนใจ เพราะคล้ายการทำขนมโดนัท ที่เป็นก้อนกลม ๆ แล้วก็นำมาทอดในน้ำมัน ผมยืนดูและเพ่งอยู่นาน พร้อมทั้งถ่ายรูปไปด้วย คนทำขนมคงเห็นว่าผมสนใจจึง ให้ผมชิมชิ้นหนึ่งซึ่งกำลังร้อน ๆ ผมบอกว่า วางไว้ให้เย็นก่อนนะครับ ผมชักสนใจขึ้นมาแล้วครับ เพราะไม่ใช่ขนมโดนัทที่ผมเข้าใจ ผมเริ่มเป็นผู้สนทนา ก่อน ขนม อร่อยนะครับ เรียกชื่อขนมอะไร บังดล ตอนี อายุ 58 ปี ผู้ซึ่งกำลังทอดขนม บอกผมว่า ขนมปาดา แล้วทำยังไงครับ ผมเริ่มซักต่อด้วยความสนใจ อันนี้ เดี๋ยว ถาม อาหวา รุสมาน ดีกว่านะ เพราะเป็นคน ทำขนม และก็เป็นภรรยาผมด้วย ผมจึงหันไปทาง คุณอาหวา เพื่อให้เธอเล่าให้ฟัง
คุณอาหวา บอกว่า ขนมปาดา สืบทอด มาหลายชั่วอายุคนแล้ว เมื่อก่อนมีญาติพี่น้องอยู่ที่นครศรีธรรมราช ตอนหลังมีครอบครัวที่หาดใหญ่ ก็เลยมาอยู่หาดใหญ่ ที่บริเวณย่านหาดใหญ่ใน เพราะมีชุมชนมุสลิม อยู่ค่อนข้างมาก แล้ววิธีการทำขนม ทำยังไงครับ อันดับแรกเราต้องทำไส้ขนมก่อน ส่วนผสมก็จะมี ตะไคร้ หอม พริกไทย กระเทียม มะพร้าว กะทิ กุ้งสด เกลือ น้ำตาล แล้วเราก็บดส่วนผสมให้เข้ากัน จนละเอียด จากนั้นก็เอาไปผัดให้สุก ท่านดูส่วนผสมของขนมปาดา ขนมมุสลิมสูตรโบราณ ก็ต้องบอกว่า อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุของอาหาร ที่มีอยู่อย่างครบถ้วน แค่นั้นยังไม่พอครับ แป้งที่ใช้ห่อไส้ ก็ทำจากแป้งข้าวเจ้าที่มีส่วนผสมของกล้วยน้ำว้า ผมรับรองได้เลยว่าท่านจะได้ คาร์โบไฮเดรท แถมยังได้วิตามิน จากกล้วยอีก ผมว่า สารอาหารเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างแน่นอน และผมก็ไม่แปลกใจ ที่มีลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นขาประจำหรือขาจร ต่างยืนเข้าแถวรอคิวแน่นไปหมด เพื่อซื้อขนมปาดา และวันหนึ่ง ๆ คุณอาหวา ต้องเตรียมแป้งวันละ 3 ถัง ก็ต้องหลับตานึกเอาเองก็แล้วกันว่า ขายได้เยอะขนาดไหน
ผมสนใจเรื่องการปั้นขนมปาดา ดูแล้วกลม ๆ คล้ายขนมโดนัท ของฝรั่ง แต่ข้างในมีไส้ คุณอาหวา บอกว่า การปั้นต้องใช้ความชำนาญ ปั้นใหม่ ๆ จะไม่เป็นก้อนกลม กว่าจะฝึกปั้นให้กลมก็ต้องใช้เวลานาน ส่วนผสมถ้าไม่ดี แป้งก็จะไม่จับตัวดี เวลานำไปทอดก็จะแตกกระจาย ต้องระมัดระวัง พอทำไปนาน ๆ ก็คล่อง
ถ้าท่านใด เห็นขนมปาดา ขนมมุสลิมโบราณ ก็ลองแวะซื้อมาทานนะครับ รสชาติ อย่าบอกใครเชียว ครับ
888888888888888 | 
หน้าแรก
สถิติวันนี้ 
สถิติเดือนนี้ 
สถิติปีนี้ 
