ชีวิตนักข่าว...แทนทาลัม
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
25 มกราคม 2553
เรื่องราวการเผาโรงงานแทนทาลัมที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2529 ยังคงติดตราตรึงใจ อยู่ในความทรงจำ ของผมตลอดเวลา และตั้งใจว่าจะเขียนเรื่องการก่อจลาจล ที่มีความรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาของเกาะภูเก็ต ซึ่งหลายท่านยังมีความข้องใจว่า แทนทาลัมมันคืออะไร ทำไม ผู้คนถึงได้หวาดกลัว จนต้องเผาต้องทำลาย ให้สิ้นซาก ผมจึงได้ทำการค้นคว้าความหมายของ แร่ธาตุที่ชื่อว่า แทนทาลัม ที่แท้จริง คืออะไรกันแน่ และต่อไปนี้ จะเป็นเรื่องราวของแทนทาลัม ที่ผมจะเป็นผู้ไขปริศนา ให้ท่านได้ทราบว่า แทนทาลัมมันน่ากลัวอย่างเขาคิดไว้หรือไม่
แทนทาลัมเป็นโลหะที่มีคุณสมบัติพิเศษ ใช้ประโยชน์ในวงการอุตสาหกรรมหลายประเภท และที่น่าสนใจ แทนทาลัม สามารถเข้าไปอยู่ในร่างกายมนุษย์ ตามขบวนการรักษาทางการแพทย์และมีลักษณะดังนี้
แทนทาลัมมีจุดหลอมตัวสูงประมาณ 3,000 องศาเซลเซียส เป็นโลหะที่มีความแข็งมาก และทนทานต่อความร้อนสูงมาก แทนทาลัม ยังเป็นโลหะที่ทนต่อการกัดกร่อนของกรดได้ทุกชนิดที่อุณหภูมิปกติ ยกเว้นกรดกัดแก้ว (กรดไฮโดรฟลูออริก) กรดกัดแก้ว อธิบายให้ท่านเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราเอากรดชนิดนี้ ใส่ลงไปในแก้ว แก้วก็จะละลาย ตรงนี้แหล่ะครับ ที่จะเป็นปัญหา ที่ใช้ในการปลุกระดม ว่าหากกรดเกิดรั่วไหล แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ก็ลองให้ท่านนึกภาพเอาเองก็แล้วกัน แต่ตัวแร่แทนทาลัม ไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลยนะครับ เอ้า...เรามาว่าต่อเรื่องแทนทาลัม ว่าคืออะไรกันแน่
แทนทาลัม ยังเป็นโลหะที่เก็บประจุไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดงและมีราคาสูงกว่าทองแดง แน่นอนครับ เมื่อไทยมีแทนทาลัม ส่งออกเมื่อไหร่ ประเทศไทยก็จะได้เงินเข้าประเทศมากขึ้นเท่านั้น
ทีนี้เราดูเรื่องประโยชน์ของแทนทาลัม ที่อยู่ในวงการอุตสาหกรรม ซึ่งแทนทาลัมถูกใช้ประโยชน์อย่างมากมาย เช่น อุตสาหกรรมไฟฟ้า ถูกนำไปใช้เป็นตัวเก็บประจุไฟฟ้าที่เรียกว่า แคพาซีเตอร์ (Capacitor) ที่ใช้ในเครื่องไฟฟ้า อาทิ โทรทัศน์ ,คอมพิวเตอร์ , เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ , และเครื่องมือสื่อสาร
นอกจากนี้ แทนทาลัม ยังนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า โดยนำแทนทาลัมไปทำเป็น แทนทาลัมคาร์ไบด์ เพื่อใช้ประโยชน์ในการตัดกลึงเหล็กกล้า และทำเป็นโลหะชนิดความต้านทานพิเศษ
แทนทาลัม ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเคมี แทนทาลัมจะทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมีหรือกรดนานาชนิด ยกเว้นกรดกัดแก้ว แทนทาลัมยังนำไปผลิตอุปกรณ์ สำหรับบรรจุสารเคมี นอกจากนี้ แทนทาลัม ยังใช้เป็นโลหะผสมสำหรับเครื่องบิน ใช้อุดฟันชนิดโลหะในวงการแพทย์ และดามกระดูกที่หักภายในร่างกายของมนุษย์ ที่สำคัญคือ แทนทาลัมมีราคาสูง เหนือกว่าโลหะหลาย ๆ ชนิดในโลกนี้ และต้องบอกว่า แทนทาลัม เป็นแร่ธาตุ ที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ เป็นอย่างยิ่ง และการได้มาของแทนทาลัม เป็นผลพลอยได้ของการถลุงแร่ดีบุก จนเหลือเป็นตะกรัน หรือ ที่ชาวบ้าน เรียกว่า ขี้แร่ ซึ่งไม่มีค่าอะไร นอกจากเอาไปถมที่ และถมถนน เท่านั้น แต่พอนักวิทยาศาสตร์ ได้ค้นพบ ว่า ขี้แร่ มีแร่ธาตุชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า แทนทาลัม และมีประโยชน์มากมายมหาศาล แทนทาลัมจึง มีค่าขึ้นมาทันที ขี้แร่ที่นำไปถมถนนหลายสายในภูเก็ต อาทิ ถนนประดิพัทธ์ ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนแถบนั้น ได้มีการลักลอบขุดลงไปที่พื้นบ้านของตัวเอง จนขุดเลยออกไปใต้พื้นถนน เพื่อเอาขี้ตะกรัน มีอยู่วันหนึ่ง พื้นผิวถนนไม่สามารถที่จะรับน้ำหนักได้ รถยนต์ที่วิ่งผ่านไปบริเวณนั้น พื้นถนนรับน้ำหนักไม่ได้ ทำให้ถนนยุบตัวตกลงไปทับชาวบ้านที่ลักลอบขุดขี้ตะกรันใต้ถนน จนทำให้เสียชีวิต และเป็นข่าวคึกโครม โด่งดังไปทั่วประเทศ เหตุก็เพราะชาวบ้านต้องการขุดเอาขี้แร่ ไปขาย เพราะได้ราคาดี จึงยอมเสี่ยงตาย ที่จะขุด เพื่อเอาไปขาย ก็ลองคิดดูเอาก็แล้วกันว่า ราคาต้องคุ้มกับชีวิต
มีคำถามว่า กรดไฮดโดรฟลูออริก หรือ กรดกัดแก้ว อันตรายแค่ไหน ต้องบอกว่า กรดกัดแก้วที่ว่านี้ เป็นประเด็นหนึ่งที่ทำให้เกิดความรุนแรง จนถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง เพราะมีการนำไปปลุกระดมว่า หากกรดกัดแก้วเกิดระเบิดขึ้นมา พิษมันจะกระจายไปทั่วเกาะภูเก็ต ผู้คนจะล้มหายตายจาก เป็นจำนวนเรือนแสน นี่ปากคนพูดนะครับ ที่นี้เรามาดูเรื่องจริงกันบ้าง ว่ากรดกัดแก้วที่ว่านี้มันรุนแรงแค่ไหน
ทางวิชาการ ก็ระบุว่า กรดชนิดนี้มีพิษร้ายแรงมากถ้ามีความเข้มข้น 100 % ถึงขั้นละลายแก้วได้เลยทีเดียว แต่ทางฝ่ายโรงงานแทนทาลัมออกมาระบุว่า กรดกัดแก้วที่นำมาใช้ในโรงงาน ไม่ใช่กรดที่เป็นอันตรายร้ายแรงอย่างที่ชาวภูเก็ตหวาดกลัวกัน เนื่องจากทางโรงงานใช้กรดไฮโดรฟลูออริก หรือกรดกัดแก้ว ในรูปของสารละลายที่มีความเข้มข้นเพียง 70 % และมีการควบคุมอย่างรัดกุม ดังนั้นอันตรายที่จะเกิดขึ้นจึงไม่มี เว้นแต่จะมีการสัมผัสกับกรดโดยตรงเท่านั้น และผลของการสัมผัสจะมีการไหม้และทำลายเนื้อเยื่อ (Burning) ซึ่งเป็นคุณสมบัติของกรดทุกชนิด การทำลายต่อเนื้อเยื่อและกระดูก ขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มข้นของกรด รวมทั้งระยะเวลาของการของการสัมผัส
ส่วนการฟุ้งกระจายของกรดไฮโดรฟลูออริก จะเข้าบรรยากาศอย่างรวดเร็ว การที่จะเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ในทันทีทันใดจึงเป็นไปไม่ได้ ซึ่งทางโรงงานมีการยืนยันว่า ไม่ได้ใช้กรดชนิดนี้ จึงไม่มีโอกาสที่จะเป็นอันตรายต่อชุมชนใกล้เคียง
ถึงแม้นว่า ทางโรงงานจะออกแถลงการณ์มาเช่นนี้ และปฏิเสธว่าไม่มีกรดกัดแก้ว แต่ชาวภูเก็ตก็กลัวและวิตก อยู่ตลอดเวลาว่า หากเกิดมีกรดนี้อยู่จริง และไม่สามารถที่จะควบคุมได้แล้วอะไรจะเกิดขึ้น พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่เชื่อ นั่นเอง
มีการตั้งคำถามว่า แนวทางป้องกันของโรงงานมีการปฏิบัติอย่างไร ซึ่งทางผู้บริหารโรงงานแทนทาลัม ได้ออกมาบอก วิธีการป้องกัน หากโรงงานเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ คือ ถังที่ใช้บรรจุกรดไฮโดรฟลูออริก ที่ขนส่งมาสู่โรงงาน เป็นถังโลหะขนาดความจุประมาณ 18.5 เมตริกตัน เป็นถังที่สร้างอย่างแข็งแรง ซึ่งเป็นถังที่ได้รับอนุญาตจากอเมริกา และยุโรป ให้ใช้ขนส่งกรด โดยถังบรรจุกรด จะถูกเก็บในภาวะความดันและอุณหภูมิปกติ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ จะมีการระเบิดเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง ส่วนถังบรรจุกรดที่ตั้งอยู่โรงงาน จะถูกเก็บภายในบ่อคอนกรีตอย่างดี ภายใต้อาคารอีกชั้นหนึ่ง โดยอาคารที่เก็บถังบรรจุกรดจะต่อเข้ากับระบบการฟอกอากาศ ที่มีกรดเจือปน เพื่อป้องกันการสะสมของไอกรด ที่อาจจะเกิดขึ้น ระหว่างการถ่ายเทของเหลว เปลี่ยนให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ ตามมาตรฐานได้ และภายในอาคารจะมีระบบฉีดน้ำฉุกเฉิน เพื่อป้องกันอันตรายจากเพลิงไหม้ และลดอันตรายจากกรดในกรณีที่อาจจะมีการรั่วไหลของกรด โดยการฉีดน้ำเพื่อให้กรดเจือจาง และทำให้เป็นกลาง โดยกระทำภายในโรงงาน ก่อนที่จะน้ำทิ้งไป ต่อไป
ทางโรงงานยังออกมา ระบุว่า ตามที่มีผู้อ้างว่าการปฏิบัติการทางเคมี ในการผลิตแทนทาลัม จะเกิดก๊าซเรดอน ซึ่งเป็นก๊าซที่อันตราย กระจายออกมานั้น ความจริงแล้วไม่มีก๊าซเรดอนอยู่เลย เพราะก๊าซชนิดนี้จะเกิดจากการสลายตัวของอณูยูเรเนียม และทอเรียม เท่านั้น ซึ่งในกรรมวิธีเคมีไม่มี จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นจากขบวนการผลิต เนื่องจากการสลายตัวของสารกัมมันตภาพรังสี จะเป็นไปตามธรรมชาติ หรือโดยการทำให้อณูของสารนั้นแตกตัว จะไม่สามารถเร่งรัดได้ด้วยขบวนการทางเคมีปกติอย่างที่ผลิตแทนทาลัม
ด้วยความเป็นนักข่าวที่จะต้องนำความจริงมาตีแผ่ เพราะมีกลุ่มอนุรักษ์ได้นำประเด็นของ การที่นำสารทอเรียมไดออกไซด์และไตรยูเรเนียมออกไซด์ ซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสี ปนอยู่ในกากที่เหลือจากการผลิต หากมีกระจายออกมาจะทำให้เกิดอันตรายต่อประชาชน ในเรื่องนี้ทางโรงงานมีการชี้แจงว่า ความจริงสารทอเรียม และยูเรเนียม เป็นองค์ประกอบหนึ่งในสินแร่ดีบุก รวมทั้งตะกรันดีบุกที่มีอยู่ทั่วไป แต่มีอยู่ในปริมาณที่น้อยมาก ไม่มีอันตรายแต่อย่างใดทั้งสิ้น สินแร่ดีบุกและตะกรันดีบุกนั้น สามารถพบได้ทั่ว ๆ ไปในเกาะภูเก็ต และตะกรันที่ว่า ยังนำมาถลุงเป็นโลหะดีบุก และ ตะกรันยังนำมาถมถนน หนทางใน ตัวเมืองภูเก็ต อยู่แล้ว
โรงงานแทนทาลัมภูเก็ต แห่งนี้ ได้ใช้ตะกรันดีบุกเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแทนทาลัม ดังนั้นปริมาณของสารกัมมันตภาพรังสีจึงมีอยู่ในระดับต่ำ เช่นเดียวกับตะกรันที่พบโดยทั่วไปในเกาะภูเก็ต และขบวนการผลิตแทนทาลัมก็ไม่มีการเพิ่มพูนหรือสะสมของสารกัมมันตภาพรังสี แต่อย่างใดทั้งสิ้น แร่ตะกรัน หรือว่าชาวบ้านเรียกว่าขี้แร่ ที่ได้มาจากการถลุงดีบุก นักวิทยาศาสตร์จากยุโรปและอเมริกา ได้มีการพิสูจน์ ตรวจสอบแล้วว่ามีสารกัมมันตภาพรังสีอยู่ในระดับต่ำ ไม่มีอันตราย เพราะถ้ามี ประเทศเหล่านี้จะไม่นำเข้าประเทศแน่
และทางโรงงานแทนทาลัมได้มีการยืนยันอีกว่า กากของแข็งที่เหลือจากขบวนการผลิต ทางโรงงานได้ปรับสภาพให้เป็นกลาง เพื่อไม่ให้มีอันตรายใด ๆ ด้วยการทำปฏิกิริยาทางเคมีกับปูนขาวเสียก่อน โดยปริมาณของปูนขาวต่อวัตถุดิบนั้นประมาณ 3 ต่อ 1 ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่กากของแข็ง จะมีการแผ่รังสีขึ้นมาอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายได้ เพราะนอกจากจะอยู่ในระดับต่ำแล้ว ยังมีสัดส่วนลดลงอีกด้วย เมื่อเทียบกับปริมาณในวัตถุดิบ คือ ตะกรันดีบุกเดิมที่นำมาใช้
ถึงแม้นทางโรงงานแทนทาลัมจะออกมาแถลง ว่าการถลุงแร่ และขบวนการสำคัญในการผลิตแทนทาลัม จะไม่มีสารกัมมันตภาพรังสี แต่คนภูเก็ตก็ไม่เชื่อคำแถลงที่ผู้บริหารโรงงานแทนทาลัม ที่ออกมาช้าเกินไป เพราะก่อนหน้านั้น มีการเกิดเหตุการณ์ระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียเชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย ทำให้เกิดโกศนาฏกรรมผู้คนล้มตาย และพิการเป็นจำนวนมาก และกลุ่มนักอนุรักษ์ ได้มีการนำภาพยนตร์ข่าว มาเปิดให้ชาวภูเก็ตดู จนทุกคนคิดว่า โรงงานแทนทาลัม จะเหมือนกับโรงไฟฟ้านิวเคลียเชอร์โนบิล ขณะเดียวกัน ในเดือนกรกฎาคม 2529 จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. นักการเมืองที่ลงสมัคร จึงใช้กระแสของการคัดค้านการก่อสร้างโรงงานแทนทาลัม มาเป็นประเด็นในการเรียกคะแนนนิยม จนในที่สุด นำไปสู่การเผาโรงงานแทนทาลัม
* * * * * * * * * * * |