www.narongthai.com  

www.narongthai.com เป็นเว็บไซต์เชิงวิชาการ ที่สามารถนำอ้างอิงได้ตามหลักวิชาการ                                                                                                                                                                                                                                                                           
 

 ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
https://www.facebook.com/profile.php?id=100010475651732
สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง

 

 

 

 

 

 

 สถิติวันนี้ 3 คน
 สถิติเมื่อวาน 28 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
3381 คน
49195 คน
1741639 คน
เริ่มเมื่อ 2010-01-13

     

       

คณะพระสงฆ์และสามเณรวัดหาดใหญ่สิตาราม หรือ วัดสมเด็จ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

สามเณรโดนี่ กับ ผู้เขียน
สามเณรดุสถูปเจดีย์
สามเณนำทางไปสถูป
กำลังจะออกธุดงค์
เตรียมตัวธุดงค์
ออกธุดงค์
ภายในป้อมปืนเขาน้อย
ป้อมปืนเขาน้อย
สามเณรออกเดินธุดงค์
ออกเดินธุดงค์ไปสิงหนคร
ชีวิตนักข่าว...สามเณรโดนี่ และพระ-สามเณรแห่งวัดสมเด็จ ผู้สืบทอดพระศาสนา
ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
16 กุมภาพันธ์ 2553
 
ชีวิตนักข่าว ของผมจะต้องบอกท่านว่า เป็นชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง ต้องไปสืบหาเรื่องราวที่น่าสนใจ มาเล่าให้ท่านได้ฟัง ถึงแม้นว่าผมอยู่จังหวัดสงขลามานานแต่ต้องบอกว่าผมรู้เรื่องของเมืองนี้น้อยมาก ผมจึงมีความกระตือรือร้นที่อยากจะเรียนรู้เรื่องราวของเมืองนี้ อย่างตั้งอกตั้งใจ
 
เมืองสงขลา เป็นเมืองที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน และเป็นเมืองที่น่าสนใจยิ่ง โดยเฉพาะโบราณสถานในพระพุทธศาสนา ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ตามแถบเทือกเขาน้อย , เขาหัวแดง มีป้อมค่าย และสถูปเจดีย์ ตั้งอยู่เรียงราย ซึ่งในอดีต บริเวณนี้เป็นที่ตั้งเมืองเก่าสงขลา เพราะเมื่อเจ้าเมืองมีการขึ้นดำรงตำแหน่ง ก็จะมีการสร้างวัดประจำเจ้าเมือง เพื่อเป็นการเสริมบารมี และพื้นที่ที่ผมกล่าวมา ปัจจุบันนี้ตั้งอยู่ใน อ.สิงหนคร จ.สงขลา 
 
วันนั้นผมเดินทางเพื่อเข้าไปดูป้อมค่าย ที่อยู่ปลายเทือกเขาน้อย อ.สิงหนคร จ.สงขลา ริมถนนสาย 408 สงขลา – นครศรีธรรมราช ป้อมค่ายเป็นลักษณะป้อมปืน ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่อด้วยหินที่มีความมั่นคงแข็งแรง มีช่องสำหรับวางปืนอยู่รอบด้าน ผมลงจากรถที่จอดอยู่ริมถนน เดินเข้าไปเพื่อถ่ายรูป บรรยากาศช่างดูเงียบเชียบ ลมพัดอ่อน ๆ เย็นสบาย เพราะมีต้นไม้ใหญ่ ตั้งอยู่เรียงราย อยู่ไปทั่ว ผมเดินเก็บภาพลึกเข้าไปด้านหลังพลันก็เห็น เครื่องอัฐบริขาร ของพระภิกษุสงฆ์ และผมเห็นพระภิกษุ และสามเณร ต่างเดินทยอยออกจากป่าที่อยู่ด้านหลังป้อมปราการ แสดงว่าต้องมีเรื่องราวที่น่าสนใจ แฝงเร้นอยู่
 
ตรงนี้แหล่ะครับ ผมได้พบกับ สามเณรโดนี่ จันทร์ดี พร้อมสามเณรน้อย ประมาณ 5 รูป สามเณรโดนี่ ทักทายผมด้วยอัธยาศัย ไมตรีเป็นอย่างดี และผมก็ได้ทักทาย   สามเณรโดนี่ ที่ได้ให้การต้อนรับผม ด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้มแจ่มใส หายเหนื่อยครับ ที่ผมได้มีโอกาสสนทนา
 
สามเณรโดนี่ บอกผมว่า “ห่างจากนี้ไปประมาณ 200-300 เมตร จะมีสถูปเจดีย์ เป็นของเก่าแก่ โบราณ เดี๋ยวเณรจะพาไปดู” ผมตอบตกลงทันที เพราะผมตั้งใจที่จะศึกษาหาความรู้ด้านประวัติศาสตร์อยู่แล้ว และยิ่งได้สามเณร เดินทางเป็นเพื่อนอีกหลายรูป ที่จะพาผมเข้าไป ผมจึงตอบตกลงทันที สามเณรโดนี่เดินนำหน้า ลัดเลาะไปตามทางเดินแคบ ๆ รายล้อมด้วยป่ารกชัด เดินลึกเข้าไป ในขณะที่เดิน สามเณรโดนี่ ก็ได้เล่าเรื่องราวชีวิตส่วนตัว ให้ผมฟัง ตลอดการเดินเข้าไปชม สถูปเจดีย์ 
 
สามเณรโดนี่ เล่าว่า พ่อแม่เป็นชาวอินเดีย อพยพจากอินเดียมาอยู่ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เมื่อมารดาเสียชีวิต บิดาก็ได้ไปมีภรรยาใหม่ สามเณรจึงตัดสินใจที่จะบวชเรียน ที่วัดหาดใหญ่สิตาราม (วัดสมเด็จ) อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งวัดนี้อยู่ทางไปสนามบินหาดใหญ่ “โยมรู้ไหม พื้นฐานของการดำเนินชีวิต ที่ดีคือศีลห้านะโยม ถ้าเราปฏิบัติตัวอยู่ในศีลธรรม ชีวิตเราก็จะเจริญมั่นคง และก้าวหน้าในชีวิต ” สามเณรโดนี่ เดินไปก็อธิบายถึง หลักธรรมะอย่างคล่องแคล่ว ราวกับเป็นนักบวชที่บวชเรียนมาอย่างยาวนาน “การเดินทางมา ทัศนศึกษา เป็นเรื่องที่ดี ได้เห็นเรื่องราวต่าง ๆ ในพระพุทธศาสนา ที่มีความรุ่งเรือง ได้ประโยชน์มาก ” ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับสามเณรโดนี่  เพราะผมก็ได้เห็นความยิ่งใหญ่ในอารยธรรมโบราณ 
 
สามเณรโดนี่ พาผมเดินลัดเลาะเข้าไปตามสันเขา ไม่นานนักก็มาถึง สถูปเจดีย์ ที่เหลือแต่ฐานสถูป ณ ที่นี้ผมได้พบกับ พระมหาเกรียงไกร สิริวรฺโณ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่นำ สามเณรเข้ามาทัศนศึกษา ในแหล่งโบราณคดี แห่งนี้ ที่ตรงนี้ ผมพบสามเณร อีกประมาณ 25 รูป ที่เดินทางมาล่วงหน้าก่อนนี้ ผมได้สนทนากับพระมหาเกรียงไกร ถึงเหตุที่ได้พาสามเณรมาศึกษาที่นี่ว่า “อาตมาได้นำสามเณร จากวัดหาดใหญ่สิตาราม หรือที่รู้จักของชาวหาดใหญ่ว่า วัดสมเด็จ ซึ่งอยู่ทางไปสนามบิน จำนวน 30 รูป เดินธุดงค์ มาหลายวันแล้ว โดยแวะดูสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ซึ่งมีอยู่ค่อนข้างมาก ในแถบนี้ และอาตมาคิดว่าจะเป็นการเรียนที่ได้ผลมากกว่าการเรียนในห้องเรียนที่วัด สามเณรจะได้ศึกษาของจริงที่มีอยู่ ” ซึ่งผมก็เห็นด้วย เพราะผมเองก็ตื่นตาตื่นใจ ที่ได้เห็นโบราณสถาน ที่เก่าแก่มีอายุนับพันปี ซึ่งเราไม่ต้องเดินทางไปศึกษา ความเจริญทางพระพุทธศาสนา ที่เมืองสุโขทัย แต่ที่เมืองสงขลา ก็มีอยู่ค่อนข้างมาก และเพื่อเป็นที่ระลึกของการเดินทางมาเยี่ยมชมสถูปเจดีย์ ผมจึงขอพระมหาเกรียงไกร ร่วมถ่ายรูปกับสามเณรที่เดินธุดงค์ มาชมโบราณสถาน ที่ยังหลงเหลือร่อยรอยของความเจริญในทางพระพุทธศาสนา ให้พวกเราได้เห็น 
 
หลังจากที่ได้ชื่มชมความงดงาม ของสถูปเจดีย์ พระมหาเกรียงไกร ก็ได้พาสามเณร เดินทาง กลับที่พัก บริเวณป้อมปราการ เพื่อเดินทางต่อไป 
 
และตลอดการเดินทางกลับ ผมก็ได้สนทนากับสามเณรโดนี่ ที่ผมได้ความรู้อย่างมากมาย จากสามเณร ที่ผมคาดว่า จะมีอายุประมาณ 12 ปี แต่มากด้วยองค์ความรู้ในพระพุทธศาสนา ขณะที่เราเดินทางกลับ สามเณรโดนี่ ก็บอกว่า   “เป็นบุญนะ ที่ได้มีโอกาสมาพบกัน ได้มาเห็นถิ่นของพระพุทธศาสนา ดีกว่าเดินห้างนะ เพราะยิ่งเดินในห้างก็ยิ่งเกิดกิเลส ” ผมเห็นลูกเณรโดนี่ พูดถึงเรื่องธรรมะ ผมจึงพูดขึ้นว่า “พระพุทธเจ้าก็เป็นคนอินเดียนะ และสามเณร ก็เป็นคนอินเดีย ช่างเก่งจริง ๆ ” ผมพูดถึงตอนนี้ ทำให้สามเณรโดนี่ หยุดครุ่นคิดนิดหนึ่ง และผมก็ยิ่งครุ่นคิดยิ่งขึ้น ว่า สามเณรโดนี่ รูปนี้แหล่ะ ที่จะเป็นผู้สืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง 
 
* * * * * * * * * * *

คลิ๊กนี้มีความหมาย

ณรงค์ ชื่นนิรันดร์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.ภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000 : Webmaster by Narong Cheunniran : อีเมล์ :narongthai53@gmail.com