www.narongthai.com  

www.narongthai.com เป็นเว็บไซต์เชิงวิชาการ ที่สามารถนำอ้างอิงได้ตามหลักวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                           
 

 ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
https://www.facebook.com/profile.php?id=100010475651732
สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 สถิติวันนี้ 5 คน
 สถิติเมื่อวาน 28 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
3383 คน
49197 คน
1741641 คน
เริ่มเมื่อ 2010-01-13

 
 
ชีวิตนักข่าว...ภูสิงห์ ตอน 1
7 ธันวาคม 2552
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
 
ผมมีโอกาสได้เดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความน่าสนใจ เมื่อครั้งที่ผมเดินทางไป ลาว เพื่อดูงานด้านพลังงานไฟฟ้าที่เขื่อนน้ำเทิน 2 ขากลับผมได้แวะเยี่ยมพรรคพวกเพื่อนฝูง และครอบครัวที่กาฬสินธุ์ ทำให้ผมเห็นการเปลี่ยนแปลง ของบ้านเกิด อย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ความเจริญได้แพร่กระจายลงไปในพื้นที่มากขึ้น แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะไปดู วัด ที่ผมเคยไปเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก นั่นคือ วัดพุทธาวาส ซึ่งวัดแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขา ที่ชาวบ้านเรียกว่าภูสิงห์ และภูเขาลูกนี้ตั้งอยู่ในตัว อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์   สิ่งที่มหัศจรรย์ก็คือ บนภูเขาจะมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่   ถ้ามองจากพื้นล่าง จะมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งแต่ไกล ได้อย่างชัดเจน 
 
ผมยังจำได้ว่า คุณพ่อ และคุณแม่ของผมพาผมและญาติพี่น้อง ขึ้นภูสิงห์   โดยทางบันได และวันนี้ผมก็จะเดินย้อนรอย ทั้ง ๆ ที่ การขึ้นภูสิงห์ มีทางรถยนต์ วิ่งขึ้นไปได้อย่างสะดวก แต่นั่นง่ายเกินไปสำหรับผม  เพราะจะไม่ได้รสชาติ ของชีวิต ผมตั้งใจว่าจะเดินนับขั้นบันได และจะไม่มองสูงเกินไป เพราะจะทำให้หมดกำลังใจ ซึ่งการเดินขึ้นภู ครั้งนี้ นับว่าเป็นการสอนธรรมะไปในตัว เพราะการขึ้นที่สูงหากเรามองไปให้ไกลออกไปจะทำให้เรารู้สึกเหนื่อยมาก และท้อถอยไม่อยากจะสู้ และอาจจะทำให้เราไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางที่เราปรารถนาได้ หากเมื่อเปรียบกับการทำงานราชการหากเราหวังที่อยากจะมีตำแหน่งที่สูงเราต้องสำรวจตัวเองให้รอบคอบว่าเราเหมาะกับตำแหน่งอะไร พร้อมหรือไม่ที่จะเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทาง แต่ถ้าเราคิดมุ่งมั่นที่จะทำงานและ มีผลงานเก็บไปเรื่อย ๆ ผมเชื่อว่าวันนั้นก็จะเป็นของเราอย่างแน่นอน 
 
เมื่อรวบรวมสติ และใจพร้อมแล้ว ผมเริ่มออกเดิน นับทีละขั้น ทีละขั้น ผมต้องหยุดเป็นระยะ ๆ เพื่อพักเหนื่อย และผมได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามยิ่ง เมื่อผมมองไปทางทิศตะวันออก ก็จะเห็นภูกุ้มข้าว ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สิรินธร และที่ขุดค้นซากไดโนเสาร์ ที่สมบูรณ์ที่สุดของประเทศไทย เมื่อมองดูภูกุ้มข้าวให้ดี ก็จะเห็นรอยขอบน้ำท่วม ที่บริเวณแห่งนี้เมื่อหลายหมื่นปี ซึ่งนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ไดโนเสาร์ หนีตาย แล้วเกิดล้มทับ ล้มตายลงเป็นจำนวนมาก 
 
เมื่อหายใจคล่องคอ แล้ว ผมออกเดินต่อ แต่ก็พักเหนื่อยเป็นระยะ ๆ   เพราะอยากจะดูธรรมชาติ ในที่สุดผมก็เดินถึงยอดภูสิงห์ สภาพยังคงเหมือนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ที่ยังคงมีประประธานขนาดใหญ่ ประดิษฐานอยู่เบื้องหน้า แต่ก็ก็มีการศาลาเพื่อใช้เป็นที่ทำการของวันอยู่ก่อนที่จะถึงทางขึ้น ผมเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 20 ขั้นก็ถึงบริเวณหน้าลานพระทีใช้เป็นที่ไหว้พระ ผมเดินผ่านไปเพื่อที่จะไปยืน ถ่ายรูปรอบพระบาทที่อยู่ในมณฑป ที่ตั้งอยู่ใกล้กัน 
 
บริเวณนี้สามารถมองเห็น ตัวอำเภอสหัสขันธ์ได้ทั้งหมด ผมมองไปทางด้านทิศตะวันออก เป็นบรรยากาศที่สวยงามมากสุดจะบรรยาย เมื่อผมแหงนมองบนท้องฟ้าในระดับสายตา ที่ทอดยาวไกลออกไปเบื้องหน้า ผมเห็นเมฆปุยสีขาว เกาะกลุ่มกันแบบห่าง ๆ เหมือนแนวตาข่าย ปกคลุมบริเวณภูกุ้มข้าว ที่เป็นสถานที่พบซากไดโนเสาร์ โดยมีแสงสาดส่องเป็นรังสี เล็ดลอดตามเหลือบเมฆ ลงมาเป็นลำแสงราวกับ สายรุ้งที่พวยพุ่งจากสรวงสวรรค์ (ดูจากรูปภาพ) ผมเก็บภาพไว้หลายภาพ เพื่อบันทึกความงดงาม ของปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้น แม้นว่าคนอื่นจะไม่เห็น แต่ผมก็ได้เห็นเป็นบุญตา ซึ่งบริเวณที่ผมยืนถ่ายรูปอยู่นั้น คือที่ตั้งของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ประดิษฐานสูงเด่นเป็นสง่า นามว่า พระพรหมภูมิปาโล ซึ่งผมมีรายละเอียดให้ท่านได้อ่านเพียงท่านคลิกบนข้อความนี้ (มี่รายละเอียด)
 
 
ผมเดินสำรวจอยู่พักหนึ่งก็ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับ พระทีติตะวัฒโน เจ้าอาวาสวัดพุทธาวาส หรือวัดภูสิงห์ โดยพระอาจารย์ได้บอกว่า “การนำเสนอข่าวต้องนำเสนอ แบบพูดตามข้อเท็จจริง แต่การพูดข้อเท็จจริงนั้นต้องเป็นประโยชน์ ต่อประชาชน ถ้าไม่เป็นประโยชน์ก็ไม่ต้องพูด ซึ่งสิ่งที่ออกมาจะกลับไปสู่สันติ และต้องเป็นข่าวเพื่อชี้นำสันติอย่าไปเขียนเพื่อนำสู่ความขัดแย้ง การคิดต้องคิดให้ไกล แต่ทำให้ใกล้ ” เมื่อถึงตรงนี้ผมพอจะเข้าใจแล้วว่า การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน คำนึงแต่การนำเสนอข้อเท็จจริง เพียงอย่างเดียว โดยมีความเข้าใจว่า ข่าวต้องเป็นข่าว แต่พอผมได้ฟังอาจารย์ท่านบอกว่า ข้อเท็จจริงนั้นต้องเป็นประโยชน์ ยิ่งทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นว่า ถ้าข่าว เผยแพร่ออกไปแล้วไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็ไม่ต้องไปนำเสนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ส่วนข้อคิดที่ว่า คิดให้ไกล แต่ทำให้ใกล้ ผมได้วิเคราะห์แล้วว่า เป็นข้อคิดที่ดี เพราะถ้าเรามีความคิดที่อยากจะเป็นใหญ่เป็นโตแต่เราคิดจะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวก็จะเป็นการทรมานตนเองที่ไม่รู้จักพอ แต่ถ้าหากเรามีความเพียรขยันขันแข็ง ที่จะปฏิบัติตนดี ก็จะประสบความสำเร็จได้ในที่สุดเหมือนกับการที่เราเดินขึ้นภูเขา หากเดินไปเรื่อย ๆ สักวันหนึ่งเราก็จะเดินถึงยอดเขาแน่นอน แต่ถ้าหากเรามองไกลไปถึงยอดเขา เราก็จะเกิดความท้อแท้ สิ้นหวังเพราะดูเหมือนไกล แต่ถ้าเราเดินมองแต่ปลายเท้า และเดินไปเรื่อย ๆ สักวันเราก็ถึงยอด ดั่งที่อาจารย์ได้พูดไว้ว่า คิดให้ไกล แต่ทำให้ใกล้ 
 
ผมได้ข้อคิดในการทำข่าวจากเจ้าอาวาส ที่ท่านได้มองเห็นการทำงานของผู้สื่อข่าว ซึ่งทำให้ผมเข้าใจมากขึ้น ต่ออาชีพที่ผมทำมาตลอด 25 ปี เพราะเมื่อเมื่อก่อนคิดแต่เพียงว่า นำเสนอแต่ข้อเท็จจริง เร็ว เผยแพร่ข่าวก่อนสื่ออื่น จะถูกจะผิด ไม่ค่อยคำนึงถึง จะเป็นประโยชน์ กับคนดูหรือไม่ ก็ไม่ค่อยได้คิด แต่ต่อไปนี้ผมได้ข้อคิดแล้วว่า ข่าวที่เผยแพร่ออกไป จะต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชน   อย่างแน่นอน 
 
 

คลิ๊กนี้มีความหมาย

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 : Webmaster by Narong Cheunniran : อีเมล์ :narongthai53@gmail.com